บริการฉีดหลุมสิว Juvgen จาก Gentle Clinic

บริการฉีดสร้างเนื้อหลุมสิวถาวร Juvgen จาก Gentle Clinic

Juvgen นวัตกรรมชิ้นเดียวที่รักษาหลุมสิวลึกได้ถาวร สำเร็จได้ 80% ในครั้งแรก

สารบัญ

JUVGEN คืออะไร

JUVGEN เป็นเทคนิคการรักษาปัญหาหลุมสิวถาวร โดยใช้เครื่องมือแพทย์ Dual Chamber Syringe ในการฉีด CO2 foam ซึ่งประกอบไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีอนุภาคเล็กเข้าไปในแผลเป็นที่ยุบอยู่ในชั้นหนังแท้ (Depressed Scars) เช่น หลุมสิว, ร่องลึกบนหน้าผาก, ร่องลึกข้างแก้ม และ แผลยุบจากอุบัติเหตุ

โดยตัวเครื่องออกแบบมาให้สามารถฉีด CO2 โฟม (ก๊าซกึ่งเหลว) เข้าไปใต้หลุมยุบอย่างปราณีตในปริมาณที่น้อยมากๆระดับไมโครลิตร (uL) ในแบบที่การฉีดด้วยมือหรือเครื่องมือทั่วไปไม่สามารถทำได้ เพื่อสร้างโครงเนื้อเยื่อในทันทีและกระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนจำนวนมากมาเติมเต็มหลุมสิว อ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2012 พบว่าภายใน 60 วัน จะมีเนื้อเยื่อถูกสร้างขึ้นใหม่ทดแทนโครงนั้นอย่างสมบูรณ์ ผิวกลับมาเรียบอย่างถาวรภายในการรักษาเพียงครั้งเดียว

JUVGEN ทำงานอย่างไร

ย้อนไปในปี 2013 ดร.จินพบว่าก๊าซ CO2 มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้วผิวได้ดี แต่!!ก๊าซดังกล่าวก็จะสลายตัวออกจากผิวไปอย่างรวดเร็ว ปริมาณคอลลาเจนที่เกิดขึ้นจึงมีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ดร.จินจึงพัฒนา JUVGEN ขึ้นมาเพื่อบังคับให้ก๊าซ CO2 สร้างพันธะลงใน Hyalyronic Acid จนเกิดสภาวะของผสมกึ่งก๊าซ (CO2-foam) ที่ขังก๊าซ CO2 อยู่ในหลุมสิวได้นาน 1 – 3 เดือน เพียงพอที่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจำนวนมหาศาล จนเติมหลุมสิวให้เต็มได้อย่างถาวร

ขั้นตอนการทำ JUVGEN มีอะไรบ้าง

แพทย์เริ่มทำการรักษาได้โดยไม่ต้องแปะยาชา เพราะเข็มของ Juvgen ขนาดเล็กเท่าเส้นผมจะไม่เจ็บ และไม่มีความร้อนเหมือนเลเซอร์

Q&A คำถามที่พบบ่อย

ทำไมการรักษาหลุมสิวแบบอื่นถึงไม่เห็นผล

1. Laser รักษาหลุมสิว

ตลอดเวลา 2 ทศวรรษที่เครื่องมือแพทย์ชนิด Energy-based ได้แก่ CO2 Laser, Erbium Laser, Fractional RF, Needling RF รวมถึง Picosecond Laser ถูกใช้ในการรักษาหลุมสิว ได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไม่ว่า Laser ชนิดใดๆ ล้วนรักษาหลุมสิวได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การส่งผ่านความร้อนสู่ผิวด้วย Laser นั้นจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวชั้นบนหนาขึ้นได้เพียงเล็กน้อย (~ระดับ uM หรือ 1/1000 mM) และเกลี่ยให้ผิวชั้นบนดูเรียบขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้ยกก้นหลุมสิวขึ้นมาได้ แม้ว่าจะทำไปหลายสิบครั้งแล้วก็ตาม

หรือในกรณีของการใช้ความร้อนหรือแรงดันทำให้ผิวบาดเจ็บและซ่อมแซมตัวเองอย่างการใช้เลเซอร์, การกรอผิว, การสร้างฟองอากาศบนผิวชั้น Upper Dermis หรือการส่งผ่านความร้อนด้วยเข็มสู่ผิวชั้น Dermis นั้นจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพียงเล็กน้อยและเกลี่ยให้ผิวชั้นบนดูเรียบขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้ยกก้นหลุมสิวขึ้นมาได้ แม้ว่าจะทำไปหลายสิบครั้งแล้วก็ตาม

2. Subcision ตัดผังผืดหลุมสิว

เนื่องจากใต้หลุมสิวและบริเวณโดยรอบมักเป็นผังผืดที่ประสานกับผิวจนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นใยเกาะอยู่ใต้หลุมสิวอย่างที่เห็นตามสื่อทั่วไป Subcision จึงเป็นการเลาะผิวด้านล่างออกทั้งหมดโดยไม่สามารถแยกผิวปกติออกจากผังผืดได้ หลังการทํา subcision หลุมสิวจึงถูกยกขึ้นชั่วคราวและมักยุบกลับลงไปตามเดิม นอกจากจะรักษาหลุมสิวไม่ได้แล้วยังเกิดผังผืดใหม่ที่มากยิ่งขึ้นยิ่งกว่าอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

3. ฉีด Filler หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมหลุมสิวนั้นเป็นการแก้ไขหลุมสิวแบบชั่วคราว โดยจะเห็นผลเพียง 1 – 3 เดือนเท่านั้น เนื่องจากหลุมสิวเกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ที่ความลึกไม่เกิน 2 mm ซึ่งเป็นตําแหน่งที่มีเอนไซม์ Hyaluronase ปริมาณมาก การเติมหลุมสิวจึงคงสภาพอยู่ได้สั้นกว่าการเติมฟิลเลอร์ในผิวชั้นอื่นเป็นอย่างมาก ตัวฟิลเลอร์ถูกออกแบบมาเพื่อเติมวอลลุ่ม ทดแทนชั้นไขมันหรือกระดูกที่ทรุดตัวลง การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการฉีดด้วยมือแพทย์ในปริมาณมากๆ ออกจากเข็มทู่ (หรือแม้แต่เข็มแหลม) ไม่ใช่การฉีดทีละน้อยเพื่อเติมแต่งหลุมสิว นอกจากได้ผลระยะสั้นแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยังทําให้หลุมสิวเรียบหรือใกล้เคียงผิวปกติได้ยาก มักพบปัญหา OverFill ฉีดแล้วก็ยังเป็นหลุมเหมือนเดิมอีกด้วย

4. ฉีด Biostimulator หลุมสิว

Biostimulator เป็นสารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid (หรือฟิลเลอร์) มากกว่า 60% แม้จะช่วยกระตุ้นการสร้างความคอลลาเจนได้ แต่ Biostimulator ไม่ใช่การสร้างเนื้อเยื่อปริมาณมากเพื่อเติมเต็มหลุมสิว จึงไม่สามารถเติมเต็มหลุมสิวได้อย่างถาวร หากผิวสูญเสียความกระชับแล้วหลุมสิวก็จะกลับมาเหมือนเดิม

จริงอยู่ที่หลังจากฉีด Biostimulator เข้าไปแล้ว หลุมสิวดูตื้นขึ้นอาจจะถึง 50% ในช่วง 2 เดือนแรก เนื่องมาจากปริมาณของฟิลเลอร์ที่ยังคงเต็มอยู่ในหลุมสิว แต่หลังจากนั้นจะพบว่าหลุมสิวค่อย ๆ ยุบลง และเด่นชัดขึ้นอย่างช้าๆ ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

JUVGEN ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

ครั้งเดียวครับ แม้ว่าหลังการรักษาจะมีการเติมหลุมสิวให้เต็มทันทีที่เข้ารับการรักษา แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30 – 60 วัน สารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำอีกเป็นรอบสอง

JUVGEN ปลอดภัยแค่ไหน

Juvgen ได้รับการวิจัยและการยอมรับในระดับโลก มีการจดและยื่นจดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 40 ฉบับ ทั้งเกาหลี สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น และที่สำคัญ ดร.จิน ยังเป็นศัลยแพทย์ที่มากประสบการณ์ มีผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นจำนวนมาก เป็นที่ปรึกษาให้กับคลินิกผิวหนังหลายๆ แห่ง จึงได้รับการยอมรับในวงกว้างทั้งจากวงการแพทย์เกาหลีและแพทย์จากต่างประเทศมาอย่างยาวนาน คุณจึงมั่นใจได้เลยว่า ปลอดภัยแน่นอนครับ