ฉี่แล้วแสบ สัญญาณเตือนของกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่ไม่ควรละเลย

March 29, 2023
3:58 pm

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาปัสสาวะขัด ฉี่แล้วแสบ ไหล ๆ หยุด ๆ รู้สึกฉี่ไม่สุด ปวดท้องน้อย หรือบางทีก็กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของน้องชายที่อาจนำมาสู่โรคร้ายในระยะยาวที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ต่อให้อาการดังกล่าวจะมาเป็นประจำหรือครั้งคราวก็ตาม ว่าแต่อาการแบบนี้เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับเราได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ

ฉี่แล้วแสบเกิดจากอะไร

ปัสสาวะขัด เป็นอาการปวดแสบบริเวณท่อปัสสาวะในช่วงก่อนหรือหลังปัสสาวะ โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากความรู้สึกแสบขณะปัสสาวะแล้ว ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น รู้สึกเจ็บปวด แสบ หรือคันบริเวณอวัยวะเพศ หากรู้สึกแสบขณะปัสสาวะนานเกิน 1 สัปดาห์, ปัสสาวะมีกลิ่นแปลกไปจากเดิม, มีหนองปนปัสสาวะ, ปวดหลัง, มีไข้ หรืออาจรุนแรงไปจนถึงขั้นเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และนิ่วในไตอีกด้วย แม้ว่าอาการแสบจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าเนื่องจากมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย เสี่ยงต่อการที่เชื้อโรคจะเข้ามาในร่างกายได้มากกว่าก็จริง แต่อาการแสบก็สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ

กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคในปัสสาวะสะสมอยู่ในร่างกายมากขึ้น
ทำความความสะอาดอวัยวะเพศไม่ทั่วถึง หรือละเลยการทำความสะอาด
ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับอวัยวะเพศโดยเฉพาะ ได้แก่ สเปรย์เฉพาะจุด น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ระคายเคืองอวัยวะเพศ เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม
รับประทานอาหารที่มีกรดเป็นประจำ เช่น กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ เนื่องจากทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง
ไม่สวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
รับประทานยากดภูมิต้านทาน
ใช้สายสวนปัสสาวะเป็นประจำ ทำให้เชื้อโรคจากสายสวนเข้ามาในร่างกายง่ายขึ้น
ผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ, โรคมะเร็งในทางเดินปัสสาวะ, โรคกระเพาะปัสสาวะผิดปกติแต่กำเนิดแบบเรื้อรัง ฯลฯ

รักษาอาการอย่างไรได้บ้าง

สำหรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงมาก แพทย์จะจ่ายยาสำหรับบรรเทาอาการ ได้แก่ พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) โดยให้ทาน 3-5 วัน แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจต้องทานยาปฏิชีวนะประมาณ 7-10 วัน

วิธีป้องกันอาการแสบได้ด้วยตัวเอง

1.ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ถูกเวลา

นอกจากการทำความสะอาดอวัยวะเพศก่อนอาบน้ำทุกครั้งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำก่อนทำความสะอาดอวัยวะเพศคือ ตรวจเช็กว่ามีขี้เปียกหมักหมมอยู่ใต้หนังหุ้มปลายหรือไม่ หากมีให้ร่นหนังหุ้มปลายออกมาจนสุดอย่างเบามือ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสบู่สูตรอ่อน โดยล้างให้ทั่วหนังหุ้มปลายและหัวองคชาต แล้วล้างตามด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนู จากนั้นรูดหนังหุ้มปลายลงเหมือนเดิม แต่หากทำความสะอาดทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว แต่ขี้เปียกยังไม่หลุดออกสักที ไม่แนะนำแคะออกเอง เพราะอาจระคายเคืองต่ออวัยวะเพศได้ ทั้งนี้ให้รีบไปแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อหาทางรักษาต่อไปครับ

2.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

วิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ดี เริ่มต้นจากการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน อย่างน้อย 8 แก้ว แม้ว่าร่างกายจะได้รับน้ำมากพอก็ตาม แต่อย่าลืมปัสสาวะให้เป็นเวลาด้วยนะครับ เพราะการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ จะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนานขึ้น ส่งผลให้เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคน้อยลง ดังนั้นหากรู้สึกปวดปัสสาวะก็ไม่ควรกลั้นเอาไว้เป็นเวลานานนะครับ และที่สำคัญควรป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งด้วยการสวมถุงยางอนามัย

3.ขลิบไร้เลือด

การขลิบถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เป็นอย่างดี เพราะหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวซึ่งใครหลายคนมองข้าม นั่นคือการสะสมของเชื้อโรคบริเวณหนังหุ้มปลาย แม้ว่าบริเวณอวัยวะเพศจะมีหนังหุ้มปลายสำหรับหุ้มหัวองคชาตเอาไว้ แต่บางคนกลับมีปัญหาไม่สามารถรูดขึ้น-ลงได้ จึงไม่สามารถทำความสะอาดหัวองคชาตได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคตามมา หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจทำให้หนังหุ้มปลายอักเสบจนถึงขั้นหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ ที่ก่อให้เกิดแผลเรื้อรัง มีเนื้อตาย และองคชาตใช้งานไม่ได้ไปในที่สุด ซึ่งการขลิบแบบไร้เลือดเป็นการใช้เครื่องขลิบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) แทนการกรีดตัดแบบดั้งเดิม เพื่อใช้ตัดรอบวงหนังหุ้มปลายและเย็บติดด้วยกลัดอลูมิเนียมไปพร้อม ๆ กัน ข้อดีของการขลิบไร้เลือดจะช่วยให้คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งเป็นการผ่าตัดที่รวดเร็วและแม่นยำจนถึงขั้นไม่มีเลือดออก หรือเลือดออกน้อยมาก แถมยังเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดน้อยกว่าการขลิบแบบทั่วไปอีกด้วย

บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด

แม้ว่าปัญหาฉี่แล้วแสบอันเกิดขึ้นเพียงบางครั้ง หรือเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นความเคยชินของใครหลายคนก็ตาม แต่จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่านี่คือปัญหาที่ควรได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ดังนั้นหากคุณมีปัญหาดังกล่าว เราขอแนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องชายคุณครับ

บทความที่น่าสนใจ

ขลิบไร้เลือดครั้งเดียวในชีวิต ทำไมต้องขลิบกับ Gentle Clinic

แม้ว่าคลินิกขลิบส่วนใหญ่จะใช้วิธีขลิบไร้เลือดกันแล้ว แต่ที่ Gentle Clinic เรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) เป็นอุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพของการต้านการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดการอักเสบ ปวดบวม ฟกช้ำของกล้ามเนื้อ จึงไร้อาการปวดในทันทีและไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน โดยบริการนี้คนไข้จะได้รับทันทีที่ขลิบไร้เลือดเสร็จ ซึ่งจะช่วยบบรเทาอาการปวดที่จะเกิดขึ้นหลังการขลิบได้เป็นอย่างดี

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: อุโมงค์ออกซิเจนคืออะไร ดีต่อการขลิบไร้เลือดอย่างไร

สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา