ต่อมลูกหมากอักเสบถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพน้องชายที่ผู้ชายหลายคนกำลังประสบอยู่และสร้างความทรมานในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก แต่ใช่ว่าปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ได้ ดังนั้นเราจะพามาทำความรู้จักกับภาวะดังกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากอะไร มีพฤิตกรรมเสี่ยงไหนบ้างที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ มีวิธีสังเกตอาการได้อย่างไรบ้าง รวมถึงวิธีรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับคุณ แม้ว่าสาเหตุของโรคจริง ๆ จะไม่สามารถทราบได้แน่ชัดก็ตาม
ต่อมลูกหมากอักเสบคืออะไร
เป็นภาวะที่เกิดจากต่อมลูกหมากติดเชื้อและเกิดการอักเสบขึ้นมา จากนั้นเชื้อจึงย้อนกลับไปยังท่อปัสสาวะ ทำให้คนไข้เกิดอาการปวดบริเวณขาหนีบ อัณฑะ หรืออาจปวดทั้งองคชาตก็ได้เช่นกัน รู้สึกแสบขณะถ่ายปัสสาวะ แม้ว่าจะพบได้ในผู้ชายทุกวัย แต่กลับพบได้บ่อยในผู้ชายที่มีอายุประมาณ 30-50 ปี ทั้งนี้ภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุสำคัญคือ เกิดจากการบาดเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ และเกิดจากการติดเชื้อแบทคีเรีย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ต่อมลูกหมากอักเสบชนิดติดเชื้อเรื้อรัง (Chronic bacterial prostatitis) อาการส่วนใหญ่จะเป็น ๆ หาย ๆ มานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป อาจปวดอุ้งเชิงกรานร่วมด้วย สังเกตได้จากการปวดท้องน้อย ปวดอัณฑะ ปวดอวัยวะเพศ หรือปวดทวารหนักได้ด้วย
- ต่อมลูกหมากอักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน (Acute bacterial prostatitis) จัดเป็นประเภทที่รุนแรงที่สุด เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอาการหนาวสั่น ปัสสาวะผิดปกติจากเดิม เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ไม่สุด ต้องใช้แรงเบ่งปัสสาวะ อันเนื่องมาจากต่อมลูกหมากบวมจนกดท่อปัสสาวะให้แคบลง
ความเสี่ยงต่อการเกิดต่อมลูกหมากอักเสบ
- มีอายุ 30-50 ปี
- คนในครอบครัวมีประวัติต่อมลูกหมากอักเสบ
- ผู้ป่วยมีประวัติต่อมลูกหมากอักเสบมาก่อน
- ได้รับบาดเจ็บบริเวณท้องน้อย
- มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ขี่ม้า หรือปั่นจักรยานมากเกินไป
- มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือถูกทารุณกรรมทางเพศมาก่อน
- มีประวัติเข้ารับการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากมาก่อน
- เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาทส่วนควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อบริเวณต่อมลูกหมาก เช่น มีพังผืด
อาการของต่อมลูกหมากอักเสบ
- อัณฑะบวมโตกมากกว่าปกติ
- ปวดองคชาต ปวดอัณฑะ หรือปวดบริเวณรอบ ๆ อย่างขาหนีบ ท้องน้อย ทวารหนัก หรือปวดหลัง
- รู้สึกแสบขัดขณะปัสสาวะ ปัสสาวะไม่สุด
- สีของปัสสาวะแปลกไปจากเดิม เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะมีสีขุ่น
- มีอาการปวดหลังจากท้องผูก
- รู้สึกปวดส่วนต่าง ๆ ของอวัยวะเพศขณะถ่ายหนัก
- ปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อ่อนเพลียง่าย
- มีไข้ ไม่สบาย
- อวัยวะเพศไม่แข็งตัวขณะมีเพศสัมพันธ์
- รู้สึกเจ็บเมื่อหลั่งน้ำอสุจิ ปวดท้องน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์
รักษาต่อมลูกหมากอักเสบอย่างไรได้บ้าง
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลัก ๆ คือการใช้ยายาปฏิชีวนะตามอาการ ได้แก่ ยาในกลุ่ม NSAIDs, ยาในกลุ่ม Opioids ฯลฯ หากผู้ป่วยมีไข้สูง แพทย์จะฉีดยาปฏิชีวนะให้ทางหลอดเลือดดำจนอาการดีขึ้นแล้วจึงเปลี่ยนมาใช้ยาทาน กรณีที่ผู้ป่วยเป็นต่อมลูกหมากอักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ส่วนต่อมลูกหมากอักเสบชนิดเรื้อรังจะใช้เวลานานตั้งแต่ 4-12 สัปดาห์ ทั้งนี้คนไข้ควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพตรงตามที่แพทย์วางแผนการรักษาเอาไว้ หากเกิดความผิดปกติระหว่างการรักษา เช่น รู้สึกปวดหรือแสบขัดขณะปัสสาวะ มีเลือดออกปนกับปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน มีไข้ หนาวสั่น ให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ป้องกันต่อมลูกหมากโตได้ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงการประทานอาหารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น อาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- นั่งหรือนอนท่าที่ไม่กดทับต่อมลูกหมาก
- งดออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการกดทับต่อมลูกหมาก เช่น ขี่จักรยาน ขี่ม้า
- ทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธีด้วยการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมอย่างระมัดระวัง หากเกิดปัญหาหนังหุ้มปลายตีบ ไม่สามารถเปิดหัวองคชาตออกมาทำความสะอาดได้ อาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจนเกิดต่อมลูกหมากโตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบตามมาในระยะยาว
ทั้งนี้หากคุณไม่สามารถเปิดหัวน้องชายออกมาทำความสะอาดได้เอง สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการขลิบไร้เลือด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาสำหรับกำจัดหนังหุ้มปลายส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิคการขลิบและเย็บในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาหนังหุ้มปลายผิดปกติ สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาแบคทีเรียสะสมได้ดี นอกจากนี้ยังดีกว่าการขลิบแบบเก่าที่อาจสร้างความเจ็บปวดและอาจมีผลแทรกซ้อนมากกว่า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเย็บแผลและที่สำคัญหากคุณรักษากับคลินิกชั้นนำที่มีประสบการณ์ขลิบสูง ผ่านการแก้แผลขลิบมาหลายเคสด้วย ก็ยิ่งมั่นใจได้เลยว่าการขลิบไร้เลือดของคุณปลอดภัย ได้แผลสวย เพิ่มความมั่นใจให้น้องชายคุณได้มากขึ้นแน่นอน
บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบไร้เลือดชั้นนำ มากประสบการณ์ การันตีด้วยผลงานนับไม่ถ้วน ทางเรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด ทางเราสามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามและแผลอักเสบมานับครั้งไม่ถ้วน และที่สำคัญเรายังมีคลินิกพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand
