การทำความสะอาดอวัยวะเพศชายอย่างถูกวิธีถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ชายอย่างเรา เพราะนอกจากจะทำให้อวัยวะเพศไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ตามมากวนใจขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างวันแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศอีกด้วย แต่หลายคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำความสะอาดอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดได้ไม่หมดทุกจุดหรือทำความสะอาดแล้วแต่น้องชายก็ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่ดี ว่าแต่ปัญหาดังกล่าวเกิดจากอะไร แล้วการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ควรทำอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบครับ
การทำความสะอาดอวัยวะเพศชายที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร
- ตีสบู่หรือผลิตภัณฑ์สำหรับล้างจุดซ่อนเร้นใส่มือแล้วตีให้เป็นฟอง
- นำฟองมาถูให้ทั่วอวัยวะเพศ โดยเริ่มตั้งแต่ส่วนโคนเป็นอันดับแรก ในกรณีของผู้ที่ไม่ได้ขลิบ ให้รูดหนังหุ้มปลายเข้าหาตัวเพื่อเปิดหัวองคชาตออกมาทำความสะอาด
- ถูบริเวณหัวองคชาตและหนังหุ้มปลายอย่างเบามือ เพื่อป้องกันไม่ให้มีขี้เปียกสะสมอยู่ตามหนังหุ้มปลาย
- ไม่ควรฉีดด้วยฝักบัวไปยังอวัยวะเพศโดยตรง เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้ แนะนำให้ราดน้ำเบา ๆ ให้น้ำไหลลงอวัยวะเพศแทน
- เมื่อล้างด้วยน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนู หรือกระดาษทิชชู่แบบหนา ซับอวัยวะเพศให้แห้ง
5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำความสะอาดน้องชาย
1.ทำความสะอาดด้วยสบู่ทั่วไป
หลายคนอาจคิดว่าการทำความสะอาดน้องชายก็เหมือนการทำความสะอาดอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย เลยไม่ได้พิถีพิถันในการทำความสะอาดมากนัก แต่ในความเป็นจริงนั่นเป็นความคิดที่ผิดครับ เพราะอวัยวะเพศเป็นส่วนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเสี่ยงต่อการระคายเคืองง่ายมาก อย่าลืมนะครับว่าสบู่ทั่วไปมีค่า pH ที่เป็นด่าง และมีสารที่มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองง่ายอีกด้วย ดังนั้นสบู่ที่ควรใช้จึงต้องเป็นสบู่สูตรอ่อนจะดี หรืออาจใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับล้างจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะก็ดีเช่นกันครับ
2.ทำความสะอาดบ่อย ๆ
ยังมีหลายคนเชื่อว่า ยิ่งทำความสะอาดบ่อยเท่าไหร่ น้องชายก็จะยิ่งสะอาดมากขึ้นเท่านั้น ข้อนี้ก็ไม่จริงครับ เพราะการทำความสะอาดอวัยวะเพศมากเกินไปอาจทำให้น้องชายระคายเคืองได้ เนื่องจากถูกสัมผัสบ่อย ๆ โดยไม่จำเป็น สำหรับจำนวนการล้างที่เหมาะสมนั้น เพียงแค่ช่วงอาบน้ำตอนเช้าและตอนเย็นก็พอแล้วครับ
3. ใช้แอลกอฮอล์เช็ดน้องชาย
แม้ว่าแอลกอฮอล์จะช่วยฆ่าเชื้อตามบาดแผลได้เป็นอย่างดี แต่คงไม่ดีแน่ หากเอามาเช็ดน้องชายซึ่งเป็นบริเวณที่มีผิวบอบบางกว่าจุดอื่น ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์แบบน้ำ หรือแอลกอฮอล์ที่มาจากทิชชู่เปียกก็ตาม เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้น้องชายระคายเคืองง่ายนั่นเองครับ
4.ใช้น้ำอุ่นทำความสะอาด
หลายคนอาจเคยเห็นหรือได้ยินมาว่าน้ำอุ่นจะช่วยให้น้องชายรู้สึกผ่อนคลาย ทำความสะอาดง่ายขึ้น นี่ก็เป็นความคิดที่ผิดเหมือนกันครับ เพราะถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งระคายเคืองผิวน้องชายง่ายขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะบริเวณปลายองคชาตซึ่งเป็นศูนย์รวมเส้นประสาท หากสัมผัสกับน้ำอุ่นหรือร้อนเกินไปอาจทำให้เกิดแผลหรือระคายเคืองหนักมากขึ้นด้วย ดังนั้นการล้างน้องชายด้วยน้ำอุณหภูมิห้องจึงเหมาะที่สุดครับ
5. มีขี้เปียกติดอยู่ ต้องถูแรง ๆ เดี๋ยวก็หลุดออก
อันนี้ก็เป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีกับสุขภาพน้องชายสักเท่าไหร่นะครับ เนื่องจากน้องชายของเราเป็นอวัยวะที่บอบบาง หากถูกสัมผัสแรง ๆ อาจทำให้ระคายเคืองได้ด้วย ทางที่ดีควรทำความสะอาดเบา ๆ ก็พอครับ แต่หากทำความสะอาดมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้วแต่ขี้เปียกยังไม่หลุดออกสักที ทางเราไม่แนะนำให้แกะหรือหาของมาขูดให้หลุดออกนะครับ เพราะอาจทำให้เจ็บบริเวณน้องชายได้ง่าย ๆ ทางที่ดีควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาจะดีที่สุดครับ
ทำความสะอาดถูกวิธีแล้วแต่ยังมีกลิ่น เกิดจากอะไร
แม้ว่าคุณจะทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธีแล้วก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าน้องชายของคุณจะสะอาด 100% เพราะอาจมีสาเหตุอื่นที่ทำให้น้องชายสกปรกโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่ได้ทำความสะอาดหลังมีเพศสัมพันธ์และเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ที่นำมาสู่กลิ่นที่ไม่พึงประงค์
- ใส่กางเกงชั้นในตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลานอน ทำให้บริเวณน้องชายเกิดการอับชื้นสูงอยู่ตลอดเวลา
- ใส่กางเกงในซ้ำ จนมีเชื้อราสะสมบริเวณกางเกงในเป็นจำนวนมาก
- ละเลยการเล็มขนบริเวณอวัยวะเพศ ปล่อยให้ขนยาวเกินไปจนกลายเป็นแหล่งสะสมเหงื่อ
การขลิบไร้เลือด: ทางเลือกในการทำความสะอาดที่ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าผู้ชายหลายคนจะสามารถรูดหนังหุ้มปลายสำหรับทำความสะอาดน้องชายได้ก็จริง แต่ยังมีอีกหลายคนที่ประสบปัญหารูดหนังหุ้มปลายขึ้นลงไม่ได้ การขลิบจึงเป็นวิธีการรักษาที่ช่วยให้คุณดูแลความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีวิธีการขลิบทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ขลิบด้วยใบมีดและไฟฟ้า, ขลิบด้วยเลเซอร์ และการขลิบไร้เลือด ซึ่งการขลิบไร้เลือดดีกว่าการขลิบด้วยใบมีดและไฟฟ้า และการขลิบด้วยเลเซอร์ เนื่องจากการขลิบแบบสองวิธีนี้จะต้องใช้มีดกรีดและตัดผิวหนังหุ้มปลายส่วนเกินแล้วจึงเย็บแผลติดเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนไข้สูญเสียเลือดระหว่างการรักษา แตกต่างจากการขลิบไร้เลือดที่ขลิบและเย็บแผลในขั้นตอนเดียวกัน อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดี มีความแม่นยำสูง และใช้เวลาผ่าตัดเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น นอกจากจะรักษาไว ให้แผลผ่าตัดที่สวยงาม และเจ็บน้อยแล้ว ยังเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาน้อยกว่าการขลิบแบบดั้งเดิมอีกด้วยครับ
บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
ทั้งนี้แม้ว่าคุณจะทำความสะอาดน้องชายดีแค่ไหน แต่อย่าลืมระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพน้องชายด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับอวัยวะเพศโดยเฉพาะ, การสวมใส่กางเกงชั้นในชายไม่คับจนเกินไป รวมถึงสวมใส่กางเกงสบาย ๆ โปร่ง ๆ เวลานอนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศแม้เวลานอนหลับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องชายนั่นเองครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบชั้นนำ มากประสบการณ์ การันตีด้วยผลงานนับไม่ถ้วน ทางเรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากทางเรารับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามและแผลอักเสบมานับครั้งไม่ถ้วน และที่สำคัญเรายังมีคลินิกพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 11 สาขา และมีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand