วิธีรักษาน้องชายมีกลิ่น

รวมวิธีรักษาน้องชายมีกลิ่น เพื่อการดูแลที่ดียิ่งขึ้น

Facebook
Twitter

เคยมั้ย? ต่อให้เราจะทำความสะอาดน้องชายมาเป็นอย่างดี ขัดสีฉวีวรรณทุกซอกทุกมุมแล้วก็ตาม แต่น้องชายก็ยังมีกลิ่นอยู่ดี แถมกลิ่นที่ลอยขึ้นมาถึงจมูกของเรานั้นก็เหม็นอับจนไม่กล้าให้ใครเข้าใกล้เลยทีเดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลิ่นไม่พึงประสงต์ของน้องชายอาจเกิดจากการดูแลน้องชายผิดวิธีที่คุณเองอาจเข้าใจผิดอยู่ก็เป็นได้ และวันนี้ Gentle Clinic รวมวิธีรักษาน้องชายมีกลิ่นทั้งหมด 5 แบบ มาฝากทุกคนกันครับ

5 วิธีรักษาน้องชายมีกลิ่น

1. ทำความสะอาดให้ถูกวิธี

ผู้ชายหลายคนอาจคิดว่าการล้างน้องชายนั้นง่ายมาก เพียงแค่ใช้น้ำราดน้องชายแล้วถูด้วยสบู่ก็พอ แต่ในความเป็นจริงแล้วการล้างน้องชายจะต้องพิถีพิถันมากกว่านี้อีกสักหน่อยนะครับ หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าควรรูดหนังหุ้มปลายออกมาล้างหัวองคชาตด้วยทุกครั้ง และเมื่อคุณไม่ได้รูดหนังหุ้มปลายออกมาก็จะทำให้ด้านในของหนังหุ้มปลายกลายเป็นแหล่งสะสมของสารคัดหลั่ง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บริเวณหนังหุ้มปลาย จริงอยู่ที่แบคทีเรียชนิดนี้จะไม่ทำอันตรายใด ๆ แต่นั่นหมายถึงแบคทีเรียมีปริมาณพอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป แต่หากมีแบคทีเรียนสะสมอยู่บริเวณหนังหุ้มปลายมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและมีกลิ่นตามมา หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบตามมาในอนาคต

สำหรับวิธีล้างน้องชายที่ถูกต้องจะต้องเริ่มจากการตีสบู่สูตรอ่อนหรือผลิตภัณฑ์ล้างจุดซ่อนเร้นจนเป็นฟอง จากนั้นนำฟองมาถูให้ทั่วน้องชายโดยเริ่มตั้งแต่ส่วนโคนเป็นอันดับแรก ในกรณีของผู้ที่ไม่ได้ขลิบ ควรรูดหนังหุ้มปลายเข้าหาตัวเพื่อเปิดหัวองคชาตออกมา กรณีที่มีขี้เปียกเกาะอยู่ข้าง ๆ หัวองคชาต ให้ถูเบา ๆ เพื่อให้ขี้เปียกหลุดออก (ไม่แนะนำให้ถูแรงเพราะอาจทำให้น้องชายระคายเคืองและอักเสบตามมา) หลังจากทำความสะอาดหัวองคชาตเสร็จแล้วค่อยไล่จากโคนเข้าไปยังถุงอัณฑะและขาหนีบเพื่อป้องกันการอับชื้นบริเวณขาหนีบซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ เมื่อถูเสร็จแล้วค่อยใช้น้ำสะอาดล้างออก ทั้งนี้หลายคนอาจคิดว่าฉี่น้ำใส่น้องชายจะช่วยให้สะอาดมากขึ้น ซึ่งที่จริงแล้วไม่ควรฉีดน้ำใส่น้องชายนะครับ แต่ให้เปลี่ยนมาเป็นการราดน้ำจากหน้าอกให้น้ำไหลลงไปยังน้องชายแล้วค่อยถูทำความสะอาดจะดีที่สุดครับ เมื่อแน่ใจแล้วว่าล้างครบทุกซอกทุกมุมแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูซับน้องชายให้แห้งโดยเฉพาะจุดอับชื้นง่ายอย่างขาหนีบและหนังหุ้มปลายที่เราต้องรูดออกมาเช็ดหัวองคชาตด้วย

2. ล้างน้องชายทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์

ยังมีอีกหลายคนที่เมื่อถึงเวลาจะต้องปฏิบัติภารกิจกับคู่แล้วก็ใจร้อน อยากจะเผด็จศึกอย่างเดียวโดยที่ไม่ล้างน้องชายก่อนเลย พอเสร็จกิจแล้วแทนที่จะไปล้างน้องชาย กลับกลายเป็นว่านอนหมดแรงอยู่บนเตียงซะอย่างนั้น ไม่ยอมลุกไปล้างน้องชายให้สะอาดก่อน จริงอยู่ที่หลังจากเสร็จกิจแล้วผู้ชายอย่างเราจะรู้สึกหมดแรง เนื่องจากร่างกายได้เผาผลาญไขมันส่วนเกินไปมากถึง 120 แคลอรี บวกกับร่างกายหลั่งสารโพรแลกติน (Prolactin) ที่ยับยั้งการทำงานของโดปามีน (Dopamine) ส่งผลให้เรารู้สึกง่วงง่าย แต่อย่าลืมนะครับว่าน้องชายของเราอาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกขณะสอดใส่ หากปล่อยไว้นาน นอกจากจะส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดมากับน้องชายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้น้องชายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระยะยาวได้อีกด้วยครับ

3. จัดการขนน้องชายไม่ให้รกรุงรัง

รู้มั้ยครับว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องชายมีกลิ่นเกิดจากขนที่รกมากเกินไป เนื่องจากผิวหนังใต้ขนรอบน้องชายเป็นบริเวณที่อับชื้นง่าย หากคุณทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ เช่น อยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เหงื่อไหลลงมายังน้องชายได้ง่าย ยิ่งถ้ามีขนเยอะด้วยแล้ว เหงื่อจะไหลเข้าไปอยู่ในขนน้องชายมาก และเมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา สำหรับวิธีจัดการขนน้องชายนั้นไม่ใช่แค่โกนด้วยใบมีดโกนเท่านั้นนะครับ เพราะผิวหนังของน้องชายเราเป็นผิวที่บอบบาง ระคางเคืองง่าย หากโกนเพียว ๆ เลยก็อาจเสี่ยงถูกใบมีดบาดได้ด้วยครับ หากคุณต้องการวิธีจัดการขนน้องชายแบบถูกต้องจะต้องเริ่มจากเลือกช่วงเวลาจัดการขนให้ถูกต้อง แนะนำให้อาบน้ำเย็นก่อนโกน เพราะเมื่อผิวหนังของเราสัมผัสกับน้ำเย็นแล้วจะทำให้ผิวตึงและโกนง่าย จากนั้นค่อยใช้กรรไกรเล็มขนน้องชายให้สั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยลงมือโกนไปในทิศเดียวกับขนน้องชายก่อน นอกจากจะทำให้ใบมีดไม่โดนผิวน้องชายแล้ว ยังช่วยให้ขนที่ขึ้นมาใหม่ไม่เป็นตอแข็งอีกด้วยครับ

4. รักษาโรคที่ทำให้น้องชายเหม็น

สำหรับโรคที่ทำให้น้องชายมีกลิ่นส่วนมากมักเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนองในและหนองในเทียม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังอย่างโรคสะเก็ดเงินและโรคเบาหวานที่ทำให้เกิดแผลบริเวณหนังหุ้มปลายง่ายกว่าคนทั่วไป เมื่อแผลติดเชื้ออักเสบแล้วจะสร้างความเจ็บปวดและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาอีกด้วยครับ

5. งดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้น้องชายอับชื้น

ด้วยความที่อากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน จึงทำให้เหงื่อไหลลงมายังน้องชายง่าย ทางที่ดีที่จะทำให้น้องชายอับชื้นน้อยลง คุณควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดจ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อไหลบ่อย ๆ เลือกสวมกางเกงและกางเกงในที่โปร่งสบาย ทำมาจากผ้าฝ้าย และที่สำคัญกางเกงที่คุณใส่จะต้องแห้งสนิท ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นน้องชายนั่นเองครับ

6. ขลิบไร้เลือด

การขลิบไร้เลือดเป็นวิธีรักษาน้องชายมีกลิ่นจากปัญหาหนังหุ้มปลายตีบตันหรืออักเสบ โดยแพทย์จะใช้เครื่องขลิบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ในการผ่าตัดเอาหนังหุ้มปลายออกและเย็บติดด้วยกลัดอลูมิเนียมภายในเวลาเดียวกัน ช่วยให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อยและลดการสูญเสียเลือดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้แผลแห้งไว หายเร็วกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากจะผ่าเอาหนังหุ้มปลายออก ช่วยให้ทำความสะอาดหัวองคชาตได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แถมยังเพิ่มระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้นเนื่องจากหัวองคชาตถูกสัมผัสจากภายนอกบ่อยจนรู้สึกคุ้นชินอีกด้วยครับ

ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี

แม้ว่าจะมีคลินิกขลิบไร้เลือดมากมาย แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90%  จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน

โปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบ ที่มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

บทความที่น่าสนใจ

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ