Foam CO2

Foam CO2 มีประโยชน์อย่างไร ทำไมถึงช่วยรักษาหลุมสิวได้ถาวร

Facebook
Twitter

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคนิคการรักษาหลุมสิวให้เลือกมากมาย แต่หนึ่งในเทคนิคที่ช่วยรักษาหลุมสิวได้ทันทีหลังการรักษานั่นก็คือเทคโนโลยี Juvgen จากโปรแกรม ScarSurgery โดยมีส่วนประกอบสำคัญนั่นก็คือ Foam CO2 ที่นอกจากจะช่วยเติมเต็มหลุมสิวทันทีแล้ว ยังช่วยรักษาได้อย่างถาวร ไม่ต้องกลับมาฉีดซ้ำหลายๆ รอบ เหมือนการรักษาประเภทอื่น ว่าแต่โฟมชนิดนี้คืออะไร ทำไมถึงช่วยรักษาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะมาอธิบายให้ฟังครับ

Foam CO2 คืออะไร

เป็นโฟมที่มีองค์ประกอบหลักเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ที่ถูกดัดแปลงให้อยู่ในรูปของโฟมกึ่งแข็งที่มีความหนืดและคงตัวได้ดีพอสมควร โดยโฟมชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นในทางการแพทย์และความงาม เพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในระดับเซลล์และเร่งการฟื้นฟูเนื้อเยื่อโดยไม่ต้องพึ่งความร้อนหรือสารเคมีรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อผิว หลักการทำงานของโฟมประเภทนี้เริ่มต้นจากการฉีดโฟมเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อให้ร่างกายรับรู้ว่าผิวบริเวณนั้นเกิดภาวะขาดออกซิเจนเฉียบพลัน (Hypoxia) เนื่องจากความเข้มข้นของ CO₂ เพิ่มสูงขึ้น เซลล์ในผิวจะตอบสนองโดยการขยายหลอดเลือดฝอยให้พร้อมต่อการส่งเลือดและออกซิเจนมาเลี้ยงผิวบริเวณนั้นมากขึ้น เป็นไปตามกลไกทางธรรมชาติของร่างกาย ภาวะนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องทำลายผิวหรือรอให้เกิดการอักเสบก่อนเหมือนบางเทคนิค เช่น เลเซอร์หรือการกรอผิว ช่วยให้ผิวบริเวณที่ถูกฉีดกลับมาสุขภาพดีและเรียบเนียน

จุดเด่นของ Foam CO2

  • กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ ตัวโฟมจะช่วยเพิ่มการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่ผิว ส่งผลให้ผิวดูสดใส ฟื้นตัวเร็ว และสุขภาพดีจากภายใน
  • ไม่ใช้ความร้อน จึงไม่ทำลายเซลล์ผิวโดยตรง ต่างจากการทำเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุที่อาจเกิดรอยไหม้หรือการลอกของผิว เนื่องจากโฟมจะเปลี่ยนสมดุลก๊าซเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตนเอง
  • คงตัวใต้ผิวได้ระยะหนึ่ง เนื่องจากโฟมมีคุณสมบัติยืดหยุ่นและคงรูปในระดับที่พอเหมาะ จึงสามารถใช้เป็นตัวเสริมโครงสร้างชั่วคราวให้กับผิวในระหว่างที่ร่างกายกำลังซ่อมแซมตัวเอง ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ถูกฉีดถูกเติมเต็มและเรียบเนียนทันทีหลังการรักษา
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย โฟมชนิดนี้ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง จึงลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง ผื่น หรือผลข้างเคียงในระยะยาว

Foam CO2 ช่วยรักษาหลุมสิวได้อย่างไร

เมื่อฉีดโฟม CO₂ ลงไปใต้ชั้นผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิว ร่างกายจะตอบสนองต่อปริมาณก๊าซ CO₂ ที่เพิ่มขึ้นด้วยการขยายหลอดเลือดฝอย เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนเข้าสู่บริเวณนั้นได้อย่างเฉพาะจุด ซึ่งจะกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เริ่มทำงานซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เนื้อเยื่อในบริเวณหลุมสิวค่อย ๆ ถูกเติมเต็มจากด้านล่างด้วยคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง นอกจากนี้โฟมยังช่วยยกผิวบริเวณที่ยุบตัวให้ดูเต็มขึ้นทันทีหลังฉีด ทำให้เห็นผลทั้งในระยะสั้น (ผิวตื้นขึ้นทันที) และระยะยาว (โครงสร้างผิวแน่นแข็งแรงถาวร) โดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็มแบบชั่วคราว ถือเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงธรรมชาติ และลดความเสี่ยงของรอยแผลหรือผลข้างเคียงจากเลเซอร์หรือการกรอผิว

Foam CO2 ในโปรแกรม ScarSurgery เหนือกว่าการรักษาหลุมสิวแบบอื่นอย่างไร

1. สร้างเนื้อใหม่จากใต้หลุมสิว ไม่ใช่แค่กระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบนแบบ Resurfacing Laser

การรักษาหลุมสิวส่วนใหญ่อย่าง Fractional Laser หรือ Microneedling จะเน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจน ในผิวชั้นบน (epidermis/dermis) โดยอาศัยความร้อนหรือการบาดเล็กๆ เพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาเติมเต็มหลุมสิว แต่ถ้าหลุมสิวลึก หรือเกิดจากพังผืดที่ยึดผิวไว้ การกระตุ้นจากผิวด้านบนอาจไม่เพียงพอ เพราะมันไม่สามารถเข้าถึงจุดที่เป็นรากของหลุมได้ แตกต่างจาก Foam CO₂ จะถูกฉีดเข้าไปลึกถึงใต้ผิว ในตำแหน่งที่เป็นฐานของหลุมโดยตรง และเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่เติบโตจากภายในขึ้นมาแทนที่รอยหลุม จึงเป็นการสร้างโครงสร้างเนื้อแท้ ไม่ใช่แค่กระตุ้นการซ่อมผิวชั้นนอก

2. ทำครั้งเดียวได้เนื้อเยื่อใหม่จำนวนมาก ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ เหมือน Laser/Subcision+Biostimulator

การทำเลเซอร์หรือ Subcision มักจะต้องทำหลายๆ ครั้งและต้องต่อเนื่อง เพราะแต่ละครั้งจะได้ผลลัพธ์เพียงบางส่วน (ประมาณ 10-20% ต่อครั้ง) โดยเฉพาะถ้าใช้ควบคู่กับ biostimulator เช่น PLLA หรือ CaHA ที่อาจต้องรอเวลาให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในภายหลัง แต่ Foam CO₂ ใช้เทคนิคที่สามารถเติมเนื้อเยื่อในระดับที่มากและควบคุมได้ภายในการรักษาครั้งเดียว โดยแพทย์สามารถปรับปริมาณโฟม CO₂ ที่ฉีดเข้าไปในแต่ละตำแหน่งเพื่อให้ตรงกับความลึกและขนาดของหลุมได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ที่ได้จึงชัดเจนและสม่ำเสมอกว่าการรักษาแบบอื่นที่ต้องรอสะสมผลหลายครั้ง

3. ผลลัพธ์คือเนื้อเยื่อถาวร อยู่ยาวนาน ไม่สลายตัวเหมือน Filler

แม้ว่าฟิลเลอร์จะให้ผลทันทีและดูเต็มฟู แต่ก็มีอายุจำกัดอยู่ที่ประมาณ 6-18 เดือน บางกรณีเกิดการยุบตัวไม่เท่ากัน หรือเกิดก้อนแข็งในระยะยาว อีกทั้งฟิลเลอร์เป็นสิ่งแปลกปลอมที่ใส่เข้าไปชั่วคราว ร่างกายไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง จึงถูกร่างกายขับออกไปเมื่อถึงอายุของมัน ตรงกันข้ามกับโฟม CO₂ ที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อแท้ของตัวเองขึ้นมาใหม่ หมายความว่าเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นคือ “ผิวหนังจริง” ที่มีเซลล์และโครงสร้างผิวตามธรรมชาติ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงอยู่ถาวร เทียบเท่ากับการปลูกถ่ายเซลล์ ไม่สลาย ไม่ยุบ ไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำ

ฉีด Foam CO2 ที่ไหนดี ทำไมต้อง JuvGenesis จาก Gentle Clinic

โปรแกรม ScarSurgery หรือ ศัลยกรรมเสริมเนื้อใต้หลุมสิวถาวรด้วยเทคโนโลยี JuvGenesis จาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นด้วย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีดโฟม CO₂ ที่มีส่วนประกอบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้แผลเป็น หลุมสิว หรือริ้วรอยร่องลึก โดยแพทย์จะฉีดสารเข้าไปทีละนิด ๆ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อปิดหลุมสิวในทันที แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง

นอกจากนี้ตัวเครื่องจูวีเจนถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ คนไข้จึงไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว และที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: บริการฉีดสร้างเนื้อหลุมสิวถาวร JuvGenesis จาก Gentle Clinic

บทความที่น่าสนใจ

ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ผ่านโปรแกรม ScarSurgery ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย

นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis

รีวิวการรักษา

หลุมสิว

หลุมสิว

หลุมสิว

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ