ปลูกผมถาวร

ปลูกผมถาวร ถาวรจริงไหม ทำไมต้องใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา

Facebook
Twitter

ยังมีอีกหลายคนที่กำลังประสบปัญหาผมร่วงและพยายามหาทางรักษาอย่างหนัก แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ยังไม่ดีขึ้นสักที วันนี้ Gentle Clinic จะมาแนะนำวิธีปลูกผมถาวรโดยใช้สเต็มเซลล์ของคนไข้เองในการรักษาว่ามีกี่รูปแบบ แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยครับ

ปลูกผมถาวรคืออะไร

เป็นวิธีการรักษาปัญหาผมขาดหลุดร่วงอันเนื่องมาจากพันธุกรรม หรือพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ โดยการนำรากผมบริเวณท้ายทอยย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แม้ว่าการปลูกจะมีหลากหลายวิธีให้เลือก แต่หนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนั่นก็คือการปลูกผมโดยใช้สเต็มเซลล์ของคนไข้เอง นอกจากจะได้ผลลัพธ์ไปในทิศทางที่ดีตามแผนการรักษาแล้ว ยังปลอดภัยต่อร่างกายของคนไข้เองอีกด้วย โดยสเต็มเซลล์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ สเต็มเซลล์ตัวอ่อน หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า เซลล์ต้นกำเนิด เป็นสเต็มเซลล์ที่แข็งแรงสมูบรณ์ พร้อมแตกตัวเพื่อทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เหมาะสำหรับรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด, โรคมะเร็งบางชนิด, โรคเลือด เป็นต้น และสเต็มเซลล์ชนิดที่ 2 คือ สเต็มเซลล์โตเต็มวัย เป็นสเต็มเซลล์ที่เจริญเติบโตเป็นส่วนอื่นที่เฉพาะเจาะจง ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์อื่นได้ สำหรับการรักษาปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะนั้นจะใช้สเต็มเซลล์โตเต็มวัยในการรักษา เนื่องจากเป็นสเต็มเซลล์ที่บริสุทธิ์และยังคงมีชีวิตอยู่เข้าไปซ่อมแซมเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง กระตุ้นให้เกิดการเจริฯเติบโตและแตกตัวไปทำปฏิกิริยากับส่วนที่มีปัญหาจากฮอร์โมนและพันธุกรรม

1. Hair Stem Micro Transplant

เป็นเทคโนโลยีการปลูกผมถาวรโดยใช้สเต็มเซลล์ของคนไข้เองถึง 90% โดยคุณหมอจะคัดเซลล์รากผมที่แข็งแรงตามท้ายทอยหรือข้างใบหูและนำ Dermal Cup Sheath จากปลายเซลล์มาผ่านกระบวนการในห้องแล็บเพื่อสกัดเอาเซลล์มีชีวิต โดยเซลล์รากผมที่ถูกสกัดออกจะทำหน้าที่ป้องกันรากผมจากผลข้างเคียงของฮอร์โมนเพศและกระตุ้นวงจรผมกลับมาเป็นปกติ จากนั้นจึงฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาเพื่อซ่อมแซมและกระตุ้นให้เซลล์รากผมกลับมาแข็งแรง ส่งผลให้รากผมผลิตเส้นผมที่ดกดำและหนาในปริมาณมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผมเดิม หลังจากการรักษาคนไข้กลับบ้านได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ ข้อดีของวิธีนี้คือไม่มีแผล ไม่ต้องกินยา ไม่เสี่ยงต่อภาวะหย่อนสมรรถทางเพศเหมือนการใช้ยา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางจากพันธุกรรมและจากฮอร์โมนทั้งเพศชายและเพศหญิง

2. Reginera Micrograft Hair

เป็นเทคนิคการปลูกผมโดยเน้นไปที่การรักษาอายุของเส้นผมของคนไข้ โดยแพทย์จะคัดเลือกรากที่แข็งแรงมากที่สุดบริเวณหลังใบหูหรือท้ายทอย นำมาสกัดและนำรากผมที่ได้ไปปั่นด้วยเครื่อง Reginera มาตรฐานจากยุโรปเพื่อนำรากผมที่สกัดได้ฉีดกลับไปยังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาเพื่อกระตุ้นรากผมที่อ่อนแอให้แข็งแรงและเพิ่มจำนวนการผลิตเส้นผมให้สูงขึ้น ช่วยให้คนไข้มีผมดกดำ ดูเป็นธรรมชาติ สำหรับผลลัพธ์การรักษาจะเริ่มเห็นผลในช่วง 45 – 90 วัน ข้อดีเทคนิคการรักษาประเภทนี้คือรักษาปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 – 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมร่วง ผมบางแต่ยังไม่ถึงขั้นศีรษะล้าน มีรูขุมขนพอให้ฉีดรากผมเข้าไปกระตุ้นได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีกราฟผมไม่เพียงพอต่อการปลูกแบบ FUE

ข้อดีของการปลูกผมด้วยสเต็ลเซลล์

  • ช่วยกระตุ้นรากผมให้แตกเซลล์และงอกขึ้นใหม่เป็นเส้นผมที่มีคุณภาพ ดกดำ แข็งแรง
  • ปกป้องรากผมจากฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีผลทำให้ผมร่วง
  • ฉีดเซลล์รากผมควบคู่กับการรักษาวิธีอื่นได้ ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ
  • เหมาะกับผู้ที่มีผมบางหรือศีรษะไม่ล้านมาก รูขุมขนยังไม่ปิด รากผมไม่แข็งแรง
  • ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้นานกว่าการรักษาแบบ PRP
  • เห็นผลหลังการรักษาแน่นอนประมาณ 2 – 3 เดือน
  • ไม่ต้องพักฟื้น กลับบ้านได้ทันที

ใครเหมาะกับการปลูกผมด้วยสเต็ลเซลล์บ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากฮอร์โมนและพันธุกรรม
  • ผู้ที่ไม่ต้องการรักษาปัญหาผมร่วงด้วยการผ่าตัดปลูกผม
  • ผู้ที่มีปัญหาผมขาดง่าย รากผมไม่แข็งแรง จากการใช้สารเคมีกับเส้นผมเป็นประจำ (ทำสี ดัดผม)
  • ผู้ที่ผ่านการปลูกผมมาก่อนและต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้ผมที่ปลูกมาคงทนถาวร

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปปลูกผมด้วยสเต็มเซลล์

  • แจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับยาประจำตัวเพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษา
  • งดรับประทานยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น วิตามิน E (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), แอสไพริน (Aspirin)
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังฉีดสเต็มเซลล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • สระผมให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการฉีดสเต็มเซลล์

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีดสเต็มเซลล์

  • งดสระผมหลังฉีดสเต็มเซลล์เป็นเวลา 1 วัน
  • งดทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณแผลอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น ซาวน่า ว่ายน้ำ ออกกำลังกายอย่างหนัก
  • ระมัดระวังในการนอนไม่ให้กดทับบริเวณที่มีการเจาะรากผม

รักษาผมร่วงที่ไหนดี

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน ที่ Gentle Clinic เรามีนวัตกรรม VEGF Stemcell ที่นำเลือดของคนไข้ในแต่ละคนมาสกัด Platelet หรือ PRP (Platlet-rich plasma) และนำมาผ่านกระบวนการ Cellysis อีกทีเพื่อให้ปลดปล่อย VEGF และ Stemcell ปริมาณสูงแล้วไปฉีดกลับให้คนไข้ ข้อดีของ VEGF Stemcell จะช่วยซ่อมแซมรากผม ช่วยกระตุ้นการสร้างระบบหลอดเลือดฝอยขึ้นใหม่ในรากผม หลังการรักษาแล้วคนไข้จะรู้สึกได้เลยว่าผมร่วงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมสำหรับรักษา ด้วยเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไร้แผลโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลเป็นและไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งระยะเวลาการหายของแผลเร็ว ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

นอกจากนี้เรายังมีมีโปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ด้วยออกซิเจนเข้มข้น 100% ใต้บรรยากาศแรงดันสูงเสมือนอยู่ใต้น้ำลึก ควบคู่กับการเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน จาก 20 เป็น 100% ทำให้ออกซิเจนละลายในพลาสม่าได้มากขึ้นเป็น 10 เท่า ร่างกายจึงส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้เซลล์ทุกเซลล์ตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปฏิกิริยาการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของอวัยวะในร่างกาย, ลดการอักเสบของข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ จากการเล่นกีฬาและออฟฟิศซินโดรม, กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคจาก ROS (reactive oxygen spicies) ที่มากขึ้น, กระตุ้นสมองและระบบประสาท เพิ่มหน่วยความจำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย คลายเครียด, ลดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

บทความที่น่าสนใจ

ผลการรักษา (ลูกค้าผู้ใช้บริการจริง)

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

รีวิว 2

 

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ