แม้ว่าการขลิบจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับใครหลายคนที่มีปัญหาหนังหุ้มปลายตีบตันจนรูดออกมาล้างหัวองคชาตได้ยาก รูดแล้วเจ็บ หรือรูดหนังหุ้มปลายออกมาไม่ได้เลย อาจจะอยากรู้ว่าการผ่าตัดขลิบยุ่งยากไหม ดูแลหลังขลิบอย่างไรดี เรามีคำตอบครับ
ผ่าตัดขลิบยุ่งยากไหม
ไม่ยุ่งยากเลยครับ เพราะแพทย์ที่ทำการขลิบในปัจจุบันใช้เทคนิคขลิบไร้เลือดกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างแตกต่างจากการขลิบแบบเก่าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลาในการผ่าตัดที่น้อยมาก เพียง 10 – 15 นาทีเท่านั้น เนื่องจากเครื่องขลิบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) มีความแม่นยำสูง สามารถตัดหนังหุ้มปลายออกได้โดยไม่ต้องมานั่งตกแต่งแผล แถมยังเย็บแผลด้วยกลัดอลูมิเนียมได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งเป็นเครื่องมือแพทย์ระดับ 2 จึงต้องมีการคุมเข้มในเรื่องของคุณภาพ เพื่อให้แพทย์นำมาใช้แล้วทิ้งได้เลย ไม่ต้องกลับมานั่งแก้แผลใหม่อีกรอบหรือใช้ซ้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนการขลิบไร้เลือดมีอะไรบ้าง
- แพทย์จะฉีดยาชาไปที่น้องชายเพื่อลดความรู้สึกเจ็บให้แก่คนไข้
- แพทย์จะเปิดปากหนังหุ้มตรงส่วนปลายน้องชายและใส่หัวครอบของเครื่องมือขลิบ เพื่อที่จะได้ขลิบหนังหุ้มลงไปที่หัวองคชาตด้านใน โดยตำแหน่งขอบหัวครอบจะอยู่ที่ร่องหัวองคชาตพอดี หรืออาจอยู่ตามตำแหน่งที่แพทย์กำหนด
- แพทย์จะใส่อุปกรณ์ส่วนที่เหลือตามลงไป เพื่อใช้ตัดหนังหุ้มส่วนปลาย และกดที่ตัวอุปกรณ์เพื่อตัดหนังหุ้มปลายออก เพียงคลิกเดียวก็ตัดเสร็จทันที
- แพทย์จะตรวจดูความเรียบร้อยของแผลว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ จากนั้นจะกดแผลด้วยผ้าก๊อซประมาณ 1 – 2 นาที เพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกจากแผล
ดูแลหลังการรักษาอย่างไรดี
1. ทำความสะอาดแผลขลิบอย่างถูกวิธี
สำหรับอุปกรณ์ทำความสะอาดแผลขลิบได้แก่ เซ็ททำแผล (ปากคีบ, ผ้าก๊อซทำแผล, สำลี 6 ก้อน) น้ำเกลือล้างแผล เบตาดีนชนิดน้ำ ผ้าก๊อซปราศจากเชื้อ ผ้ายืดพันแผล และพลาสเตอร์ไมโครปอร์ โดยเริ่มจาก
- นำผ้ายืดมาพันแผลแล้วเช็ดรอบแผลด้วยลำสีจนครบ 3 ก้อน
- วางผ้าก็อซรอบหัวองคชาตและซับแผลให้แห้ง
- นำสำลีเทเบตาดีนมาทาแผลเพื่อฆ่าเชื้อ
- นำผ้าก๊อซอีกแผ่นมาซับแผลเบา ๆ ซ้ำอีกที
- นำผ้าก๊อซมาพันแผล โดยคลี่ผ้าก๊อซออกและพับครึ่งในแนวยาว จากนั้นพันให้รอบแผลขลิบ
- เมื่อพันเสร็จแล้วให้ใช้พลาสเตอร์ไมโครปอร์มาแปะติดกับผ้ายืด หากเลือดไหลซึมออกมา ให้ใช้มือกำค้างไว้ประมาณ 3 – 5 นาที จนเลือดหยุดไหล
สำหรับช่วงหลังผ่าตัดใน 2-3 วันแรก ให้ใช้ผ้ายืดพันแผลพันแบบกระชับแต่ไม่แน่นเกินไป ทั้งนี้พยายามอย่าให้นิ้วโดนอุปกรณ์ทำแผลและไม่แนะนำให้เช็ดแรงเกินไป นอกจากนี้หากผ้าก๊อซเปียกน้ำสะอาดหรือน้ำปัสสาวะ แนะนำให้เปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่ทันที เพราะหากปล่อยให้แผลอับชื้นอาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อง่ายขึ้น
2. หลีกเลี่ยงแผลไม่ให้โดนน้ำในช่วง 3 วันแรก
หลังจากขลิบเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้งดอาบน้ำทั้งตัวไปก่อนอย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันแผลอับชื้น อีกทั้งน้ำที่ใช้อาบอาจมีสิ่งปนเปื้อนปะปน ถือว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วยครับ ทางที่ดีอาจใช้วิธีเช็ดตัวไปก่อนจะดีที่สุดครับ
3. สวมเสื้อผ้าโปร่งสบาย
การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปเกินไป อาจกระตุ้นให้เหงื่อไหลลงไปยังบริเวณแผลและกลายเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียตามมา นอกจากแบคทีเรียจะย่อยสลายคราบเหงื่อไคล ส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาแล้ว ยังทำให้แผลอับชื้นและติดเชื้อง่ายขึ้นด้วย ทางที่ดีควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าชนิดอื่นที่ระบายอากาศได้ดีจะดีกว่าครับ รอให้แผลแห้งสนิทแล้วอยากใส่เสื้อผ้าแนวไหนก็จัดให้เต็มที่เลยครับ
4. งดกิจกรรมทางเพศอย่างน้อย 1 เดือน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย แต่หากคุณใช้งานน้องชายอย่างหักโหม อาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองและอาการบาดเจ็บที่รุนแรงยิ่งขึ้น แผลฉีดขาดง่าย นอกจากจะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิมแล้วยังเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการสอดใส่หรือการใช้ปากได้อีกด้วย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศและงดดูสื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศจนทำให้น้องชายแข็งตัวอย่างน้อย 1 เดือนจะดีกว่าครับ เพราะหากน้องชายตื่นตัวขึ้นมา คุณอาจต้องทนเจ็บบ่อยกว่าเดิมด้วยนะครับ
5. ดูแลตัวเองให้เต็มที่
หลังจากร่างกายได้รับบาดเจ็บจากการผ่าตัดมาแล้ว สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือการดูแลตัวเองให้หายไว ไม่ว่าจะเป็ฯการนอนพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7 – 8 ชม. ต่อวัน เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเต็มที่และสมานแผลให้หายไว นอกจากนี้การนอนยังช่วยลดการเคลื่อนไหวไปโดนแผลให้น้อยลง ยิ่งนอนเร็ว นอนนานขึ้นเท่าไหร่ แผลก็หายไวขึ้นด้วยนะครับ
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อปลา ไข่ ถั่วเหลือง ที่มีส่วนช่วยในการสมานแผล, การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร (ประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน), การรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตตัวเองว่าอาการดีขึ้นหรือแย่ลงมากน้อยแค่ไหน หากสังเกตแล้วพบว่าตัวเองอาจติดเชื้อ ให้รีบพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาที่ถูกต้องต่อไป ไม่ควรซื้อยามาทานเองเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการได้รับยาเกินขนาดและเป็นอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเองครับ
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
แม้ว่าจะมีคลินิกขลิบไร้เลือดมากมาย แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน
โปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand
บทความที่น่าสนใจ
- ขลิบหลังฉีดได้ไหม ดูแลน้องชายอย่างไรดี
- ขลิบเจ็บไหม บรรเทาอาการหลังขลิบได้อย่างไรบ้าง
- ก่อนขลิบ หลังขลิบ แตกต่างกันไหม ดูแลน้องชายอย่างไรให้แผลขลิบหายไว