หลายคนอาจมีรูขุมขนกว้างจนกลายเป็นปัญหาสิวซ้ำซากที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่จบสักที โดยรูขุมขนที่กว้างมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่เกิดจากตัวเราเองหรือเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงที่เราทำโดยไม่รู้ตัว สำหรับใครที่อยากรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง วันนี้ Gentle Clinic มีคำตอบมาฝากกันครับ
รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร
1. ความมันส่วนเกิน
เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนขยายตัวมากขึ้นเพื่อระบายความมันออกมา ซึ่งน้ำมันส่วนเกินจะเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรีย P.acnes (Propionibacterium acnes) และก่อให้เกิดสิวตามมา ซึ่งการอักเสบของสิวอาจทำให้ผิวโดยรอบรูขุมขนเสียหายและทำให้รูขุมขนขยายใหญ่อย่างถาวร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้นจะเกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น มีประจำเดือน ตั้งครรภ์ มีภาวะความเครียดสูง หรือเป็นผู้ที่มีพันธุกรรมผิวมันง่าย
2. สิ่งสกปรกสะสม เครื่องสำอาง และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
เมื่อคุณออกไปนอกบ้านแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีสิ่งสกปรก, ฝุ่นละออง และมลภาวะต่างๆ มาเกาะอยู่บนผิวหน้า หากคุณทำความสะอาดผิวหน้าไม่ถูกวิธีหรือทำความสะอาดน้อยเกินไป อาจทำให้สิ่งสกปรกสะสมอยู่ในรูขุมขน และทำให้รูขุมขนอุดตันและขยายกว้างเพื่อดันสิ่งที่อุดตันออกมา หรือแม้แต่การเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว, มีส่วนผสมของน้ำมันและสารที่ล้างออกยาก หรือละเลยการล้างเครื่องสำอางก่อนนอนจนสารในเครื่องสำอางเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยเช่นกัน จริงอยู่ที่ผิวหนังของเราจะผลัดเซลล์ใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่บางครั้งก็อาจเกิดการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งการทำความสะอาดผิวหน้าไม่ถูกวิธี การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ตามรูขุมขน เป็นเหตุให้รูขุมขนอุดตันและกว้างขึ้น
3. อายุที่เพิ่มขึ้น
คอลลาเจนและอีลาสติน มีส่วนสำคัญที่ช่วยเติมความแข็งแรงให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น แต่เราเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตโปรตีนทั้งสองชนิดนี้น้อยลง ทำให้ผิวแข็งแรงน้อยลงและไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน และเมื่อผิวของคนเราอ่อนแอลง ผิวก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นและน้ำมันธรรมชาติ ทำให้โครงสร้างผิวไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน ส่งผลให้รูขุมขนขยายออกเพื่อขับน้ำมันและรักษาสมดุลของผิว นอกจากนี้ผิวของคนเราจะผลัดเซลล์ผิวทุกๆ 28 วัน แต่เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการดังกล่าวจะทำงานช้าลง ส่งผลให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ในรูขุมขนและกระตุ้นให้รูขุมขนขยายตัวใหญ่ขึ้น
4. พันธุกรรม
ลักษณะทางพันธุกรรมที่คุณได้รับจากคนในครอบครัวสามารถกำหนดจำนวนและขนาดของต่อมไขมัน ที่มีบทบาทในการผลิตน้ำมันบนผิว หากคุณได้รับกรรมพันธุ์ที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ หรือมีแนวโน้มที่จะผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ก็อาจทำให้ผิวมันง่ายขึ้น รูขุมขนจึงต้องขยายตัวเพื่อรองรับการขับน้ำมันออกมา นอกจากนี้ โครงสร้างผิวและระดับคอลลาเจนที่ได้รับจากพันธุกรรมก็มีผลเช่นกัน หากผิวขาดความกระชับหรือมีความยืดหยุ่นต่ำกว่าคนทั่วไป อาจทำให้รูขุมขนใหญ่ขึ้นจนเด่นชัดกว่าปกติ แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยอื่นมากระตุ้นก็ตาม
5. แสงแดด
แสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น เนื่องจากรังสี UV มีฤทธิ์ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกระชับผิว เมื่อปริมาณคอลลาเจนในผิวลดลง ผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย ส่งผลให้รูขุมขนขยายตัวและดูใหญ่ขึ้น นอกจากนี้แสงแดดยังกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนต้องขยายตัวเพื่อขับน้ำมันออกมา และหากน้ำมันส่วนเกินผสมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ก็อาจเกิดการอุดตันและทำให้รูขุมขนขยายขึ้นอย่างถาวร อีกทั้งแสงแดดเองก็กระตุ้นให้ผิวหนาขึ้นในระยะยาว ซึ่งผิวที่หนาขึ้นเป็นกลไกที่ร่างกายปกป้องตัวเองจากรังสี UV ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันง่ายขึ้น ดูชัดขึ้นด้วยเช่นกัน
ข้อเสียที่เกิดจากรูขุมขนกว้าง
- ผิวหน้าดูขรุขระ ไม่เรียบเนียน เมคอัพไม่ติดทน
- ผิวมันมากขึ้น ผิวดูหมองคล้ำ
- หากไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธี รูขุมขนจะขยายอย่างถาวร
- ผิวหย่อนคล้อยง่ายขึ้น เกิดริ้วรอยก่อนวัยไวขึ้น
- เป็นสิวง่ายขึ้น โดยเฉพาะสิวหัวดำและสิวอุดตัน
รูขุมขนกว้าง แก้ได้มั้ย?
แก้ได้ในระดับหนึ่งครับ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ไปอย่างถาวร เพราะขนาดของรูขุมขนของคนเราจะขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสภาพผิว ถึงอย่างไรก็ตามเราสามารถกระชับรูขุมขนให้เล็กลง เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับขึ้นได้ เพียงแต่จะต้องรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง
รูขุมขนกว้าง แก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
1. ทำความสะอาดผิวให้หมดจด
การทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างหมดจด รูขุมขนไม่ขยายตัวไปมากกว่านี้ และลดความเสี่ยงของการเกิดสิวอุดตันในอนาคต สำหรับวิธีทำความสะอาดรูขุมขนที่เราขอแนะนำจะเริ่มจากการใช้คลีนซิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวเช็ดเบาๆ บนผิวหน้าจนไม่มีคราบสกปรกติดอยู่บนสำลีก่อนล้างหน้า แล้วค่อยล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นประมาณ 35-40°C เพื่อเปิดรูขุมขนและขจัดสิ่งสกปรก/น้ำมันส่วนเกินออกไป จากนั้นใช้คลีนเซอร์ตามสภาพผิวของตัวเองชะโลมบนใบหน้าอย่างเบามือ ยกตัวอย่างเช่น โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้ง หรือเจลล้างหน้าสำหรับผิวมัน และใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ เป็นวงกลม หากคุณถูแรงๆ ก็อาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น ทั้งนี้ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก เมื่อล้างหน้าเสร็จค่อยล้างหน้าซ้ำด้วยน้ำเย็นและทาครีมบำรุง รวมถึงครีมกันแดดเวลาออกไปข้างนอก ทั้งนี้อาจสครับผิว หรือใช้โทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และมาส์กหน้าทำความสะอาดรูขุมขน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ผิวหน้าอ่อนกว่าวัย ไร้รอยสิว เริ่มด้วยการดูแลผิวหน้าต่อไปนี้
2. ใช้ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดความมันส่วนเกิน ขจัดสิ่งอุดตัน และเสริมสร้างคอลลาเจน เพื่อให้รูขุมขนดูเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้นได้มากขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนที่เราแนะนำจะเป็นโทนเนอร์กระชับรูขุมขนที่มีส่วนผสมของ Niacinamide, Witch Hazel และกรด BHA (Salicylic Acid), เซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Retinol, Niacinamide (5-10%) และ Zinc PCA, ส่วนครีมบำรุงที่ช่วยกระชับรูขุมขน จะต้องมีเนื้อบางเบา ซึมเร็ว เลือกสูตรปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) หรือ Non-Comedogenic หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนที่เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำประมาณ 2-3 เดือน จะทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
3. ทาครีมกันแดดทุกวัน
ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) 30 ขึ้นไป หรือหากออกแดดเป็นประจำควรเลือกครีมที่มีค่า SPF 50 ที่สามารถป้องกันรังสี UVB ได้มากถึง 98% เลือกครีมที่ระบุว่า Broad Spectrum ที่สามารถป้องกันทั้งรังสี UVA (ทำให้เกิดริ้วรอยและแก่ก่อนวัย) และรังสี UVB (ทำให้เกิดผิวไหม้) สำหรับใครที่มีผิวมัน ให้เลือกครีมที่มีเนื้อบางเบาหรือเจล ระบุว่า Oil-free หรือ Matte finish หากมีผิวแห้งให้เลือกครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่หากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า Hypoallergenic ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
รูขุมขนกว้าง เป็นหลุมสิว รักษาหลุมสิววิธีไหนดีที่สุด
โปรแกรม ScarSurgery หรือ ศัลยกรรมเสริมเนื้อใต้หลุมสิวถาวรด้วยเทคโนโลยี Juvgen จาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นด้วย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีด Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้แผลเป็น หลุมสิว หรือริ้วรอยร่องลึก โดยแพทย์จะฉีดสารเข้าไปทีละนิด ๆ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อปิดหลุมสิวในทันที แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง
นอกจากนี้ตัวเครื่องจูวีเจนถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ คนไข้จึงไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว และที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: บริการฉีดสร้างเนื้อหลุมสิวถาวร Juvgen จาก Gentle Clinic
บทความที่น่าสนใจ
- เจาะลึกสาเหตุและวิธีรับมือกับ “สิวเครียด” อย่างถูกวิธี
- สิวเทียมคืออะไร มีสาเหตุและวิธีรักษาแตกต่างจากสิวปกติไหม
- ไม่อยากบีบสิวเอง ใช้ที่กดสิวดีไหม ไม่อยากเป็นหลุมสิว ทำไงดี
ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic
Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ผ่านโปรแกรม ScarSurgery ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย
นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://page.line.me/gentleclinic
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand