หนังหุ้มปลายบวมหายเองได้ไหม เป็นปัญหาที่คุณผู้ชายหลาย ๆ คนอาจเคยพบเจอหรือกำลังพบเจออยู่ ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการที่หนังหุ้มปลายบวมนั้น เป็นภาวะผิดปกติที่มีทั้งหายเองได้ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะพัฒนาไปเป็นอาการอักเสบได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่ประสบประหานี้ต้องทราบก่อนว่าสาเหตุการบวมของหนังหุ้มปลายมาจากอะไรกันแน่ เพื่อที่จะป้องกันได้ถูกต้องและตรงจุดนั่นเอง
หนังหุ้มปลายบวมหายเองได้ไหม ถ้าหายเองไม่ได้ ต้องรักษาด้วยวิธีไหน?
หนังหุ้มปลายบวม/อักเสบ (Balanitis) เป็นความผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับชายทุกช่วงวัย ซึ่งจากที่ได้กล่าวไปแล้วว่าอาการเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งการที่จะตอบได้ว่าการบวมนี้จะหายได้หรือไม่ได้นั้น ก็ต้องพิจารณาจากสาเหตุเสียก่อนจึงจะระบุได้ว่าสามารถหายได้เองหรือไม่ ดังนั้น ก่อนที่จะมาดูคำตอบ เรามาดูกันก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมที่หนังหุ้มปลายองคชาตมีอะไรบ้าง
หนังหุ้มปลายบวม เกิดจากอะไรได้บ้าง?
อาการบวมที่เกิดกับหนังหุ้มปลายองคชาตสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
การแพ้และระคายเคืองจากสารเคมีในชีวิตประจำวัน
ผิวหนังบริเวณปลายอวัยวะเพศชายนั้นค่อนข้างอ่อนโยน และอาจเกิดการอักเสบได้หากสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้สบู่บางชนิดที่ระคายเคืองต่อผิวทำความสะอาดอวัยวะเพศ การตกค้างของผงซักฟอกที่ใช้ซักกางเกงชั้นใน การขัดถูหรือฟอกทำความสะอาดอวัยวะเพศมากเกินไป
การติดเชื้อ
โดยทั่วไปมักเกิดจากการติดเชื้อของยีสต์แคนดิดา ซึ่งเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่บริเวณปลายอวัยวะเพศชายตามปกติแต่ในปริมาณน้อย หากมีสภาวะหมักหมมสกปรกจะส่งผลให้เชื้อเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนทำให้เกิดการบวมและกลายเป็นการอักเสบได้ในที่สุด
สุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด รวมถึงการมีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่ปิดแน่นก็ส่งผลให้ไม่สามารถทำความสะอาดเซลล์ที่ตายแล้ว ปัสสาวะ หรือเหงื่อที่ตกค้างบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศได้อย่างทั่วถึงก็ทำให้เกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เช่น เริม หนองในแท้ และหนองในเทียม รวมทั้งผู้ที่มีอาการของท่อปัสสาวะอักเสบ
แนวทางการรักษาสำหรับอาการหนังหุ้มปลายบวม (หนังหุ้มปลายอักเสบ)
สำหรับแนวทางการรักษานั้น สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ตามความรุนแรงของภาวะอาการ คือ
ในกรณีที่อาการบวมไม่รุนแรงมาก สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง
หลัก ๆ เลยจะเป็นการดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศ โดยคุณผู้ชายต้องทำการร่นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้น โดยใช้น้ำเปล่าและสบู่อ่อน ๆ ในการทำความสะอาดส่วนปลายให้เกลี้ยงมากที่สุด หลังจากนั้นให้ทำการซับให้แห้งโดยใช้ผ้าสะอาด วิธีการคือร่นหนังหุ้มปลายลงเพื่อทำการเปิดส่วนปลายอวัยเพศและทำกาารซับเบา ๆ
ในกรณีที่มีภาวะค่อนข้างรุนแรง ต้องทำการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์
การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคด้วย เช่น การติดเชื้อราแคนดิดาจะรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อรา การติดเชื้อแบคทีเรียมักรักษาด้วยยาปฏิชีวนะสำหรับเชื้อแบคทีเรียชนิดนั้น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะรักษาด้วยยาที่จำเพาะต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น เป็นต้น
การป้องกันการบวมและอักเสบของปลายอวัยวะเพศชาย
การป้องกันโรค Balanitis ทำได้โดยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตามแนวทางดังต่อไปนี้
- รักษาความสะอาดอวัยวะเพศ โดยร่นหนังหุ้มปลายขึ้นก่อนทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ที่อ่อนโยนต่อผิวเป็นประจำทุกวัน
- ล้างมือให้สะอาดก่อนเข้าห้องน้ำ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมี ควรล้างมือให้สะอาดก่อนปัสสาวะ เพื่อป้องกันอวัยวะเพศระคายเคืองจากสารเคมี
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และควรเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่อ่อนโยนต่อผิว
การป้องกันหนังหุ้มปลายบวมหรืออักเสบด้วยการ “ขลิบ”
จากที่กล่าวไปว่า หนังหุ้มปลายบวมหรืออักเสบนั้น เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือมีสุขอนามัยที่ไม่ดี มีอาการระคายเคือง อาจมีผื่นแดง บวม มีแผล บางคนถึงขนาดมีหนอง น้ำเหลือง หรือมีหูดหงอนไก่ร่วมด้วย ซึ่งหากพิจารณาจากอาการดังกล่าวแล้ว ผู้อ่านจะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดจากการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียทั้งสิ้น สิ่งสำคัญคือการเอาใจใส่ในเรื่องของการรักษาสุขอนามัย ซึ่ง “การขลิบ” เป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ที่สุดที่ทำให้อวัยวะเพศสะอาดและดูแลง่าย ดังนั้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีให้กับคุณผู้ชายที่จะป้องกันภาวะนี้ได้
บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ