ตัดพังผืดหลุมสิว ดีไหม กี่ครั้งหาย มีวิธีที่ไวกว่านี้ไหม

Facebook
Twitter

การตัดพังผืดหลุมสิว เป็นหนึ่งในวิธีรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่เนื่องจากหัตถการประเภทนี้จะใช้เข็มเป็นหลัก จึงให้ใบหน้าของผู้เข้ารับการรักษาบวมอย่างเห็นได้ชัด ก็อาจทำให้คุณรู้สึกลังเลอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผู้เข้ารับบริการบางคนสามารถรักษาหลุมสิวให้หายได้ แต่บางคนกลับเป็นหนักกว่าเดิม ว่าแต่วิธีนี้ได้ผลจริงไหม แล้วมีวิธีไหนที่เห็นผลไว ไม่ต้องหน้าบวมกลับบ้านบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากครับ

การตัดพังผืดหลุมสิว คืออะไร

เป็นการรักษาหลุมสิวโดยแพทย์จะใช้เข็มปลายทู่หรือเข็มคมเข้าไปตัดพังผืดเพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังฟื้นฟูตัวเองและสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เสร็จแล้วจึงฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ หรือ PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น) เพื่อเติมหลุมสิวให้เต็ม ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เกิดหลุมสิวกลับมาเต็มและเรียบเนียนเหมือนผิวบริเวณอื่น

ตัดพังผืดหลุมสิว มีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. การตัดพังผืดหลุมสิวด้วยเข็มปลายทู่ (Blunt Cannula)

เป็นการใช้เข็มปลายทู่เข้าไปตัดพังผืดใต้หลุมสิว เนื่องจากเข็มประเภทนี้มีความทู่มากกว่าเข็มคม จึงสามารถตัดพังผืดที่ไม่แข็งแรงมากได้ง่าย โดยที่ไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ เพียงแต่จะมีความแม่นยำในการเข้าถึงพังผืดที่น้อยกว่าเข็มคม แพทย์ที่ทำหัตการให้จึงต้องมีความชำนาญสูง ส่งผลให้ใช้เวลาในการทำหัตถการนานกว่า หรือหากเจอพังผืดที่แข็งแรงมากก็ไม่สามารถตัดให้ขาดได้

2. การตัดพังผืดหลุมสิวด้วยเข็มคม (Sharp Needle)

เป็นการใช้เข็มคมเข้าไปตัดพังผืดใต้หลุมสิว เข็มประเภทนี้มีปลายที่แหลมคม จึงสามารถเจาะผ่านผิวหนังและเข้าไปตัดพังผืดได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีความแม่นยำสูง แต่ก็อาจเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบด้วยเช่นกัน ส่งผลให้คนไข้มีเลือดออกระหว่างทำหัตถการได้ง่าย หากแพทย์ไม่ชำนาญพอก็อาจเสี่ยงต่อการสร้างบาดแผลรอบข้างหลุมสิวโดยไม่จำเป็น หรือหากคนไข้ดูแลหลังการรักษาไม่ดีพอ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง

การตัดพังผืดหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวประเภทไหน

เหมาะสำหรับหลุมสิวตื้น (Rolling scar) และ หลุมสิวระดับปานกลาง (Box scar) เท่านั้น ไม่สามารถรักษาหลุมสิวลึก (Ice pick scar) ได้ เนื่องจากหลุมสิวลึกเกิดจากการสูญเสียเนื้อเยื่ออย่างถาวร จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นเพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่

ขั้นตอนการตัดพังผืดหลุมสิว

  • แพทย์จะประเมินลักษณะหลุมสิวและสภาพผิวของคนไข้ก่อน
  • แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าในบริเวณที่จะหัตถการ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผิว
  • แพทย์จะทำเครื่องหมายในบริเวณที่จะทำหัตถการและแปะยาชาเพื่อบรรเทาอาการปวด
  • แพทย์จะสอดเข็มเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อเลาะพังผืดใต้หลุมสิวออก
  • แพทย์จะคอยซับเลือดและประคบเย็นระหว่างทำหัตถการเพื่อลดอาการปวด
  • เมื่อสิ้นเสร็จหลังการรักษา แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังการรักษาให้แก่คนไข้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ตัดพังผืดหลุมสิว กี่ครั้งเห็นผล

โดยทั่วไปคนไข้จะต้องเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 3-5 สัปดาห์ และทำติดต่อกันเป็นเวลา 3-6 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ผลข้างเคียงจากการตัดพังผืดหลุมสิว

  • มีอาการบวมหลังตัดพังผืด โดยทั่วไปจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
  • เสี่ยงต่อการเกิดตัดพังผืดใหม่ที่ลึกและแน่นกว่าเดิม หากแพทย์ตัดพังผืดกว้างหรือลึกเกินไปจนเกิดการดึงรั้งผิวรุนแรงขึ้น
  • เสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากกว่าเดิม อาจมีห้อเลือดหรือสร้างบาดแผลบริเวณรอบข้าง
  • เสี่ยงต่อผิวหย่อนคล้อยง่ายขึ้น หากแพทย์ตัดโดนเส้นเอ็นหรือโครงสร้างผิวที่ช่วยพยุงผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากขึ้น

ทำไมตัดพังผืดหลุมสิวแล้วหน้าบวม

เนื่องจากการทำหัตถการประเภทนี้จะใช้เข็มเข้าไปตัดพังผืดใต้หลุมสิวที่อาจทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตก ส่งผลให้มีเลือดคั่งใต้ผิวหรือเกิดรอยฟกช้ำ ทำให้หน้าดูบวมขึ้น นอกจากนี้อาการบวมยังเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ หรือ PRP เพื่อเติมเต็มหลุมสิวหลังตัดพังผืดออก ร่างกายจึงตอบสนองต่อสารเหล่านี้โดยกระตุ้นให้เกิดอาการบวมได้เช่นกัน

ลดบวมหลังตัดพังผืดได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำให้คนไข้ประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังทำหัตถการ และรับประทานยาแก้อักเสบ (หากจำเป็น) เพื่อบรรเทาอาการปวดบวม นอกจากนี้คนไข้ควรงดการสัมผัส กด หรือนวดใบหน้าบริเวณที่ทำหัตถการ, นอนหมอนสูงๆ เพื่อลดการไหลเวียนเลือดไปยังใบหน้า, ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผิวชุ่มชื้น แผลหายไว รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้อาการปวดบวมรุนแรงขึ้น เช่น งดออกกำลังกายไปก่อน 1 สัปดาห์, งดสูบบุหรี่, งดดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

ตัดพังผืดหลุมสิว ใช้เวลานานไหม

ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและจำนวนหลุมสิวในแต่ละเคส โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที

ตัดพังผืดหลุมสิว หายจริงไหม

ไม่จริงเสมอไปครับ แม้ว่าการตัดพังผืดหลุมสิวจะช่วยรักษาหลุมสิวได้ แต่ทำได้เฉพาะหลุมสิวตื้นและหลุมสิวระดับปานกลางเท่านั้น ไม่สามารถรักษาหลุมสิวลึกได้ หากคุณประสบปัญหาหลุมสิวลึก จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีอื่นแทน

มีวิธีรักษาหลุมสิวที่เห็นผลไวกว่านี้ไหม

โปรแกรม ScarSurgery หรือ ศัลกรรมเสริมเนื้อใต้หลุมสิวถาวรด้วยเทคโนโลยี Juvgen จาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นด้วย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีด Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้แผลเป็น หลุมสิว หรือริ้วรอยร่องลึก โดยแพทย์จะฉีดสารเข้าไปทีละนิด ๆ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อปิดหลุมสิวในทันที แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง

นอกจากนี้ตัวเครื่องจูวีเจนถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ คนไข้จึงไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว และที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว Juvgen จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย

นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ