น้องชายมีกลิ่น

น้องชายมีกลิ่น แก้ได้ ด้วยการดูแลน้องชายอย่างถูกวิธี

Facebook
Twitter

แม้ว่าเราจะคิดว่าตัวเองทำความสะอาดน้องชายได้ดีพอแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมารบกวนใจอยู่บ่อยครั้ง จนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจและไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เพราะกลัวเขาจะได้กลิ่นของน้องชายเรา วันนี้ Gentle Clinic จะมาพูดถึงสาเหตุของปัญหาน้องชายมีกลิ่น รวมถึงแนะนำวิธีแก้ปัญหารที่ใครหลายคนอาจไม่รู้มาก่อน ถ้าอยากรู้แล้วก็มาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ

น้องชายมีกลิ่นเกิดจากอะไร

น้องชายมีกลิ่น

โดยทั่วไปแล้วน้องชายของเราอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เมื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีเหงื่อออกเยอะและเกิดการอับชื้นบริเวณน้องชาย หากทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธีแล้วก็จะไม่มีกลิ่นตามมาในภายหลัง แต่หากยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาอยู่ อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • มีขนหนาและมากเกินไป ส่งผลให้สารคัดหลั่งอย่างเหงื่อและปัสสาวะสะสมอยู่ตามขนน้องชาย กลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ และมีกลิ่นตามมา
  • สวมกางเกงหรือกางเกงในที่รัดแน่นหรืออับชื้น ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการใส่กางเกงหรือกางเกงในรัดรูป หรือมีปัญหาผ้าแห้งไม่ทันใช้แล้วต้องหยิบกางเกงอับชื้นมาใส่ก็ตาม หากทำเป็นประจำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อน้องชาย ทั้งมีผื่นขึ้น รู้สึกคันอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย
  • ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อเหงื่อออกเยอะ เช่น ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ออกกำลังกายหักโหม หรือรีบวิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน แล้วยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศร้อนด้วย ก็ยิ่งทำให้เหงื่อออกง่ายและไหลลงสู่น้องชายมากกว่าการทำกิจกรรมที่ไม่ต้องออกแรงมาก
  • ทำความสะอาดไม่ดีพอ หลายคนอาจไม่ได้รูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความาสะอาดหรือไม่สามารถรูดขึ้น – ลงได้ ทำให้หนังหุ้มปลายมีขี้เปียก (Smegma) สะสมจำนวนมากและเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา
  • ป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน (ไม่สวมถุงยางอนามัย), การมีคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือการเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหนองใน, โรคหนองในเทียม, ซิฟิลิส ฯลฯ ส่งผลให้มีหนองไหลออกมาจากน้องชายตลอดเวลาและมีกลิ่นตามมา
  • หนังหุ้มปลายตีบหรืออักเสบ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับผิวหนัง ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคไลเคน พลานัส (Lichen planus) โดยโรคดังกล่าวส่งผลให้ผิวหนังอักเสบและก่อให้เกิดผื่นคันบริเวณอวัยวะเพศ
  • อายุเพิ่มขึ้น ทำให้ทำให้หนังหุ้มปลายสูญเสียความยืดหยุ่นและดึงหนังหุ้มปลายขึ้น – ลงได้ยาก จึงทำความสะอาดหัวองคชาตยากขึ้น
  • ได้รับบาดเจ็บบริเวณน้องชาย อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณน้องชาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณน้องชายฉีกขาดและอักเสบ มีผลต่อการรูดหนังหุ้มปลายขึ้น – ลงเพื่อทำความสะอาดยากขึ้น

ผลข้างเคียงจากน้องชายมีกลิ่น

  • สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
  • สร้างความไม่พอใจให้กับคู่นอน
  • เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ง่ายกว่าคนทั่วไป หากคุณทำความสะอาดน้องชายไม่ดีพอ
  • หากมีกลิ่นจากภาวะหนังหุ้มปลายตีบด้วย อันเสี่ยงต่อการเกิดแผลเรื้อรัง, มีเนื้อตายจนถึงขั้นสูญเสียองคชาตถาวร รวมถึงโรคมะเร็งองคชาต (Penile Cancer)

น้องชายมีกลิ่นทำไงดี

1. เล็มขนให้สั้น

การตัดขนให้สั้นพอประมาณจะช่วยลดปัญหากลิ่นอับได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้แนะนำให้ใช้ตัดกรรไกรสำหรับตัดขนน้องชายโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้กรรไกรเล่มนี้ตัดสิ่งของอื่นด้วย เพราะอาจเสี่ยงต่อกรรไกรทื่อ แถมยังสกปรกจนอาจระคายเคืองหรือทำให้น้องชายบาดเจ็บและติดเชื้อได้ หลังจากตัดเสร็จแล้วแนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้น้องชายที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการระคายเคืองหลังการโกนนั่นเองครับ

2. ทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธี

สำหรับวิธีการทำความสะอาดน้องชายที่ถูกต้องจะต้องใช้สบู่สูตรอ่อนโยนหรือผลิตภัณฑ์ล้างน้องชายในการทำความสะอาดนะครับ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์และแอนตี้แบคทีเรีย โดยเริ่มจากตีผลิตภัณฑ์ล้างน้องชายให้เป็นฟองแล้วถูให้ทั่วน้องชาย เริ่มตั้งแต่ส่วนโคนก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นรูดหนังหุ้มปลายเข้าหาตัวเพื่อเปิดหัวองคชาตออกมาทำความสะอาด แล้วค่อยถูหัวองคชาตและหนังหุ้มปลายเบา ๆ เพื่อทำความสะอาดเอาขี้เปียกออกมา เสร็จแล้วราดน้ำเบา ๆ ลงบนตัวเพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างน้องชายแทน เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าซับน้องชายให้แห้งเพื่อป้องกันการอับชื้นครับ และที่สำคัญควรทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างน้องชายเพียง 1 – 2 ครั้งต่อวันก็พอแล้วครับ หากทำความสะอาดบ่อยเกินไปแล้วทำให้น้องชายเกิดการระคายเคืองได้

3. รักษาด้วยยา

กรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะหนังหุ้มปลายตีบ ไม่สามารถรูดขึ้น – ลงเพื่อทำความสะอาดหัวองคชาตได้ ควรรักษาภาวะดังกล่าวให้หายโดยใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์ ได้แก่ การใช้ยาทาเฉพาะที่ซึ่งเป็นครีมหรือเจลสเตียรอยด์สำหรับทาหนังหุ้มปลายโดยเฉพาะเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวหนังนิ่มลงและสามารถรูดขึ้น – ลงได้เหมือนคนทั่วไป หรืออาจรักษาด้วยการทานยาปฏิชีวนะอย่างเบต้าเมทาโซน (Betamethasone) ระดับความเข้มข้น 0.05% ภายใต้การดูแลของแพทย์ สำหรับยาชนิดนี้ไม่ควรซื้อมาทานเองเด็ดขาด เพราะอาจมีผลข้างเคียงรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

4. สวมใส่กางเกงหรือกางเกงในที่โปร่งสบาย

การสวมใส่กางเกงหรือกางเกงในสวมสบายจะช่วยลดการอับชื้นบริเวณน้องชายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ไม่ต้องใส่กางเกงในตอนนอนก็จะช่วยให้น้องชายได้รับลมอย่างเต็มที่มากขึ้นด้วยครับ

5. การขลิบไร้เลือด

เครื่องขลิบอัตโนมัติ

เป็นวิธีการรักษาภาวะหนังหุ้มปลายตีบหรืออักเสบซึ่งเป็นต้นตอของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากน้องชาย สำหรับการขลิบไร้เลือดเป็นการผ่าตัดเอาหนังหุ้มปลายที่ตีบตันออกโดยใช้เครื่องขลิบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ตัวเครื่องสามารถผ่าตัดหนังหุ้มปลายและเย็บแผลได้ภายในเวลาเดียวกันเพียง 15 นาทีเท่านั้น โดยเย็บและปิดปากแผลด้วยกลัดอลูมิเนียมที่สามารถหลุดออกเองได้ภายใน 2 สัปดาห์ ด้วยความแม่นยำที่สูงจึงไม่ต้องมานั่งตกแต่งแผลขลิบเหมือนการขลิบด้วยมีด แถมยังปลอดภัยกว่าเนื่องจากตัวเครื่องมือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ระดับ 2 เมื่อใช้เสร็จแล้วทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อต่อคนไข้ และเมื่อบาดแผลโดนเย็บทันทีจึงลดการสูญเสียเลือดขณะผ่าตัดและทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อย ส่งผลให้แผลแห้งไว หายเร็ว แถมยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงอย่างภาวะติดเชื้อจากแผลหลังขลิบอีกด้วยครับ

บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด

ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี

และเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90%  จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน

โปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

บทความที่น่าสนใจ

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ