เชื้อราอวัยะเพศชาย อาการเป็นอย่างไร? เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชายหลาย ๆ คนเป็นกังวล เนื่องจากการเกิดเชื้อราที่ปลายองคชาตนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่ากลัว และอาจคิดไม่ตก ว่าหากเกิดขึ้นกับตนเองจะเกิดอันตรายไหม หรือสามารถรักษาได้หรือเปล่า ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเชื้อราเช่นนี้สามารถรักษาได้ ไม่มีอันตรายมากนัก แต่ถ้าหากปล่อยไว้ก็จะส่งผลที่รุนแรงได้เช่นกัน ดังนั้น คุณผู้ชายควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว Gentle Clinic มีคำตอบ
เชื้อราอวัยะเพศชาย อาการ ร้ายแรงมั้ย สามารถป้องกันและรักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง?
คันในร่มผ้าและเชื้อราบนผิวหนัง อาการกวนใจของใครหลายคน อาการนี้ไม่ได้เกิดแค่ในผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายเป็นเพศที่มีความเสี่ยงต่อเชื้อราบนผิวหนังได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นข้อพับ ขาหนีบ อวัยวะเพศ รวมถึงเท้า ซึ่งทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง และส่งผลต่อชีวิตประวันได้
อีกทั้งผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาและกิจกรรมลุย ๆ จึงทำให้เกิดความเปียกชื้นใต้ร่มผ้าที่เพิ่มความเสี่ยงให้การเกิดเชื้อราบนผิวหนังได้เชื้อราบนผิวหนังไม่ใช่เรื่องน่าอาย และรับมือง่ายกว่าที่คิดด้วย ซึ่งจะมีวิธีใดบ้างนั้นมาติดตามไปพร้อม ๆ กัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเชื้อราที่สามารถเกิดได้บนปลายองคชาตกันก่อน
“แคนดิดา” (Candida albicans) เชื้อราตัวร้ายที่มักเกิดบริเวณปลายองคชาต
แคนดิไดอะซิส (Candidiasis) หรือ การติดเชื้อแคนดิดา หรือ โรคติดเชื้อแคนดิดา (Candida infection) คือ โรคที่เกิดจากอวัยวะต่าง ๆ / ร่างกายติดเชื้อรา หรือยีสต์ (Yeast) ซึ่งอยู่ในสกุล (Genus) ชื่อ Candida ซึ่ง ยีสต์ชนิดนี้มีมากกว่า 20 ชนิด (Species) แต่ที่พบได้บ่อยเกือบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อจาก ชนิด Candida albicans
แคนดิดา เป็นยีสต์ที่พบในคนปกติทั่วไป และเชื้อประจำถิ่น (Normal flora) โดยพบได้ตามเยื่อเมือกที่มีอยู่ใน ระบบทางเดินอาหาร (เช่น ช่องปาก คอหอยส่วนปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร) ที่อวัยวะเพศหญิง (เช่น โยนี และช่องคลอด/เชื้อราในช่องคลอด) และที่อวัยวะเพศชาย (องคชาติ) ซึ่งในภาวะร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรค/ภูมิคุ้มกัน / ภูมิต้านทานปกติ ยีสต์กลุ่มนี้จะไม่ก่อโรค แต่ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป เช่น อวัยวะนั้นมีการอับชื้น หรือร่างกายมีภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น ต่ำลง ยีสต์นี้จะมีความรุนแรงขึ้นและเจริญเติบโตในปริมาณมากเกินปกติ จนก่อให้เกิดเป็นโรคขึ้นได้นั่นเอง
สาเหตุของภาวะเชื้อรา Candida albicans
หลายคนจะมีเชื้อราประเภทนี้บนร่างกายในจำนวนไม่มากอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันคอยควบคุมกิจกรรมของเชื้อและแบคทีเรียชนิดอื่นๆ อยู่ (แบคทีเรียดีที่ไม่สร้างปัญหาต่อสุขภาพ)
เชื้อราจะเติบโตขึ้นเมื่อแบคทีเรียดีในร่างกายถูกทำลายลงไป ยกตัวอย่างเช่นจากการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อ เนื่องจากยาประเภทนี้ไม่สามารถจำแนกได้ว่าแบคทีเรียชนิดไหนดีชนิดไหนไม่ดีจนออกฤทธิ์กำจัดแบคทีเรียทั้งสองกลุ่มไปพร้อมกัน อีกทั้งหากคุณมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอด้วย เชื้อรา candida ก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ลักษณะอาการ
จากข้อมูลที่กล่าวมาเบื้องต้น ผู้อ่านสามารถเห็นได้แล้วว่าบริเวณที่เชื้อรานี้สามารถเกิดได้มีอยู่หลายจุดด้วยกัน ดังนั้น มันจึงทำให้แต่ละบริเวณแสดงอาการที่ต่างกัน เช่น
อวัยวะเพศชาย
ผื่นสีขาวหรือตุ่มหนองที่ปลายของอวัยวะเพศ อาจพบเป็นแผลร่วมด้วยได้ หรือ ผู้ชายบางคนอาจไม่ประสบกับสัญญาณหรืออาการของภาวะเชื้อราก็ได้ แต่หากมีอาการก็มักจะมีดังนี้….
- ระคายเคือง แสบร้อน หรือคันที่หนังหรือปลายอวัยวะเพศ
- ดึงหนังหุ้มปลายไปข้างหลังไม่ได้ (ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาติปิด)
- มีของเสียขับออกจากใต้หนังหุ้มปลายจนดูเหมือนมีชีสเกาะอยู่ อาจจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ร่วมด้วยก็ได้
- หนังหรือปลายอวัยวะเพศมีสีแดง หรือเกิดปื้นแดงขึ้น
ผิวหนัง
ผื่นแดง คัน ลามออกเป็นวงเล็ก ๆ บริเวณที่พบผื่นได้บ่อยคือ ใต้ราวนม ขาหนีบ ซอกก้น ซอกรักแร้ ซอกคอและซอกนิ้ว บางครั้งพบรูขุมขนอักเสบและตุ่มหนองร่วมด้วย
ช่องปาก
ฝ้าขาวที่ลิ้นหรือกระพุ้งแก้มสามารถขูดออกได้ง่ายโดยไม้กดลิ้น ในผู้ที่ใส่ฟันปลอมอาจพบผื่นแดงอักเสบเรื้อรังบริเวณที่สัมผัสกับฟันปลอมหรือแผลแดงบริเวณมุมปาก
เชื้อราที่ปลายองคชาต อันตรายไหม รักษาได้หรือเปล่า?
เนื่องจากอาการของภาวะเชื้อราจะคล้ายกับภาวะติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ (Sexually transmitted infection – STI) หากคุณเป็นเชื้อราครั้งแรก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยจะดีที่สุด ซึ่งแพทย์จะสามารถจำแนกความแตกต่างของโรคได้ หรือหากคุณผู้ชายคนไหนที่เคยมีประวัติการเป็นเชื้อราชนิดนี้มาแล้ว ก็สามารถเลือกซื้อยาทาภายนอกจากร้านขายยาทั่วไป (โดยมีเภสัชกรแนะนำ) ได้ตามสะดวก
แนวทางการรักษาเชื้อราแคนดิดาที่ปลายองคชาต
การรักษาโรคแคนดิดาบริเวณปลายองคชาต ประกอบด้วย
1. การใช้ยาต้านเชื้อรา
เช่น ยา ketoconazole หรือ clotrimazole เป็นต้น ยามีหลายรูปแบบ ได้แก่ ยาทาซึ่งสามารถใช้รักษาได้ในผู้ป่วยที่มีผื่นที่ผิวหนังหรืออวัยวะเพศชาย หรือ ยารูปแบบอมใช้ในการรักษาการติดเชื้อในช่องปาก และยารับประทานใช้ในผู้ป่วยที่มีรอยโรคบริเวณกว้างกระจาย ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาเนื่องจากยามีผลข้างเคียงที่รุนแรง
2. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เช่น การลดน้ำหนัก การเลือกเสื้อผ้าที่หลวมโปร่งสบาย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดสภาวะที่ส่งเสริมการก่อโรคของเชื้อและลดการเกิดโรคซ้ำ
การป้องกันเชื้อราที่อวัยวะเพศชาย
เชื้อราสามารถแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็มีโอกาสเป็นเช่นกัน
ทำความสะอาดองคชาติเป็นประจำ
สามารถป้องกันการติดเชื้อราบนอวัยวะเพศได้ด้วยการทำความสะอาดองคชาติเป็นประจำ และหากคนใดคนหนึ่งมีเชื้อรา ควรใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์
หลีกเลี่ยงสบู่หรือเจลอาบน้ำที่ผสมน้ำหอม
เลี่ยงการใช้สบู่หรือเจลอาบน้ำที่ผสมน้ำหอมกับอวัยวะเพศ เพราะสารจำพวกนี้จะก่อความระคายเคืองได้ และพยายามเช็ดองคชาติให้แห้งสนิทหลังทำความสะอาดทุกครั้ง
เปลี่ยนชนิดผ้าของเสื้อผ้าชั้นใน
การสวมเสื้อผ้าชั้นในแบบผ้าไหมสามารถป้องกันความชื้นสะสมใต้ร่มผ้าได้ เพราะสามารถจะช่วยลดโอกาสการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา candida ได้
การขลิบ
เนื่องจากเชื้อราชนิดนี้การติดสามารถเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อที่มาจากการหมักหมมสิ่งตกค้างที่ปลายอวัยวะเพศ และส่งผลให้เกิดปลายอวัยวะเพศอักเสบได้ ดังนั้น การขลิบปลายหนังหุ้มปลายองคชาตจึงเป็นแนวทางการป้องกันที่จะช่วยให้สุขอนามัยของอวัยเพศดีขึ้น เพราะลดการหมักหมมลงนั่นเอง
บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
อย่างไรก็ตาม แม้เชื้อราอวัยะเพศชาย อาการจะไม่ได้เป็นเชื้อราที่มีผลข้างเคียงร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรละเลยให้เชื้อราชนิดนี้อยู่ที่บริเวณปลายองคชาตนาน ๆ และเกิดขึ้นบ่อย ๆ เพราะจากที่ได้กล่าวไปว่าอาการปลายองคชาตสามารถเกิดการอักเสบได้ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากเชื้อราชนิดดังกล่าว ดังนั้น กันไว้ก่อนดีกว่าแก้ โดยคุณผู้ชายสามารถทำตามขั้นตอนการป้องกันที่กล่าวไว้ด้านบนได้ง่าย ๆ หรือเข้าปรึกษาแพทย์-ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความแน่ใจและทราบรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร แล้วทำไมการขลิบถึงช่วยได้
- ไขข้องใจของชายไทยทุกคน ขลิบ หรือ ไม่ขลิบ แบบไหนดีกว่า
- น้องชายไม่น่ามอง ไม่มั่นใจ แก้ได้ไหม ทำไมขลิบเพิ่มความมั่นใจได้
ขลิบไร้เลือดครั้งเดียวในชีวิต ทำไมต้องขลิบกับ Gentle Clinic
แม้ว่าคลินิกขลิบส่วนใหญ่จะใช้วิธีขลิบไร้เลือดกันแล้ว แต่ที่ Gentle Clinic เรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) เป็นอุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพของการต้านการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดการอักเสบ ปวดบวม ฟกช้ำของกล้ามเนื้อ จึงไร้อาการปวดในทันทีและไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน โดยบริการนี้คนไข้จะได้รับทันทีที่ขลิบไร้เลือดเสร็จ ซึ่งจะช่วยบบรเทาอาการปวดที่จะเกิดขึ้นหลังการขลิบได้เป็นอย่างดี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand
รีวิวขลิบไร้เลือดจาก Gentle Clinic
ดูรีวิวเต็ม ๆ ได้ที่ ลิงก์นี้