การขลิบของผู้ชายอาจไม่จำเป็นสำหรับบางคนที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพน้องชาย แต่กับอีกหลายคนที่มีปัญหารูดหนังหุ้มปลายไม่ได้ อาจต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขลิบมากกว่าคนกลุ่มแรก เพราะปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบระยะยาวในการใช้ชีวิต ทั้งการปัสสาวะที่ลำบาก รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะหรือขณะที่น้องชายแข็งตัว รวมไปถึงสร้างความลำบากขณะมีเพศสัมพันธ์ที่นอกจากจะเจ็บปวดทรมานแล้ว อาจก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ง่ายกว่าคนทั่วไปด้วย วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับการขลิบกันว่าดีอย่างไร แล้วถ้าจะขลิบ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ทำไมต้องขลิบ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ชายหลายคนต้องขลิบเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายไม่สามารถเปิดออกเพื่อทำความสะอาดหัวองคชาตได้ ทางการแพทย์เรียกภาวะดังกล่าวว่า หนังหุ้มปลายตีบ นอกจากจะรูดหนังหุ้มปลายออกมาไม่ได้แล้ว หากพยายามรูดมากเกินไป อาจมีอาการเจ็บปวดอวัยวะเพศตามมาด้วย และถ้าปล่อยให้หนังหุ้มปลายตีบเป็นเวลานาน อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่มาจากสารคัดหลั่งอย่างน้ำปัสสาวะ เหงื่อไคล และน้ำอสุจิ เมื่อแบคทีเรียสะสมเป็นจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง จนเนื้อเยื่ออักเสบ เป็นแผล และติดเชื้อบริเวณปลายองคชาต เป็นผลทำให้เปิดหนังหุ้มปลายยากขึ้นหรืออาจถึงขั้นเปิดออกมาไม่ได้เลย
โดยสาเหตุของหนังหุ้มปลายตีบจะมาจากภาวะหนังหุ้มปลายตีบแต่กำเนิด (ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด), การทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีจนเกิดการติดเชื้อ, ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนทั่วไป น้ำปัสสาวะของผู้ป่วยโรคนี้จึงมีรสหวานและก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรียบริเวณหนังหุ้มปลายง่ายขึ้น รวมไปถึงผู้สูงอายุที่เปิดหนังหุ้มปลายยากขึ้น เนื่องจากผิวสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามช่วงวัย
การขลิบคืออะไร สำคัญกับผู้ชายทุกคนไหม
เป็นวิธีการรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายตีบแตก หนังหุ้มปลายอักเสบ หรือหนังหุ้มปลายยาวเกินอวัยวะเพศชาย ที่อาจทำให้รูดหนังหุ้มปลายขึ้นลงไม่ได้ โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการตัดหนังหุ้มปลายออกเพื่อให้หัวองคชาตเปิดออก ซึ่งจะช่วยให้ทำความสะอาดอวัยวะเพศชายง่ายขึ้น ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับหนังหุ้มปลายได้อย่างถาวร อีกทั้งลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย แต่ในกรณีที่คุณสามารถรูดหนังหุ้มปลายออกมาได้เองโดยไม่รู้สึกเจ็บบปวดก็ไม่จำเป็นต้องขลิบแต่อย่างใด เว้นแต่ว่าต้องการขลิบเพื่อให้อวัยวะเพศดูสวยงามมากขึ้นหรือต้องการเพิ่มอรรถรสในการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้นก็สามารถขลิบได้เช่นกัน
ควรขลิบตอนอายุเท่าไหร่
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าเด็กแรกเกิดสามารถขลิบได้หลังคลอดแล้ว 2 วัน แต่ในความเป็นจริงแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร เพราะหากขลิบกับผู้ที่ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้เด็กสูญเสียเลือดจำนวนมากและนำไปสู่ภาวะช็อกจนอาจเสียชีวิตในที่สุด หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกชายขลิบก็ควรขลิบเมื่อเด็กมีอายุ 2 ปีขึ้นไป และควรใช้ยาสลบควบคู่กันไปด้วย
ใครควรขลิบบ้าง
- ผู้ที่ไม่สามารถเปิดหนังหุ้มปลายเพื่อทำความสะอาดหัวองคชาตได้
- ผู้ที่มีอาการปวด บวมเป่งบริเวณหนังหุ้มปลาย รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ หรือปัสสาวะติดขัด
- ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่นับถือศาสนาที่ต้องขลิบ เช่น ศาสนาอิสลาม ศาสนายิว
- เด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่สามารถเปิดหนังหุ้มปลายได้
- ผู้ที่ต้องการเปิดหนังหุ้มปลายออกเพื่อความสวยงามของอวัยวะเพศ
ใครไม่ควรขลิบบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสสาวะ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
- ผู้ที่มีอวัยวะเพศผิดปกติ เช่น มีภาวะท่อปัสสาวะต่ำกว่าปกติ
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
ขลิบมีกี่แบบ อะไรบ้าง
ในปัจจุบันมีเทคนิคการขลิบทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะใช้เครื่องมือสำหรับขลิบแตกต่างกัน ค่าบริการและผลการรักษาจึงแตกต่างกันด้วย ดังนี้
- ขลิบด้วยใบมีดและไฟฟ้า เป็นเทคนิคการขลิบแบบดั้งเดิมโดยแพทย์จะใช้มีดเพื่อเปิดแผลและตัดหนังหุ้มปลาย ส่วนหนังหุ้มปลายส่วนเกินจากการผ่าตัด แพทย์จะใช้ไฟฟ้าในการตบแต่งแผลเพื่อความสวยงามและเย็บแผลให้เข้ารูป
- ขลิบด้วยเลเซอร์ เป็นเทคนิคการขลิบแบบดั้งเดิมโดยแพทย์จะใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 laser) เพื่อเปิดแผลและตัดหนังหุ้มปลายออก จากนั้นจึงเย็บแผลให้เข้ารูป
- ขลิบไร้เลือด เป็นเทคนิคการขลิบโดยใช้เครื่องมือขลิบไร้เลือดอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ในการตัดรอบวงหนังหุ้มปลายและเย็บแผลติดกันด้วยกลัดอลูมิเนียมในเวลาเดียวกัน ข้อดีของการขลิบประเภทนี้จะใช้เวลาน้อยและแม่นยำมากจนเนื้อเยื่อแทบไม่บอบช้ำเลย จึงแทบไม่มีเลือดออก ส่งผลให้แผลหายเร็วมาก แทบไม่ต้องพักฟื้นเลย
ควรเตรียมตัวขลิบอย่างไร
1. พบแพทย์เพื่อนัดเข้ารับบริการ
คุณควรแจ้งข้อมูลที่แพทย์ควรรู้ก่อนเข้ารับการบริการ ได้แก่ โรคประจำตัว, ยาประจำตัว, ประวัติการแพ้ยา เพื่อที่แพทย์จะได้จ่ายยาให้เหมาะสมกับคนไข้ รวมถึงนัดวันเข้ารับบริการ
2. ดูแลร่างกายให้พร้อมเข้ารับบริการ
พักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7 -9 ชั่วโมง/วัน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรงดทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและอาการเสริมทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ รวมถึงสวมเสื้อผ้าที่โปร่งโล่ง ใส่สบาย เพื่อป้องกันอาการเจ็บหลังการรักษาและควรพาญาติหรือเพื่อนไปด้วย เผื่อกรณีที่ไม่สามารถกลับบ้านได้เอง
3. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
หลายคนอาจคิดว่าเลือกคลินิกขลิบที่ไหนก็เหมือนกัน เลยเน้นประหยัดไว้ก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้วการขลิบของผู้ชายเป็นการรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายที่ทำครั้งเดียวในชีวิต คุณจึงใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะอวัยวะเพศของเรามีเส้นประสาทที่ไวต่อสัมผัส หากขลิบไม่ตรงจุด อาจทำให้เลือดไหลออกมามากและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนตามมาจากเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญมากพอ ดังนั้นการเลือกคลินิกราคาถูกจึงเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพน้องชายในระยะยาวด้วยนะครับ แม้ว่าราคาขลิบจะถูกไม่ถึงหลักพัน แต่หากเทียบกับปัญหาตามมา บอกเลยว่าค่ารักษามากกว่าค่าบริการขลิบจากคลินิกชั้นนำแน่นอน
4. เตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้พร้อม
ได้แก่ เซ็ททำแผล ประกอบด้วยปากคีบ, ผ้าก๊อซทำแผล, สำลี 6 ก้อน สำลีช่องแรกสำหรับเทน้ำเกลือล้างแผล ส่วนอีกช่องสำหรับเทเบตาดีน, น้ำเกลือล้างแผล, เบตาดีนแบบน้ำ, ผ้าก๊อซปิดแผล, ผ้ายืดพันแผล และเทปเยื่อกระดาษ (Micropore)
- แกะเซ็ททำแผลอย่างระมัดระวัง พยายามอย่าให้นิ้วและเล็บโดนอุปกรณ์ทำแผล เพราะอาจเกิดการติดเชื้อง่าย โดยแกะผ้ายืดพันแผลและตัดเทปเยื่อกระดาษ
- หยิบสำลีเช็ดวนรอบแผล อย่าเช็ดแรงเกินไปเพราะอาจระคายเคืองและทำให้แผลอักเสบง่ายโดยเช็ดให้ครบ 3 ก้อนแล้ว
- นำปากคีบหนีบผ้าก็อซวางรอบหัวองคชาตและซับแผลให้แห้ง
- ใช้ปากคีบจับสำลีที่เทเบตาดีน ทาแผลให้ทั่ว
- นำผ้าก๊อซ 1 แผ่นมาซับแผลเบา ๆ จนทั่วแผล
- เมื่อซับแห้งแล้วหยิบผ้าก๊อซขึ้นมาพันแผล โดยคลี่ผ้าก๊อซออกและพับครึ่งเป็นแนวยาว จากนั้นพันรอบ ๆ แผล
- 2-3 วันแรก แนะนำให้ใช้ผ้ายืดพันแผล โดยพันแบบกระชับนิดนึง ทั้งนี้ไม่ควรกระชับเกินไปเพราะอาจทำให้เลือดคลั่ง
- หลังจากพันเสร็จแล้ว ใช้เทปเยื่อกระดาษยึดติดผ้ายืด กรณีที่มีเลือดไหลซึมออกมา ให้ใช้มือกำค้างไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้เลือดหลุดไหล
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
สำหรับใครที่กำลังมองหาการขลิบของผู้ชาย โดยคลินิกขลิบไร้เลือดชั้นนำ มากประสบการณ์ การันตีด้วยผลงานนับไม่ถ้วน ทางเรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด ทางเราสามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามและแผลอักเสบมานับครั้งไม่ถ้วน และที่สำคัญเรายังมีคลินิกพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand