ปัญหาผิวหน้า

รวมทุกปัญหาผิวหน้าที่คุณควรรู้ ก่อนผิวโทรมจะถามหา

Facebook
Twitter

การมีผิวสว่างกระจ่างใสสามารถเพิ่มความมั่นใจให้ใครหลายหลายคนได้มากขึ้น แต่หากคุณมีปัญหาผิวหน้าที่อาจทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ โทรม ดูแก่กว่าไว ก็อาจทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในตัวเองได้เช่นกัน ว่าแต่มีปัญหาใดที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหน้าเราได้บ้าง มีสาเหตุมาจากอะไร แล้วมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ

ปัญหาผิวหน้ามีอะไรบ้าง

1. สิว

สิวเป็นตุ่มขนาดเล็กบริเวณปากรูขุมขนบนผิวหนังที่เกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันอยู่ภายใต้ระดับรูขุมขน สิวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ สิวอักเสบ มีทั้งแบบสิวนูนแดง สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง สิวซีสต์ และสิวอักเสบขนาดใหญ่ ส่วนสิวไม่อักเสบ (สิวอุดตัน) แบ่งเป็นสิวหัวดำและสิวหัวขาว บริเวณที่พบสิวได้บ่อยมีตั้งแต่ใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นจมูกแก้มคางหรือหน้าผากก็ตาม นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นบริเวณไหล่ หน้าอก หลังส่วนบน หรือส่วนอื่นๆ ที่มีต่อมไขมันด้วย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก สำหรับปัจจัยภายในได้แก่ ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นช่วงก่อนมีประจำเดือน/ตั้งครรภ์ กรรมพันธุ์จากคนในครอบครัวที่มีประวัติเป็นสิวอักเสบเรื้อรัง เพราะว่าความเครียดสะสมที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและก่อให้เกิดการผลิตไขมันที่มากเกินไปจนกลายเป็นสิว หรือป่วยเป็นโรคบางชนิดอย่างเช่นโรคถุงน้ำในรังไข่ ส่วนปัจจัยภายนอกร่างกายมีทั้งการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารประเภทไขมันอิ่มตัว การรับประทานยารักษาโรคบางชนิดที่มีส่วนผสมของเทสโทสเตอโรนหรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) การอยู่ในสภาพอากาศแวดล้อม ที่ร้อนหรือเย็นเกินไป การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงมลพิษจากนอกบ้านได้ด้วยเช่นกัน

2. ผิวหมองคล้ำ

ผิวหมองคล้ำเป็นภาวะที่ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้สีผิวไม่สม่ำเสมอกัน มีจุดด่างดำทั่วทั้งใบหน้า ไม่เรียบเนียน ดูแก่กว่าวัย โดยมีสาเหตุมาจากมลภาวะทั้งรังสี UV จากแดด ฝุ่นควันรถ สภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับผิวหน้าของเรา (ร้อนหรือเย็นจนเกินไป) การสูบบุหรี่ที่ทำให้การไหลเวียนเลือดมีประสิทธิภาพลดลงและเกิดอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น การสร้างเม็ดเลือดภายในร่างกายจึงแย่ลงและก่อให้เกิดความผิดปกติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งยังทำลายการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว นอกจากนี้ยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยเกินไป การไม่ใช้ครีมบำรุงผิวหน้า อายุที่มากขึ้น (ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป) รวมถึงภาวะความเครียดสะสมอีกด้วย

3. ผิวแห้งกร้าน

ผิวแห้งเป็นภาวะที่มีน้ำในชั้นผิวหนังกำพร้าลดลง ผิวจึงขาดความชุ่มชื้นและแห้งกร้าน มองเห็นร่องหรือริ้วรอยของผิวชัดเจน บางรายอาจมีผิวลอกเป็นขุย แตกลาย หรืออาจแสบคันร่วมด้วย ภาวะดังกล่าวมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายในร่างกายอย่างสารสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่อยู่ในผิวหนังของคนเราเสียสมดุล มีอายุมากขึ้น พันธุกรรมจากคนในครอบครัว ส่วนปัจจัยภายนอกได้แก่ การแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือบำรุงผิวหน้า การอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ จนทำให้รูขุมขนขยายกว้างและผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นง่ายขึ้น การดื่มน้ำน้อยกว่า 6-8 แก้วต่อวัน การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 น้อยเกินไป

4. ฝ้ากระ

ฝ้าเป็นปื้นที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหน้าที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเกิดการเมลานินภายใต้ชั้นผิวที่มากเกินไป สีผิวบริเวณนั้นจึงมีความเข้มมากกว่าบริเวณอื่น สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าก็คือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากการอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดจ้าเป็นเวลานานโดยไม่ได้ทาครีมกันแดดและไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันแดดเลย ซึ่งรังสี UV จะไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีบริเวณที่โดนแดดให้มีความเข้มมากขึ้น รองลงมาก็จะเป็นเรื่องของฮอร์โมนของแต่ละคน พันธุกรรม การแพ้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือแม้แต่การรับประทานยาบางชนิดที่มีผลต่อฮอร์โมนภายในร่างกาย

ฝ้ามีหลายชนิดได้แก่ฝ้าแดด เป็นปื้นสีน้ำตาลที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดหรือหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน ฝ้าเลือดเป็นเส้นเลือดสีแดงเข้มบนผิว เป็นผลข้างเคียงมาจากการรับประทานยาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนหรือการใช้เครื่องสำอางบางชนิด ฝ้าตื้น เป็นฝ้าที่มีสีเข้มในระดับหนึ่ง มักเกิดบริเวณชั้นผิวด้านนอก ส่งผลให้ใช้เวลารักษาให้หายขาดได้ง่ายกว่า ส่วนฝ้าลึก เป็นฝ้าที่จางกว่าฝ้าตื้นเนื่องจากอยู่ในชั้นผิวส่วนลึกลงไป จึงต้องใช้เวลารักษานานกว่าฝ้าตื้น

ส่วนกระจะแบ่งเป็น 4 แบบ ได้แก่ กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาล มองเห็นขอบได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่แต่จะกระจายอยู่หลายๆ จุดทั่วไปหน้า กระลึก เป็นจุดสีน้ำตาลหรือน้ำตาลออกเทาคล้ายกับเงาลึกภายใต้ผิว มองเห็นขอบไม่ชัดเจน กระแดดเป็นจุดดวงสีน้ำตาล มีพื้นผิวเรียบ มักพบได้ในผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานและผู้สูงอายุ กระเนื้อ เป็นกระที่มีสีน้ำตาลหรือดำ มีลักษณะเป็นตุ่มเหล็กก้อนที่มีผิวเรียบแต่ก็อาจมีผิวขรุขระได้เช่นกัน

5. ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายเป็นภาวะที่ผิวไวต่อสภาพแวดล้อมมากเกินไปจนก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคือง เป็นผื่นแดงเวลามีเหงื่อไหล ผิวแห้งกร้าน เป็นขุยง่าย สำหรับสาเหตุของภาวะผิวแห้งง่ายเกิดจากมลภาวะภายนอกบ้าน ทั้งแสงแดด ควันไอเสีย และฝุ่น อายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลง ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะกับผู้หญิง กรรมพันธุ์จากคนในครอบครัว การขัดผิวมากเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับผิวของตัวเอง ผู้ป่วยโรคผิวหนัง การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันมากเกินไป ผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะบางชนิด ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารบางประเภท เช่น อาหารทะเล นม ถั่ว ไข่

นอกจากจะสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตแล้ว ภาวะผิวแพ้ง่ายยังก่อให้เกิดสิวง่ายกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นสิวฮอร์โมน สิวอักเสบ สิวหัวดำ สิวหัวช้าง และอื่นๆ อีกมาก แต่ทั้งนี้ผิวแพ้ง่ายก็มีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป หากคนไข้อยู่ในระดับที่ไม่ได้รุนแรงมากอาการดังกล่าวจะหายไปเอง แต่หากคนไข้มีผิวแพ้ง่ายในระดับรุนแรงหากถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกแล้วก็อาจก่อให้เกิดผิวอักเสบ เป็นแผลเรื้อรัง แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยทันทีเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นในระยะยาว 

ปัญหาผิวหน้า แก้ได้ไหม

แก้ได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่คุณจะต้องเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการแก้ที่ถูกต้อง สำหรับวิธีแก้ปัญหาผิวหน้านั้นโดยทั่วไปแล้วจะต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้า ได้แก่ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อให้ร่างกายได้เติมน้ำเข้าสู่ชั้นผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ เมื่อร่างกายไม่ได้ขาดน้ำแล้วก็จะไม่มีการนำไขมันมาเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าซึ่งเป็นกลไกทางธรรมชาติ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนน้อยอาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนแห่งความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายหลั่งไขมันออกมามากเกินไปและก่อให้เกิดปัญหาสิวต่างๆ การจัดการภาวะความเครียดไม่ให้มีผลต่อชีวิตประจำวันมากเกินไป การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะสมกับผิวหน้าของตัวเอง ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

หรือหากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลผิวหน้าแล้วแต่ปัญหาก็ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เฉพาะทางทันที เพราะหากปล่อยไว้ให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้นก็ทำให้ยากต่อการรักษามากขึ้นด้วย แล้วที่สำคัญไม่ควรซื้อยามาทานเองจากช่องทางออนไลน์เป็นอันขาด เพราะผลิตภัณฑ์ที่มาจากช่องทางเหล่านี้อาจเป็นของลอกเลียนแบบ ไม่ผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และอาจทำให้ปัญหาผิวหน้ารุนแรงยิ่งขึ้น

ปัญหาผิวหน้า มีหลุมสิวแล้ว รักษายังไงดี

กรณีที่คุณรักษาปัญหาผิวหน้าได้แล้วแต่ยังมีหลุมสิวทิ้งไว้เป็นของดูต่างหน้า ไม่ว่าจะพยายามรักษาด้วยวิธีไหนแล้วก็ตามแต่ปัญหาหลุมสิวก็ยังไม่หมดไปและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นด้วย ที่ Gentle Clinic เรามีโปรแกรม Juvgenesus ที่เหนือกว่าวิธีการรักษาหลุมสิวแบบเดิมๆ ด้วยการฉีดสาร Co2 foam ผ่านเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวด้วยเฉพาะจาก dr. จิน เมื่อฉีดสารเข้าไปแล้วจะช่วยเติมเต็มหลุมสิวได้ทันที ก่อนที่จะสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ใต้ผิวหลุมสิวที่เป็นร่องลึก นอกจากจะเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาทันทีแล้ว เทคนิคดังกล่าวยังคงผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ถาวร แตกต่างจากวิธีการรักษาอื่นๆ ที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

เทคนิค Juvgenesus ได้รับการวินิจฉัยและยอมรับแล้วในระดับโลก มีการจดและยื่นจดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 40 ฉบับ ทั้งเกาหลี จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าเทคนิคนี้ทั้งดีและปลอดภัยต่อคุณอย่างแน่นอน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย JuvGenesis ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Rolling scar, Box scar, Ice-pick Scars, หลุมเล็ก, หลุมใหญ่ หรือหลุมลึกก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนและะรักษาถาวร นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง  เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ