ป้องกันผมร่วง

ป้องกันผมร่วงด้วยตัวเอง เพียงแค่หยุดพฤติกรรมดังต่อไปนี้

Facebook
Twitter

หลายคนอาจคิดว่าการสระผมเป็นประจำจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงได้ตราบนานเท่านาน แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการป้องกันผมร่วงด้วยการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงต้องดูแลหลาย ๆ ด้าน ทั้งการดูแลจากภายนอกและภายใน หากเรายังไม่หยุดพฤติกรรมดังต่อไปนี้ก็อาจทำให้เส้นผมที่อยู่กับเรามานาน เป็นอันต้องหายไปจนหมดหนังศีรษะของเราอย่างแน่นอน ว่าแต่มีพฤติกรรมเสี่ยงอันไหนที่คุณอาจเผลอทำอยู่บ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ

รวมพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผมร่วงโดยไม่รู้ตัว

ป้องกันผมร่วง

1. ทำความสะอาดผมผิดวิธี

เริ่มจากการปล่อยให้เส้นผมพันกัน ไม่ยอมหวีผมก่อนสระ ปล่อยให้สิ่งสกปรกที่อยู่บนศีรษะตลอดทั้งวันยังคงอยู่บนศีรษะต่อไป พอได้เวลาสระผมแล้วก็เอาชมพูชะโลมหนังศีรษะทันทีโดยที่ไม่ได้ล้างหนังศีรษะก่อน อันนี้เป็นอันตรายต่อหนังศีรษะของเรามาก ๆ เลยนะครับ เพราะหนังศีรษะเราบอบบางแต่แชมพูสระผมนั้นมีความเข้มข้นสูง อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะได้ แถมใครก็ตามที่ชอบเปิดน้ำอุ่นล้างผมอีก แม้ว่าจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแต่อันนี้ก็ไม่ดีต่อสุขภาพผมอีกเช่นกันครับ เพราะน้ำอุ่นมีฤทธิ์ทำให้หนังศีรษะแห้งและสูญเสียน้ำมันสำหรับหล่อเลี้ยงเส้นผม เส้นผมขาดร่วง แตกปลายง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการเกาหนังศีรษะแรง ๆ ตอนสระผมด้วยครับ ส่งผลให้หนังศีรษะที่บอบบางอยู่แล้วเป็นแผลและอักเสบ ติดเชื้อง่ายขึ้นด้วยครับ ต่อให้ทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันผมร่วงแต่อย่างใดเลยครับ

2. หวีผมหลังสระผมเสร็จ

เนื่องจากช่วงที่ผมเปียกเป็นช่งวที่เส้นผมกำลังอ่อนแอและเสี่ยงต่อการขาดหลุดร่วงง่าย พอเราหวีผมตอผมเปียกเมื่อไหร่ ก็จะทำให้เส้นผมเกิดการเสียดสีและถูกดึงให้ขาดง่ายขึ้น ทั้งนี้หากต้องการหวีผมหลังสระผมจริง ๆ ก็ควรใช้ผ้าซับน้ำและเปิดพัดลมเป่าผมให้แห้งก่อนแล้วค่อยหวีผมเบา ๆ เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้ผมร่วงขณะหวีผมนั่นเองครับ

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงผิดวิธี

หลายคนอาจคิดว่าจะใช้แชมพูแบบไหนก็ช่วยป้องกันผมร่วงได้เช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผม ในที่นี้เราขอแบ่งเป็นการเลือกแชมพู ครีมนวดผม และหวี โดยเริ่มจากการเลือกแชมพูก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับการเลือกแชมพูที่ดีต่อเส้นผมนั้นจะต้องมีค่ากรด – ด่างที่เหมาะสม ไม่มีเนื้อแชมพูที่ข้นหรือหนืดมากเกินไป ล้างออกง่าย ไม่ทิ้งคราบบนหนังศีรษะ นอกจากนี้ควรเลือกแชมพูให้เหมาะกับสภาพเส้นผมด้วยนะครับ

  • ผมแห้งเสีย จากการทำสีหรือจัดแต่งทรงผมเป็นประจำ แนะนำให้ใช้แชมพูสูตรชุ่มชื้นที่มีส่วนผสมของเคราติน, เซราไมด์ และน้ำมันธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างโปรตีนของเส้นผม, เพิ่มสมดุลภายในเส้นผมและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้เป็นอย่างดี
  • ผมมัน แนะนำให้ใช้แชมพูสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและกระตุ้นการสร้างไขผิวหนังบนหนังศีรษะ มีส่วนผสมของน้ำมันเปปเปอร์มิ้นต์, น้ำมันทีทรี และอโลเวร่าที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ช่วยป้องกันแบคทีเรียสะสมบนหนังศีรษะ
  • ผมหยักศก แนะนำให้ใช้แชมพูที่มีความชุ่มชื้นสูง เน้นส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารปรับผิวเรียบเพื่อเคลือบเส้นผมให้นุ่มลื่น นอกจากนี้อย่าลืมมองหาส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ, กรดลิโนเลนนิค และน้ำผึ่งที่ช่วยให้ผมสวย ชุ่มชื้น ผมไม่พันกัน

ในส่วนของครีมนวดผมก็เหมือนกันครับ ไม่ใช่ว่าจะเลือกสูตรไหนก็ได้ แต่ควรเลือกตามสภาพเส้นผมของคุณเอง

  • ผมแห้ง แนะนำให้ใช้สูตรที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือมีความเข้มข้นมากกว่าผู้ที่มีผมมัน
  • ผมลีบแบน แนะนำให้ใช้สูตรที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผม ช่วยให้เส้นผมดูหนาขึ้น
  • ผมเสีย แตกปลาย แนะนำให้ใช้สูตรที่แก้ปัญหาผมแตกปลายโดยเฉพาะ
  • ผมแห้งเสียมาก แนะนำให้ใช้สูตรเข้มข้นพิเศษ สำหรับผมทำสีหรือจัดทรงโดยเฉพาะ

ส่วนหวีที่เหมาะกับเส้นผม จะต้องเป็นหวีที่โค้งมน มีช่องว่างระหว่างหวีที่พอดี ไม่เล็กจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้หวีพันกับเส้นผมจนต้องออกแรงกระชากผมและทำให้เส้นผมอ่อนแอ

4. มัดผมผิดวิธี

แม้ว่าการมัดผมจะช่วยให้ผมเป็นระเบียบ เก็บทรงได้ดีก็ตาม แต่หากมัดผมผิดวิธี ผิดเวลา แล้วล่ะก็ อาจทำร้ายหนังศีรษะได้ในระยะยาวด้วยนะครับ สำหรับการมัดผมแบบผิด ๆ ที่พบได้บ่อยนั่นก็คือการมัดผมรวบตึงเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ปวดตึงบริเวณต้นคอบ่อย ๆ แล้วยังทำให้เส้นผมรั้งหนังศีรษะและทำร้ายรูขุมขนจนผมหลุดร่วงถาวร ในส่วนของเวลาที่ไม่ควรมัดนั่นก็คือช่วงเวลานอน รู้หรือไม่ว่าการมัดผมก่อนเข้านอนก็สามารถทำร้ายเส้นผมได้เหมือนกันนะครับ เนื่องจากการนอนทับผมตลอดทั้งคืนจะสร้างแรงตึงให้แก่เส้นผม ส่งผลให้ผมหลุดร่วงง่ายขึ้น, ส่วนการมัดผมตำแหน่งเดิมก็เป็นการทำร้ายโคนผมบริเวณเดิมซ้ำ ๆ จนทำให้ผมร่วงง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการมัดผมตอนผมเปียกหรือมัดผมหลังจากสระผมเสร็จก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ผมร่วงได้เช่นกับครับ เพราะช่วงที่ผมเปียกเป็นช่วงที่เส้นผมอ่อนแอและสร้างแรงตึงบนหนังศีรษะได้ง่ายกว่าช่วงเวลาอื่นอีกด้วยครับ

5. ย้อมสีผมบ่อย

หากคุณชื่นชอบการย้อมสีผมบ่อย ๆ แล้วล่ะก็ เราอยากขอให้หยุดอ่านตรงนี้สักนิดนึงก่อนนะครับ เพราะการย้อมผมจะทำให้เส้นผมได้รับสารเคมีจากน้ำยาย้อมผมมาอย่างหนัก ส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดขาวถูกกระตุ้นและเกิดการอักเสบ เกิดอาการแพ้บนหนังศีรษะง่ายและตามมาด้วยปัญหาหนังศีรษะอย่างรอยแผลและรังแค เส้นผมแตกปลาย ผมแห้ง ไม่มีน้ำหนัก ผมเปราะบาง ขาดง่าย หรือผมลีบแบน แข็งทื่อได้ด้วยเช่นกันครับ

5. มีความเครียดสะสม

เมื่อคนเราไม่สามารถจัดการความเครียดได้ ความเครียดที่ยังสะสมอยู่ในจิตใจจะไปกระตุ้นให้เกิดภาวะผมร่วงด้วยการทำให้รากผมไม่สร้างเส้นผมขึ้นมา หรือหากเครียดจนเกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันแล้ว จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีรูขุมขนบนหนังศีรษะและมีผมร่วงมากขึ้น หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการเกิดศีรษะล้านได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความเครียดที่มากเกินไปจนเผลอระบายความเครียดด้วยการดึงหรือเกาหนังศีรษะอย่างรุนแรงจนทำให้หนังศีรษะอ่อนแอและเส้นผมหลุดร่วงได้ด้วยเช่นกันครับ

6. ไม่เลือกทานอาหารบำรุงผม

หากคุณเป็นสายปาร์ตี้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนบ่อย ๆ แล้วล่ะก็ แนะนำให้ลดปริมาณหรืองดได้ก็ยิ่งดีครับ เพราะอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผมหลุดร่วงง่ายยิ่งขึ้น แถมยังยับยั้งการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมอีกด้วย สำหรับอาหารที่ควรรับประทานบำรุงเส้นผม ได้แก่

  • ไข่ อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามิน B12 ที่ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมาแข็งแรงด้วยการนำออกซิเจนส่งไปยังรากผม
  • เนื้อไม่ติดมัน อุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่อีกด้วย
  • เมล็ดถั่ว อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ทองแดง และวิตามิน C ที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแดดที่ทำร้ายผมและเพิ่มความนุ่มลื่นให้แก่เส้นผมได้เป็นอย่างดี
  • ผักใบเขียว อุดมไปด้วยวิตามิน A และ C ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผมไปในตัว
  • ผลไม้วิตามินสูง อุดมไปด้วยวิตามิน C ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของธาตุเหล็กและเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้รากผมแข็งแรง

7. พักผ่อนน้อย

พอเรานอนน้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมามากขึ้น ทำให้ร่างกายต้องกระตุ้นการหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokine) เพื่อปรับสมดุลของความเครียดภายในร่างกายไม่ให้มากเกินไป ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันหนังศีรษะอ่อนแอลงและผมหลุดร่วงง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่น้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เม็ดสีในเส้นผมลดลง ผมหงอกไวขึ้นด้วย

8. ผมได้รับความร้อนมากเกินไป

รู้หรือไม่ว่าการหนีบหรือไดร์ผมเพื่อให้ผมยาวเหยียดตรง ดูมีน้ำหนักนั้นเป็นสิ่งที่ทำร้ายผมโดยไม่รู้ตัว เพราะความร้อนจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมจะทำลายน้ำมันธรรมชาติบริเวณหนังศีรษะ ทำให้ผมขาดความชุ่มชื้น ผมแห้ง หยาบกร้านกว่าปกติ ส่งผลให้เส้นผมเปราะขาดง่ายเพราะโปรตีนเส้นผมถูกทำลายไป รวมไปถึงเคราติน (เกร็ดผม) ที่เรียงตัวไม่สม่ำเสมอเนื่องจากสัมผัสกับความร้อนมาก ๆ และกลายเป็นผมแห้งแตกปลายในที่สุด

ผมร่วงแล้ว รักษาผมร่วงที่ไหนดี

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาผมร่วงผมบาง ที่ Gentle Clinic เรามีนวัตกรรม Cell Therapy ที่นำเลือดของคนไข้เองมาสกัด Growth factor และ Stemcell ปริมาณเข้มข้นสูง เพื่อไปฉีดกลับที่รากผมเพียงเดือนละครั้ง เพื่อซ่อมแซมรากผม กระตุ้นการไหลเวียน และสร้างระบบหลอดเลือดฝอยเพิ่มขึ้นใหม่ในหนังศรีษะ เป็นโปรแกรมยอดนิยมที่คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อรักษาปัญหาผมบางของคุณครับ

นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมใหม่ที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วย Regenesis Micrograft ที่เหนือกว่า Regenera Micrograft แบบเก่า โดยสกัด stemcell จากเนื้อเยื่อรากผมโดยตรง ทำเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ก็สามารถช่วยบำรุงรากผมและเส้นผมของคุณให้กลับมาเพิ่มจำนวน และแข็งแรงได้อย่างที่ต้องการ เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า ช่วยคุณห่างไกลปัญหาผมบาง แม้จะเป็นภาวะผมบางจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรมก็ตาม

โปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรือ อุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ช่วยฟื้นฟูเซลล์ด้วยออกซิเจนเข้มข้น 100% ใต้บรรยากาศแรงดันสูงเสมือนอยู่ใต้น้ำลึก ควบคู่กับการเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน จาก 20% เป็น 100% ทำให้ออกซิเจนละลายในพลาสม่าได้มากขึ้นเป็น 10 เท่า ร่างกายจึงส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้เซลล์ทุกเซลล์ตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปฏิกิริยาการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของอวัยวะในร่างกาย, ลดการอักเสบของข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ จากการเล่นกีฬา และออฟฟิศซินโดรม, กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคจาก ROS (reactive oxygen spicies) ที่มากขึ้น, กระตุ้นสมองและระบบประสาท เพิ่มหน่วยความจำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย คลายเครียด, ลดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา

บทความที่น่าสนใจ

ผลการรักษา (ลูกค้าผู้ใช้บริการจริง)

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ