หลายคนอาจคิดว่าการทำความสะอาดน้องชายก็เหมือนอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้วอวัยวะเพศเป็นอวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หากคุณดูแลไม่ดีหรือเผลอละเลยปัญหาที่อาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น ฉี่เป็นแฉก รู้สึกแสบร้อนอยู่บ้างขณะปัสสาวะ รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส ปัญหาเหล่านี้ก็อาจนำมาสู่ปัญหารุนแรงที่อาจต้องรักษาด้วยการตัดน้องชายทิ้งได้ด้วยเช่นกัน ว่าแต่ปัญหาน้องชายมีอะไรบ้าง มีวิธีดูแลรักษาอย่างไรดี วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ
ปัญหาน้องชายมีอะไรบ้าง
1. หนังหุ้มปลายเปิดไม่สุด
ถือเป็นปัญหาที่ผู้ชายแทบจะทุกคนต้องเคยเจอ โดยทั่วไปแล้วหนังหุ้มปลายของผู้ชายจะค่อย ๆ ร่นลงเมื่ออายุ 1-2 ปีและจะเปิดเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 5-7 ปี แต่หากเด็กคนไหนไม่สามารถเปิดได้หรือไม่พยายามเปิดเองไปจนถึงช่วงวัยรุ่น อาจทำให้หนังหุ้มปลายรัดแน่นเกินไปจนไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายขึ้น-ลงออกมาทำความสะอาดได้เหมือนคนอื่น แม้ว่าบางคนจะมีอาการไม่รุนแรง สามารถใช้งานน้องชายได้ตามปกติ แต่หลายคนอาจมีปัสสาวะติดขัดและมีอาการปวดร่วมด้วย หากปล่อยไว้นานอาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรง ทั้งอาการปวดบวมในระยะยาว มีแผลเรื้อรังจากการอักเสบของหนังหุ้มปลาย หากมีเนื้อตาย ที่ไม่ได้รับการรักษา อาจพัฒนามาเป็นมะเร็งองคชาตในที่สุด
2. หนังหุ้มปลายเยอะเกินไป
เป็นภาวะที่มีหนังหุ้มปลายยาวกว่าคนทั่วไป บางคนสามารถรูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดได้เหมือนคนทั่วไป แต่บางคนอาจเปิดหนังหุ้มปลายออกมาเองไม่ได้ ยิ่งพยายมเปิดเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น แม้ว่าจะยังไม่เกิดอะไรขึ้นในตอนวัยรุ่น แต่เมื่ออายุมากขึ้นแล้วหนังหุ้มปลายที่เยอะเกินไปอาจทำให้รูดหนังหุ้มปลายยากขึ้น เนื่องจากร่างกายผลิตคอลลาเจนน้อยลง ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของหนังหุ้มปลายลดลงและเปิดหัวองคชาตออกมายากขึ้นด้วยครับ
3. น้องชายมีกลิ่น
เป็นภาวะที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากน้องชาย ยิ่งทำกิจกรรมที่กระตุ้นให้เหงื่อออกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีกลิ่นรุนแรงมากขึ้น ต่อให้ล้างทำความสะอาดดีมากแค่ไหนก็ตามแต่ผ่านไปสักพักนึงแล้วก็จะมีกลิ่นออกมาอีก โดยภาวะดังกล่าวเกิดจากมีขนที่น้องชายมากเกินไป สวมกางเกงหรือกางเกงในที่รัดแน่นเกินไป ใส่กางเกงเปียกชื้น ตากไม่แห้ง ทำความสะอาดน้องชายไม่ดีพอ ไม่ได้รูดหนังหุ้มปลายออกมาล้างหัวองคชาต มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคไลเคน พลานัส (Lichen planus) หรือป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน, โรคหนองในเทียม, ซิฟิลิส ฯลฯ
4. เส้นสองสลึงหนา
แม้ว่าเส้นสองสลึงจะช่วยเพิ่มความรู้สึกขณะสอดใส่เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่หากคุณมีเส้นสองสลึงหนาเกินไปตั้งแต่เกิดก็อาจทำให้หนังหุ้มปลายรัดตึงและรู้สึกเจ็บปวดที่น้องชายได้ด้วย นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดแผลหรือรอยปริเล็ก ๆ ที่เส้นสองสลึงอันเนื่องมาจากตัวเส้นสองสลึงไม่ได้ขาดหมด และอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้อีกในอนาคต โดยทั่วไปแล้วเส้นสองสลึงจะขาดได้เองแต่หากยังไม่ขาดสักทีและขาดบ่อยเกินไป แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อตัดออกจะดีที่สุดครับ
5. หนังหุ้มปลายตีบ
เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดจากหนังหุ้มปลายหดตัวลงจนไม่สามารถรูดเปิดได้ ภาวะดังกล่าวจะทำให้ส่วนปลายองคชาตโป่ง มีรอยแดงบริเวณน้องชาย มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ รู้สึกเจ็บบริเวณปลายองคชาตเนื่องจากเกิดการอักเสบ ทำให้รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ แข็งตัว หรือมีกิจกรรมทางเพศ บางรายอาจมีเลือดไหลปนมากับปัสสาวะ ส่วนสาเหตุของหนังหุ้มปลายตีบจะเกิดจากการดูแลสุขอนามัยไม่ดี, มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคไลเคน พลานัส (Lichen planus), เกิดการติดเชื้อและการอักเสบบริเวณหนังหุ้มปลาย หรือได้รับอุบัติเหตุอย่างรุนแรงบริเวณน้องชาย
6. หนังหุ้มปลายอักเสบ
เป็นภาวะติดเชื้อและเกิดการอักเสบของหนังหุ้มปลายและอวัยวะเพศส่วนปลาย ส่งผลให้น้องชายบวมแดง หนังหุ้มปลายตึง รู้สึกเจ็บขณะใช้งานหรือสัมผัส มีกลิ่นอับ แม้ว่าหนังหุ้มปลายตึงจะเกิดกับเด็กที่ผิวหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศยังไม่เปิด แต่ก็อาจเกิดจากการดูแลความสะอาดน้องชายไม่เพียงพอ ทำให้ยีสต์แคนดิดาเจริญเติบโตและเกิดการอักเสบ, ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่เหมาะกับผิวหนังน้องชายจนเกิดการระคายเคือง, ป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม หนองใน หนองในเทียม
รักษาปัญหาน้องชายอย่างไรได้บ้าง
1. ใช้ยาทา
หากคุณมีปัญหาหนังหุ้มปลายไม่เปิด แพทย์จะรักษาด้วยการใช้หรือเจลสเตียรอยด์สำหรับทาหนังหุ้มปลายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่หนังหุ้มปลาย ช่วยให้หนังหุ้มปลายนิ่มและรูดง่ายขึ้น ซึ่งคนไข้จะต้องทาเป็นประจำทุกวันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะให้คนไข้ลองรูดหนังหุ้มปลายขึ้นลงให้ได้มากที่สุดโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บ แต่หากหนังหุ้มปลายมีปัญหาจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ ส่วนปัญหาที่เกิดจากเชื้อรา แพทย์จะจ่ายยาฆ่าเชื้อราให้ หรือหากเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะจ่ายยารักษาโรคนั้น ๆ โดยเฉพาะให้ครับ
2. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
สำหรับใครที่ยังไม่เกิดปัญหาน้องชาย แต่เพิ่งรู้ตัวว่าทำความสะอาดน้องชายผิดมาตลอด วันนี้เราจะสอนวิธีทำความสะอาดที่ถูกต้องกันค่ะ
- ถูสบู่หรือน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นใส่มือแล้วตีให้เป็นฟอง
- นำฟองมาถูให้ทั่วอวัยวะเพศ โดยเริ่มจากส่วนโคนก่อนเป็นอันดับแรก ในกรณีของผู้ที่ไม่ได้ขลิบ ให้รูดหนังหุ้มปลายเข้าหาตัวเพื่อเปิดหัวองคชาตออกมาล้าง
- ถูหัวองคชาตและหนังหุ้มปลายอย่างเบามือ เพื่อป้องกันขี้เปียกสะสมอยู่ภายในหนังหุ้มปลาย
- ล้างฟองออกด้วยน้ำสะอาด ทั้งนี้ไม่ควรฉีดน้ำแรง ๆ ใส่น้องชายเพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้ แนะนำให้ราดน้ำเบา ๆ จากหน้าท้องให้น้ำไหลลงไปยังน้องชาย
- เมื่อล้างน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชู่แบบหนาซับน้องชายให้แห้ง
3. การขลิบไร้เลือด
เป็นการผ่าตัดเอาหนังหุ้มปลายออกโดยใช้เครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา นอกจากจะดีกว่าการขลิบแบบเก่าทั้งในเรื่องของเวลาผ่าตัดที่น้อยเพียง 15 นาที, สามารถตัดหนังหุ้มปลายและเย็บแผลด้วยกลัดอลูมิเนียมได้ในทันทีโดยไม่ต้องมานั่งตกแต่งแผลขลิบ ส่งผลให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อย แผลจึงแห้งไว หายเร็ว
นอกจากการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว Gentle Clinic เราให้ความสำคัญกับการดูแลแผลขลิบของคนไข้เป็นอย่างมาก ทางเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูงที่ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ GrowthFactor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบและเร่งสมาน ช่วยให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน และลดการติดเชื้อได้มากถึง 90% เมื่อคนไข้เข้าไปนอนแล้วจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าอาการปวดหลังการขลิบจะค่อย ๆ หาย และไม่รู้สึกปวดอีกเลย และที่สำคัญยังช่วยไม่ให้เกิดอาการบวมอักเสบในวันต่อมา จึงไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยครับ
บทความที่น่าสนใจ
- น้องชายมีตุ่มเล็ก ๆ เกิดจากอะไร ทำอย่างไรให้น้องชายสะอาดขึ้น
- น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นผู้ชาย จำเป็นต่อการทำความสะอาดน้องชายไหม
- ป่วยเป็นเบาหวาน ขลิบได้ไหม ดูแลตัวเองอย่างไรดี เรามีคำตอบ
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
แม้ว่าจะมีคลินิกขลิบไร้เลือดมากมาย แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน
โปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand