กรอหน้า รักษาหลุมสิว เจ็บไหม กรอกี่รอบถึงจะเห็นผล

Facebook
Twitter

หากคุณกำลังประสบปัญหาหลุมสิวและกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวอยู่ หนึ่งในวิธีที่ใครหลายคนให้ความสำคัญนั่นก็คือการกรอหน้าด้วยเกล็ดอัญมณี ที่นอกจากจะช่วยรักษาหลุมสิวได้แล้ว ยังช่วยรักษาปัญหาอื่นบนผิวหน้าได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามการรักษาหลุมสิวประเภทนี้ก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังด้วยเช่นกัน และเพื่อให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่มากขึ้น ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับวิธีการรักษาหลุมสิวประเภทนี้กัน พร้อมทั้งคำแนะนำในการ

การกรอหน้าคืออะไร

เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวประเภทหนึ่งโดยแพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์พ่นเกล็ดอัญมณีขนาดเล็ก เช่น คริสตัล, เพชรแท้ ในรูปแบบของผลึกอลูมิเนียมออกไซด์ขนาด 100 ไมครอน ในการขัดผิวหนังแท้ส่วนบนที่เกิดหลุมสิวออกไป เพื่อให้ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วในชั้นผิวหนังกำพร้าหลุดออกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติก (Elastic fiber) ในผิวหนังชั้นหนังแท้ ส่งผลให้หลุมสิวค่อยๆ เต็มและกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง นอกจากจะรักษาหลุมสิวแล้ววิธีนี้ยังช่วยลบเลือนรอยแดง/รอยดำจากสิว เสริมความแข็งแรงให้แก่ผิว และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอเท่ากันทั่วใบหน้าอีกด้วย

การกรอหน้า เหมาะกับใคร

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวในระดับตื้น (Rolling scars) ไปจนถึงระดับปานกลาง (Box scar) แต่ไม่อยากฉีดหรือทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผู้ที่มีริ้วรอยหรือรอยแผลเป็นจากสิว และผู้ที่ต้องการให้หน้ากระจ่างใสขึ้นโดยการผลัดเซลล์ผิว

ข้อดีข้อเสียของการกรอหน้า

  • ไม่รู้สึกเจ็บ เพราะไม่เกิดอาการระคายเคืองระหว่างการรักษา
  • ไม่ก่อให้เกิดรอยไหม้บนผิวหน้า
  • ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ใบหน้ากระจ่างใส
  • ช่วยเปิดผิวให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ผิวหน้าไม่มันง่ายเกินไป
  • เสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวหน้า ผิว
  • ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ใช้เวลารักษาประมาณ 20-30 นาที
  • รักษาได้เฉพาะหลุมสิวที่เกิดจากเซลล์ผิวชั้นนอกเท่านั้น
  • ต้องทำหลายครั้งกว่าจะเริ่มเห็นผล

ขั้นตอนการกรอหน้า

  • แพทย์จะทำความสะอาดใบหน้าคนไข้ให้ทั่ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการรักษา
  • กรณีที่คุณกังวลในเรื่องของความเจ็บ แพทย์จะฉีดยาชาเพื่อลดอาการปวดระหว่างทำ
  • แพทย์จะใช้ไอน้ำอุ่นเปิดรูขุมขน (บางคลินิกอาจไม่มี) ช่วยให้ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพง่ายขึ้น
  • แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีหัวเพชรหรือเกล็ดอัญมณีขัดลงบนผิว ตัวเครื่องจะมีระบบดูดสุญญากาศสำหรับดูดเอาสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป โดยแพทย์จะปรับระดับความแรงของเครื่องตามสภาพผิวของแต่ละคน ในส่วนของการกรอผิวจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
  • หลังจากกรอหน้าเสร็จ แพทย์จะใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้ง

กรอหน้า กี่ครั้งเห็นผล

โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 8-10 ครั้ง ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ถึงจะเริ่มเห็นผล แต่หากคุณละเลยการเข้ารับการรักษาตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ก็อาจใช้เวลานานขึ้นกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

การกรอหน้า เจ็บไหม

สำหรับความรู้สึกของคนไข้ส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเจ็บมาก รู้สึกคล้ายกับมีเม็ดทรายเม็ดเล็กๆ มาขัดผิวเบาๆ โดยทั่วไปแล้วอาจมีอาการตึงหรือระคายเคืองเล็กน้อยระหว่างการรักษา ขึ้นอยู่กับระดับความแรงของเครื่องมือและสภาพผิวของแต่ละคน หากคุณเป็นคนที่มีผิวบาง แพ้ง่าย อาจรู้สึกระคายเคืองหรือมีผิวแดงๆ หลังทำเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 1-2 วัน แต่หากคุณรู้สึกกังวลในเรื่องของความเจ็บ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อที่ผู้ทำการรักษาจะได้ปรับระดับความแรงให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

ดูแลผิวหลังกรอหน้าอย่างไรได้บ้าง

  • ทาครีมบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน เพื่อลดการระคายเคืองต่อผิวหน้า
  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50+ PA++++ (สูตรอ่อนโยน) ก่อนออกข้างนอกบ้านเสมอ เพื่อป้องกัน UV จากแดดมาทำร้ายผิวหน้า
  • หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนและสครับผิว ให้ใช้น้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำเย็นล้างหน้าไปก่อน
  • ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้น โดยเลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารระคายเคืองต่างๆ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 แก้ว และพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิวหลังการรักษา
  • ห้ามแกะ เกา หรือถูหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรืออักเสบมากยิ่งขึ้น
  • ห้ามทำเลเซอร์หรือทำทรีตเมนต์หน้าแรง ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์

แม้ว่าการกรอผิวจะช่วยรักษาหลุมสิวได้จริง แต่ก็เป็นหลุมสิวตื้นเท่านั้น ดังนั้นหากคุณมีปัญหาหลุมสิวลึก เราขอแนะนำให้เลือกรักษาด้วยวิธีอื่นแทนครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามคุณจะต้องศึกษาข้อมุลเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวลึกให้ดี แม้ว่าจะมีหลายวิธีให้เลือก แต่หากเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง นอกจากจะไม่สามารถรักษาหลุมสิวให้หายได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการอักเสบเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ

รักษาหลุมสิวด้วยวิธีไหนดีที่สุด

JUVGEN เทคนิคการรักษาหลุมสิวด้วยการฟื้นฟูผิวตัวเอง จาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นโดย ดร.จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ด้วยวิธีการฉีด Co2 foam กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) อนุภาคเล็กลงไปในชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิวเพื่อฉีกเซลล์เก่าที่เป็นหลุมสิวทิ้ง หลังจากนั้นจะกระตุ้นการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากขึ้นมาใหม่ใน 3-5 วัน เพื่อสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาเติมเต็มหลุมสิวให้เรียบเนียนภายในการรักษาเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นจะค่อยๆ เห็นผลขึ้นประมาณ 30-60 วัน เนื่องจากสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำอีกเป็นรอบสอง

นอกจากนี้ตัวเครื่องจูวีเจนถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ คนไข้จึงไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว และที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN ดียังไง ทำไมถึงเติมเต็มหลุมสิวลึกถาวร ภายในครั้งเดียว

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นทีมแรกในไทยที่ใช้เครื่อง JuvGen รักษาหลุมสิวและร่องลึก โดยได้รับการเทรนโดยตรงจาก Dr.จิน (Jin Se-hun) เราพร้อมด้วยประสบการณ์และเทคนิคในการยิงหลุมที่ลึกและยากกว่าหลุมทั่วไป เช่น box scar ที่มีขอบแข็ง หลุมแผลเป็นลึกจากอีสุกอีใส ร่องพับลึกบนหน้าฝาก เป็นต้น เราจึงกล้าการันตีผลการรักษา จ่ายครั้งเดียวจบ เติมหลุมสิวจนเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGen

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ