อาการแสบน้องชายอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับใครหลายคนที่มักเกิดขึ้นแล้วก็หายไปเอง แล้วก็กลับมาใหม่อีกรอบเมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยง แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ชายอย่างเราควรรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ใช้งานน้องชาย ไม่ต้องมานั่งระแวงว่าน้องชายจะกลับมาแสบอีกเมื่อไหร่ และวันนี้ Gentle clinic จะมาพูดถึงสาเหตุ ผลข้างเคียง วิธีรักษา รวมถึงวิธีป้องกันภาวะดังกล่าวไม่ให้กลับมากวนใจเราอีก ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยครับ
แสบน้องชายเกิดจากอะไร
สำหรับอาการแสบน้องชายสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งขณะปัสสาวะหรือแค่นั่งเฉย ๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนมากเกิดขึ้นบริเวณส่วนหัวของน้องชาย บางคนอาจมีเพียงอาการแสบเพียงอย่างเดียว แต่หลายคนอาจมีเลือด หรือ หนองไหลปนมากับปัสสาวะด้วย ส่วนสาเหตุของภาวะดังกล่าวมาจากภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบ (Balanitis), เกิดการติดเชื้อบริเวณทางเดินปัสสาวะจนเกิดเป็นโรคท่อปัสสาวะอักเสบ หรือ Cystitis (แม้ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยในผู้หญิงมากถึง 70% แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ชายได้เช่นกันครับ), โรคต่อมลูกหมากอักเสบ, โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน เช่น การทำความสะอาดน้องชายผิดวิธี เช่น ถูน้องชายแรงเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชายไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณน้องชาย, การมีกิจกรรมทางเพศที่รุนแรงหรือนานเกินไปจนน้องชายได้รับบาดเจ็บและรู้สึกแสบ หรือเป็นผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองง่าย เช่น น้ำหอม สารกันบูดหรือพาราเบน (Paraben), ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีหรือรับประทานยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยากดภูมิต้านทาน รวมถึงการกลั้นปัสสาวะหรือออกแรงเบ่งปัสสาวะมากเกินไปอีกด้วยครับ
แสบน้องชายหายเองได้ไหม
ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการครับ หากเกิดจากการมีกิจกรรมทางเพศรุนแรงเกินไปก็แค่พักจากการมีเพศสัมพันธ์ไปสัก 1 วัน อาการก็จะดีขึ้น แต่หากเป็นอาการรุนแรง ไปมาอย่างยาวนาน ซึ่งเกิดจากภาวะต่อมลูกหมากอักเสบ คุณหมอจะจ่ายยาคลายกล้ามเนื้อในต่อมลูกหมากและกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้คนไข้ปัสสาวะสะดวกขึ้น หรือหากเกิดจากโรคกรวยไตอักเสบแบบเฉียบพลัน (Acute Pyelonephritis) คุณหมอจะจ่ายยาปฏิชีวนะเจนตามัยซิน (Gentamicin) ทุก 8 – 12 ชั่วโมงและติดตามอาการอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการจะดีขึ้น เป็นต้น
แสบน้องชาย ป้องกันได้อย่างไรบ้าง
- ทำความสะอาดน้องชายทุกครั้งที่อาบน้ำ, ก่อน – หลังเพศสัมพันธ์ และหลังปัสสาวะเสร็จ
- ทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธี ไม่ถูแรงเกินไป เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชายสูตรอ่อนโยน
- ไม่ทำความสะอาดน้องชายบ่อยเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย
- งดพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ เช่น มีเพศสัมพันธ์รุนแรง, ไม่สวมถุงยางอนามัย, เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ฯลฯ
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน ประมาณ 8 แก้วต่อวัน
- ไม่อั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ไม่เบ่งปัสสาวะบ่อย ๆ
แม้ว่าใครหลายคนจะคิดว่าตัวเองทำความสะอาดน้องชายหมดจดแล้ว แต่ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากบางคนไม่สามารถเปิดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดหัวองคชาตได้ แม้ว่าจะพยายามเปิดแล้วก็ตามแต่กลับรู้สึกเจ็บน้องทุกครั้ง ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามหนังหุ้มปลายสะสมอยู่เป็นจำนวนมากและก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณน้องชายตามมา นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพน้องชายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ง่ายขึ้น, โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ, โรคต่อมลูกหมากอักเสบ หรือโรคมะเร็งองคชาตที่อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียน้องชายอย่างถาวรครับ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ใครหลายคนเข้ารับการผ่าตัดหนังหุ้มปลาย หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า การขลิบไร้เลือด ซึ่งเป็นวิธีการรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายตีบด้วยเครื่องมือขลิบไร้เลือดอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีทั้งความปลอดภัยและความแม่นยำสูง สามารถผ่าตัดหนังหุ้มปลายและเย็บกลัดอลูมิเนียมภายในเวลาเดียวกัน ช่วยร่นระยะเวลาในการรักษาเหลือเพียง 10 – 15 นาทีเท่านั้น หลังจากการรักษาคนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องนอนพักฟื้นแต่อย่างใด สำหรับตัวกลัดอลูมิเนียมที่ใช้เย็บแผลนั้นก็จะหลุดออกเองภายใน 1 สัปดาห์หลังการรักษา และที่สำคัญเมื่อเนื้อเยื่อได้รับความเสียหายน้อยเนื่องจากถูกเย็บแผลห้ามเลือดในทันทีแล้ว ก็จะช่วยแผลบอบช้ำน้อย แผลแห้ง หายไวภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากการขลิบไร้เลือดจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังหุ้มปลายตีบตั้งแต่กำเนิดหรือตีบจากพฤติกรรมเสี่ยงแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาหนังหุ้มปลายตีบจากผิวหนังที่ขาดความยืดหยุ่นเมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วยครับ
บทความที่น่าสนใจ
- ตอบทุกข้อสงสัย ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับการขลิบไร้เลือด
- ก่อนขลิบ หลังขลิบ แตกต่างกันไหม ดูแลน้องชายอย่างไรให้แผลขลิบหายไว
- อย่าเพิ่งขลิบ!! หากยังไม่ได้ดูรีวิวแผลขลิบจากคลินิกชั้นนำ
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
แม้ว่าจะมีคลินิกขลิบไร้เลือดมากมาย แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน
โปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand