แม้ว่าสิวอักเสบจะสร้างความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยบนผิวหน้า แต่ก็ถือเป็นปัญหาระดับชาติสำหรับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานพบปะผู้คนตลอดเวลาอย่างอาชีพพิธีกร นักร้อง นักแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ ที่จะต้องมีใบหน้าที่เรียบเนียนและเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ และหากคุณไม่อยากเป็นสิวขึ้นเห่อบนใบหน้าก็จำเป็นที่จะต้องดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี แต่หากคุณไม่รู้ว่าวิธีการดูแลผิวหน้าของคุณนั้นถูกต้องหรือไม่ วันนี้ Gentle Clinic มี 5 วิธีดูแลผิวหน้าไม่ให้เป็นสิวมาฝากกันครับ
แนะนำ 4 วิธีดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องสำหรับคนที่ไม่อยากเป็นสิวอักเสบ
1. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี
หลายคนอาจคิดว่าตัวเองล้างหน้าถูกวิธีมาตลอดชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้วการล้างหน้าไม่ใช่แค่เพียงเอาน้ำสะอาดราดหน้าแล้วตามด้วยโฟมล้างหน้าเพียงเท่านั้น แต่มีขั้นตอนรายละเอียดที่ลึกลงไปอีก หากคุณทำผิดวิธีก็อาจทำให้ผิวหน้าสกปรกหรือผิวหน้าบอบบางกว่าเดิมจนเกิดสิวเห่อง่ายขึ้น สำหรับวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องนั้นเริ่มจากการล้างมือให้สะอาดก่อน จากนั้นค่อยเช็ดเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าด้วย Cleansing Oil โดยเฉพาะจุดที่มีอายไลเนอร์ อายแชโดว์ และมาสคาร่า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดยากมาก และมาถึงในส่วนของการล้างหน้าจริงๆ แล้วนะครับ สำหรับการล้างหน้าที่ถูกต้องควรล้างด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปเพื่ออาจทำให้ผิวหน้าแห้งง่ายขึ้น ไม่ใช้ฝักบัวฉีดเข้าไปที่ใบหน้าตรงๆ แต่ให้ใช้มือรองน้ำแล้วราดให้ทั่วใบหน้าแทนเพื่อป้องกันผิวหน้าระคายเคือง เมื่อล้างน้ำสะอาดในรอบแรกแล้วให้ตีโฟมล้างหน้าให้เป็นฟองแล้วถูใบหน้าเบาๆ ไปตามรูปหน้าให้ครบทุกจุด ทั้งนี้ไม่ควรล้างหน้านานเกิน 1-2 นาที เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองง่ายขึ้นครับ
2. ใช้สกินแคร์ให้ถูกประเภท
ในส่วนของตอนเช้านั้นเราจะเริ่มจากการใช้ cleanser หรือโฟมล้างหน้าในการล้างหน้าตอนเช้าเพื่อเอาความมันส่วนเกินบนใบหน้าออกไปก่อนแล้วตามด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวและเปิดรูขุมขนให้พร้อมต่อการบำรุงด้วย Essence ที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า ตามด้วยเซรั่มที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา จากนั้นค่อยลงครีมกันแดดซ้ำอีกทีเพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB จากภายนอกบ้านที่อาจก่อให้เกิดฝ้ากระและเกิดริ้วรอยตามมา
ส่วนกลางคืนเราจะใช้ Cleansing เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อน จากนั้นใช้โฟมล้างหน้าล้างให้ทั่วใบหน้าแล้วตามด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อมต่อการบำรุงก่อนนอนด้วย Essence หรือน้ำตบเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า ในกรณีที่มีสิวให้ใช้ยาทาหรือครีมแต้มสิวแต้มบางๆ บริเวณที่เป็นสิว หลังจากนี้ให้บำรุงผิวด้วยเซรั่มและอายครีมเพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ก่อนจะลงมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกรอบ แล้วตบท้ายด้วย Sleeping Mask เพื่อล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิวไปจนถึงเช้า นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นเปล่งปลั่งแล้ว ยังลดโอกาสเกิดสิวเห่อได้มากอีกด้วย
3. อย่าปล่อยให้หน้ามันเกินไป
บางคนอาจมีภาวะหน้ามันง่ายจากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัว แต่ก็มีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาหน้ามันจากการดูแลผิวหน้าไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็นหน้ามันจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวหรืออากาศหนาวที่ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นและกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำมันออกมารักษาอุณหภูมิบนใบหน้าจนเกิดการอุดตันและกลายเป็นสิว, การล้างหน้าหรือสครับผิวหน้าที่บ่อยเกินไปจนผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นและผลิตน้ำมันออกมารักษาสมดุล, การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นผู้ที่มีผิวหน้ามันอยู่แล้วแต่ดันใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เป็นต้น ดังนั้นคุณควรดูแลผิวหน้าให้ดี หากผิวหน้ามันแนะนำให้ใช้กระดาษซับมันแต่ทรัพย์บนผิวหน้าเบาๆ เพื่อกำจัดความมันออกบางส่วน แต่ไม่ควรซ้ำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และที่สำคัญพยายามดื่มน้ำให้ตรงตามความต้องการของร่างกายประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อเติมน้ำที่สูญเสียไปจากอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดอีกด้วยครับ
4. จัดการความเครียดให้เหมาะสม
นอกจากจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกหงุดหงิดใจแล้ว ความเครียดยังมีผลต่อการเกิดสิวเห่อขึ้นด้วยนะครับ เพราะเมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะเครียดจะกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดซึ่งไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนไซโตไคน์ (Cytokine) ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตไขมันบนใบหน้ามากขึ้น และเมื่อมีไขมันส่วนเกินเป็นจำนวนมากก็จะเข้าไปอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวตามมา นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดสิวเห่อขึ้นมาใหม่แล้ว ภาวะความเครียดยังมีผลทำให้อาการของสิวรุนแรงยิ่งขึ้น สิวหายช้าลง เนื่องจากความเครียดจะกระตุ้นให้รู้สึกกังวลและหวาดระแวง มีผลทำให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท และอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าการนอนหลับพักผ่อนเป็นการฟื้นฟูระบบต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยิ่งคุณนอนน้อยเท่าไหร่ระบบฟื้นฟูก็ยิ่งทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ มีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายง่ายขึ้น และเป็นสิวหนักกว่าเดิม
ดังนั้นการจัดการความเครียดไม่ให้มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไปจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกๆ คน หากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนเครียดง่ายแนะนำให้หางานอดิเรกหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจนำมาทำในช่วงที่กำลังเครียด เพราะการทำงานอดิเรกจะช่วยเบี่ยงเบนไม่ให้เราจดจ่ออยู่กับความเครียดมากเกินไป และยิ่งได้ทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจด้วยแล้วก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเอิบอิ่มใจ ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น ป้องกันการนอนน้อยจากภาวะความเครียดได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณมีภาวะความเครียดที่เกิดจากโรคซึมเศร้าหรือโรคไบโพลาร์แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี
แล้วถ้ามีหลุมสิวลึก รักษาด้วยวิธีไหนดี
จริงอยู่ที่การรักษาหลุมสิวลึกด้วยเลเซอร์หรือการลอกผิวด้วยสารเคมีนั้นจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกและดันเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่ต้องแลกมากับผลข้างเคียงจากการรักษาที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหน้าได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวนั้นก็ไม่ได้ช่วยรักษาหลุมสิวได้อย่างถาวร ผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นจะต้องกลับเข้ามาฉีดลงสิวซ้ำๆ เพื่อคงผลลัพธ์การรักษาไว้
แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคการฟื้นฟูตัวเองอย่าง Juvgen หรือ JuvGenesis จาก Gentle Clinic ที่นอกจากจะเห็นผลทันทีหลังการรักษาแล้ว ยังปลอดภัยต่อผิวหน้าของคนไข้อีกด้วย และที่สำคัญวิธีนี้จะเน้นไปที่การฟื้นฟูผิวของคนไข้เองโดยการฉีดสาร Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เพื่อให้หลุมสิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้งได้อย่างถาวร เห็นผลทันทีหลังการฉีด ไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเหมือนวิธีอื่น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่
สุดท้ายนี้หากคุณสนใจรักษาหลุมสิว ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม แนะนำให้ศึกษาข้อมูลของการรักษาแต่ละประเภทก่อนว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ใช้เวลารักษาประมาณเท่าไหร่ เห็นผลตอนไหน ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและการเงิน ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาได้ตลอดระยะเวลาที่แพทย์ตั้งเอาไว้ครับ หรือหากไม่แน่ใจแนะนำให้สอบถามกับคลินิกชั้นนำที่เชื่อถือได้หลายๆ คลินิกเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจจะดีที่สุดครับ
บทความที่น่าสนใจ
- สิวอักเสบคืออะไร ทำไมรักษาไม่หายสักที ควรดูแลผิวอย่างไรดี
- สิวอักเสบขึ้นบ่อย ไม่หายสักที อาจมาจากการดูแลผิวหน้าแบบผิดๆ
- สิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร หายเองได้ไหม ดูแลยังไงไม่ให้สิวอักเสบ
ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic
JuvGenesis ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Rolling scar, Box scar, Ice-pick Scars, หลุมเล็ก, หลุมใหญ่ หรือหลุมลึกก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนและะรักษาถาวร นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://page.line.me/gentleclinic
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand