รู้หรือไม่ว่าปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่ได้เกิดจากการดูแลทำความสะอาดผมไม่ดีพอหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างเช่นพักผ่อนน้อย สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการป่วยเป็นโรคบางชนิดที่ทำให้ผมร่วงอีกด้วยครับ ว่าแต่โรคที่ทำให้ผมร่วงมีอะไรบ้าง มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้ผมร่วง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ
โรคที่ทำให้ผมร่วงมีอะไรบ้าง
1. โรคต่อมไทรอยด์
เป็นโรคที่ทำให้ผมร่วงไที่พบได้บ่อยที่สุดในบรรดาปัญหาสุขภาพทั้งหมด เกิดจากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนผิดปกติอันเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ร่างกายขับไขมันออกมาจากผิวหนังมากขึ้น เป็นเหตุทำให้หนังศีรษะมันและมีไขมันไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนมากกว่าปกติ รากผมจึงมีเลือดและสารอาหารเข้าไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายขึ้น นอกจากนี้ผมที่มันยังช่วยดูดจับฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้หนังศีรษะสกปรกและเสี่ยงต่อปัญหาหนังศีรษะง่ายขึ้นครับ นอกจากผมร่วงยังมีผลต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยอีกด้วย เช่น อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกง่วงตลอดเวลา นอนหลับยาก หิวง่าย น้ำหนักขึ้นลงผิดปกติ
2. โรคตับอักเสบ
เป็นอีกหนึ่งโรคที่ทำให้ผมร่วงพอ ๆ กับโรคต่อมไทรอยด์เลยครับ โดยสาเหตุของโรคนี้เกิดจากความผิดปกติของตับ เนื่องจากตับมีหน้าที่กรองของเสียที่เข้าสู่ร่างกายให้ออกจากร่างกาย หากตับเกิดการอักเสบทั้งแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังก็ตาม อาจทำให้เกิดแผลเป็นในตับหรือเกิดพังผืดกระจายทั่วทั้งตับ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติและสะสมของเสียเอาไว้ ตับจึงบวมและอักเสบตามมา ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นตัวเหลืองตาเหลือง อ่อนเพลีย จุกแน่นใต้ชายโครงขวา หากรุนแรงอาจถึงขั้นตับแข็งและกลายเป็นมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังเป็นผลทำให้ผมร่วงอีกด้วยครับ สำหรับสาเหตุของโรคตับอักเสบจะเกิดจากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ A, B, C, D และ E จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนไวรัสจากผู้ที่ติดเชื้อ, ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, มีเพศสัมพันธ์หลายคู่นอนหรือมีโดยไม่ป้องกัน, ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน, ใช้ยารักษาโรคเกิดขนาดเป็นเวลานาน, มีภาวะอ้วนลงพุงจนเกิดภาวะไขมันพอกตับ, แพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นต้น
3. โรคเครียด
เมื่อเรามีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ร่างกายจะกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดที่เข้าไปปรับวงจรชีวิตของเส้นผม ส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงไวกว่าคนอื่น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครียดง่ายจะเป็นการทำงานภายใต้ความกดดันสูง, มีปัญหาในด้านความสัมพันธ์, ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในชีวิต, ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง, ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงใกล้หมดประจำเดือน โดยภาวะเครียดจนผมร่วงมี 3 ประเภท ได้แก่ Telogen effluvium (TE) เป็นภาวะผมร่วงฉับพลัน, Trichotillomania เป็นภาวะดึงผมเมื่อเกิดความเครียด และ Alopecia Areata (AA) เป็นภาวะผมร่วงผมบางที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากจะทำให้ผมร่วงอย่างรุนแรงแล้ว ความเครียดอาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา เช่น นอนหลับยาก พักผ่อนน้อย ป่วยบ่อย เป็นหวัดง่าย เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
4. โรคไต
ไตทำหน้าที่ปรับสมดุลระดับน้ำเกลือและแร่ธาตุในร่างกายและขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย หากไตทำงานผิดปกติก็จะส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงงง่ายกว่าปกติ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงไตอักเสบด้วยแล้วก็ยิ่งมีผมร่วงเยอะกว่าปกติครับ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไตได้แก่ มีภาวะหลอดเลือดฝอยในไตอักเสบ ไตฝ่อ มีมวลเนื้อไตน้อย หรือมีไตข้างเดียวตั้งแต่กำเนิด ติดเชื้อทางเดินระบบปัสสาวะส่วนบน คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงบ่อย ดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ ฯลฯ
5. ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome)
เป็นภาวะความผิดปกติที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในเพศหญิง เช่น ร่างกายผลิตอินซูลิน (Insulin) หรือผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มากเกินไป ส่งผลให้การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ มีภาวะดื้ออินซูลิน เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต นอกจากนี้ยังกระตุ้นอาการต่าง ๆ ที่มีอยู่ฮอร์โมนเพศชายมากขึ้น ส่งผลให้หน้ามัน สิวเห่อ อ้วนลงพุง รวมถึงผมร่วง ศีรษะล้านด้วย
6. ลองโควิด (Long Covid)
เมื่อคุณติดเชื้อโควิด-19 แล้วจะกระตุ้นให้สารไซโตไคน์ (Cytokines) ในร่างกายสูงขึ้นและก่อให้เกิดการอักเสบของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากจะมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้สูง น้ำหนักตัวลดลง นอนหลับไม่เต็มอิ่ม เครียดง่ายแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะผมร่วงได้อีกด้วย สำหรับผมร่วงจากลองโควิดจะเกิดขึ้นหลังจากหายโควิด-19 ไปแล้วประมาณ 1-3 เดือน โดยจะมีผมร่วงทั่วทั้งศีรษะมากกว่า 100 เส้นต่อวัน บางรายอาจร่วงถึง 700-1,000 เส้นต่อวัน โดยไม่เกิดรอยแผลเป็น และอาจประสบปัญหาผมร่วงนานถึง 6 เดือนได้อีกด้วย
7. ซิฟิลิส (Syphilis)
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสเชื้อบริเวณที่มีการติดเชื้อโดยตรง โดยเกิดจากเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) แล้วเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวจะแสดงออกเมื่อผู้ป่วยโรคซิฟิลิสระยะ 2 นอกจากจะมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ คล้ายแมลงแทะหรือร่วงทั่วทั้งศีรษะ หรือในคนไข้บางรายอาจผมร่วงทันทีที่สัมผัสเส้นผมแล้ว ยังเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา เช่น มีแผลริมแข็งหรือมีตุ่มแผลขึ้นที่อวัยวะเพศ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ น้ำหนักลด หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างโรคเส้นแดงโป่งพองและหลอดเลือดแดงใหญ่อักเสบได้อีกด้วยครับ
กามโรค ภัยร้ายที่ป้องกันได้ด้วยการดูแลน้องชายอย่างถูกวิธี
ดูแลเส้นผมให้แข็งแรงแบบง่าย ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้
นอกจากการรักษาโรคที่ทำให้ผมร่วงตามอาการแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวมจะช่วยให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยวิธีดูแลตัวเองแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้มีดังนี้
- รับประทานอาหารบำรุงผมเป็นประจำ โดยเน้นอาหารที่มีไบโอติน (วิตามิน B7), วิตามิน A, วิตามิน B รวม, วิตามิน C ธาตุเหล็ก (Iron), ซิงค์ (Zinc) หรือสังกะสี, กรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง เพิ่มอายุของวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมให้มากขึ้น
- รักษาโรคที่เกี่ยวข้องให้หายก่อน เช่น ทานยาลดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์, ทานยาตามแพทย์สั่งและดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดหากป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
- เลิกบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงนาน ๆ ที หรืองดได้ก็ดีครับ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานรวน รวมถึงวงจรชีวิตของเส้นผมด้วย
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงเป็นเวลานาน หากจำเป็นจริง ๆ ควรสวมเสื้อผ้าป้องกันแดดด้วย
มีปัญหาผมร่วง ผมบาง รักษาอย่างไรดี
ที่ Gentle Clinic เรามีเทคนิคการรักษาผมร่วง ผมบาง ที่เห็นผลได้จริง แถมยังช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงอีกด้วย ได้แก่ เทคนิค Cell Theapy และ Regenesis Micrograft Hair ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของเรา สำหรับรายละเอียดและข้อดีของแต่ละเทคนิคมีดังนี้
1. Cell Theapy
เป็นเทคนิคการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยการสกัด Growth factor และ Stemcell ปริมาณเข้มข้นสูงจากเลือดของคนไข้ แล้วนำมาปั่นแยกเซลล์และคัดเอาเกล็ดเลือดเพื่อนำมาฉีดเข้าไปยังบริเวณที่มีผมร่วง รวมถึงใช้แสงสีแดงสำหรับกระตุ้นการขึ้นของรากผมร่วมด้วย ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้าง Growth Factor, ช่วยซ่อมแซมความเสื่อมระดับเซลล์ (Regenerative Medicine) อีกทั้งช่วยลดความว่องไวต่อฮอร์โมน DHT ส่งผลให้ต่อมไขมันบริเวณรากผมทำงานน้อยลง รากผมจึงกลับมาแบ่งตัวเพิ่มขึ้นเส้นผมงอกใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้น ผมดูหนาขึ้น
2. Regenesis Micrograft Hair
เป็นโปรแกรมเพิ่มผมหนาโดยเน้นรักษาอายุของเส้นผมของคนไข้ให้นานที่สุด โดยแพทย์จะคัดเลือกรากที่แข็งแรงสมบูรณ์มากที่สุดบริเวณหลังใบหูหรือท้ายทอย นำมาสกัดได้ปริมาณเซลล์ต้นกำเนิดสูงถึง 4 ล้านเซลล์ และปั่นด้วยเครื่อง Reginera รุ่นล่าสุดจากจากยุโรป ที่ถือว่าล้ำหน้ากว่าการปลูกผมรุ่นเก่า เมื่อได้รากผมที่ผ่านการสกัดมาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณศีรษะที่มีปัญหาเพื่อให้รากผมแตกตัวและเจริญเติบโตเป็นเส้นผมใหมจำนวนมาก ทําให้ผมหนาดกดํายิ่งขึ้นอย่างเห็นชัดหลังการรักษาไปแล้ว 45 – 90 วัน เนื่องจากวิธีการรักษาประเภทนี้จะใช้ Growth Factor ของคนไข้เองประมาณ 90% นอกจากจะปลอดภัยต่อตัวคนไข้เองแล้วยังมอบผลการรักษาที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ
- สระผมแล้วผมร่วง ปกติไหม ดูแลเส้นผมอย่างไรให้แข็งแรง
- ป้องกันผมร่วงด้วยตัวเอง เพียงแค่หยุดพฤติกรรมดังต่อไปนี้
- ผมร่วงเป็นหย่อม อันตรายไหม รักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
รักษาผมร่วงที่ไหนดี
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาผมร่วงผมบาง ที่ Gentle Clinic เรามีนวัตกรรม Cell Therapy ที่นำเลือดของคนไข้เองมาสกัด Growth factor และ Stemcell ปริมาณเข้มข้นสูง เพื่อไปฉีดกลับที่รากผมเพียงเดือนละครั้ง เพื่อซ่อมแซมรากผม กระตุ้นการไหลเวียน และสร้างระบบหลอดเลือดฝอยเพิ่มขึ้นใหม่ในหนังศรีษะ เป็นโปรแกรมยอดนิยมที่คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อรักษาปัญหาผมบางของคุณครับ
นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมใหม่ที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วย Regenesis Micrograft โดยสกัด stemcell จากเนื้อเยื่อรากผมโดยตรง ทำเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ก็สามารถช่วยบำรุงรากผมและเส้นผมของคุณให้กลับมาเพิ่มจำนวน และแข็งแรงได้อย่างที่ต้องการ เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า ช่วยคุณห่างไกลปัญหาผมบาง แม้จะเป็นภาวะผมบางจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรมก็ตาม
และที่สำคัญเรายังมีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ด้วยออกซิเจนเข้มข้น 100% ใต้บรรยากาศแรงดันสูงเสมือนอยู่ใต้น้ำลึก ควบคู่กับการเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน จาก 20 เป็น 100% ทำให้ออกซิเจนละลายในพลาสม่าได้มากขึ้นเป็น 10 เท่า ร่างกายจึงส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้เซลล์ทุกเซลล์ตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปฏิกิริยาการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของอวัยวะในร่างกาย, ลดการอักเสบของข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ จากการเล่นกีฬาและออฟฟิศซินโดรม, กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคจาก ROS (reactive oxygen spicies) ที่มากขึ้น, กระตุ้นสมองและระบบประสาท เพิ่มหน่วยความจำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย คลายเครียด, ลดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand