หลุมสิวตื้นๆ รักษาได้ไหม วิธีไหนปลอดภัยต่อผิวหน้ามากที่สุด

Facebook
Twitter

ขึ้นชื่อว่าหลุมสิวแล้วคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของตัวเองกันอยู่แล้วล่ะครับ ต่อให้เป็นหลุมสิวลึกหรือตื้นแค่ไหนก็ตาม จริงอยู่ที่หลุมสิวแบบตื้นสามารถรักษาให้หายเองได้ด้วยวิธีธรรมชาติแต่หากดูแลผิวไม่ดีพอก็อาจเกิดสิวเห่อขึ้นมาอีกเรื่อยๆ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับหลุมสิวตื้นกันว่าเกิดจากอะไร รักษาได้ไหม แล้วรักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง เพื่อให้คุณดูแลหลุมสิวอย่างถูกวิธี

หลุมสิวแบบตื้น คืออะไร

เป็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบหายสนิท มีลักษณะคล้ายหลุมบุ๋มลงไปยังชั้นผิวลงไป ส่วนใหญ่จะมีความกว้างอยู่ที่ 4-5 มิลลิเมตร ส่วนสาเหตุของหลุมสิวเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังของร่างกายที่ไม่สมบูรณ์อันเนื่องมาจากสิวอักเสบได้ทำลายคอลลาเจนและเนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดสิว ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีคอลลาเจนและเนื้อเยื่อที่ไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมผิวหนังตามกระบวนการธรรมชาติ และทำให้เซลล์เนื้อเยื่อหดรัดตัวจนกลายเป็นหลุม

โดยหลุมสิวตื้นจะมีระดับความลึกอยู่ที่ช่วงผิวส่วนบนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นหลุมสิวที่มีระดับความลึกที่น้อยที่สุด สามารถรักษาหลุมสิวให้กลับมาเรียบเนียนเทียบเท่ากับบริเวณอื่นของใบหน้าได้ไม่ยากนัก

หลุมสิวตื้น เกิดจากอะไร

1. สิว

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิวตื้นแบ่งเป็น 2 อย่าง ได้แก่ หลุมสิวที่เกิดจากสิวบางประเภท ทั้งสิวหัวช้างเม็ดใหญ่ (Cyst), สิวอักเสบรุนแรง (Pustule) และสิวเป็นไต (Nodule)

2. พันธุกรรม

หากคนในครอบครัวมีปัญหาผิวหน้าแพ้ง่าย หน้ามันง่าย หรือเป็นโรคอัลพอร์ต (Alport Syndrome) ที่ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยกว่าคนอื่น คุณเองก็มีโอกาสที่จะได้รับพันธุกรรมจากคนในครอบครัวมาเหมือนกัน

3. การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

บางคนอาจมีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หลุมสิวอยู่ในระดับที่ตื้นแม้ว่าจะเป็นสิวอักเสบรุนแรงก็ตาม แต่บางคนอาจประสบปัญหากับการตอบสนองของการอักเสบจนทำให้ระดับหลุมสิวลึกกว่าที่ควรจะเป็น

4. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป

ในแต่ละช่วงวัยของชีวิตจะมีการผลิตฮอร์โมนที่มากน้อยแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่นช่วงวัยรุ่นหรือช่วงขณะตั้งครรภ์ที่มีการผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นและกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันรูขุมขนจนกลายเป็นสิวอักเสบรุนแรงและทิ้งหลุมสิวเอาไว้ให้ดูต่างหน้ามากกว่าช่วงวัยผู้ใหญ่

หลุมสิวตื้น อันตรายไหม

ต่อให้เป็นหลุมสิวที่ตื้นหรือลึกแค่ไหนก็ตามก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหน้าแม้แต่น้อย เพียงแต่เป็นแผลเป็นที่ทิ้งไว้หลังจากสิวหายแล้วเท่านั้น ซึ่งหลุมสิวตื้นเองก็ส่งผลต่อความมั่นใจที่ลดลงเมื่อพบปะผู้คน หรืออาจมีผลต่อการแต่งหน้าที่ยากขึ้นด้วยครับ

หลุมสิวตื้น หายเองได้ไหม

แม้จะเป็นหลุมสิวที่มีระดับความลึกที่น้อยมากที่สุดในบรรดาหลุมสิวทั้งหมด แต่หลุมสิวตื้นก็ไม่สามารถฟื้นฟูและกลับมาเรียบเนียนได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นคุณจึงต้องรักษาด้วยวิธีทางธรรมชาติหรือวิธีการรักษาทางการแพทย์เท่านั้น

หลุมสิวตื้น รักษาได้ไหม

เนื่องจากเป็นหลุมสิวที่มีระดับความลึกไม่มากนักจึงสามารถรักษาให้หายและกลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง ทั้งนี้สามารถใช้วิธีรักษาโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติหรือหากคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจก็สามารถรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ก็ได้เช่นกันครับ

หลุมสิวตื้น รักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

1. การกรอผิว (Microdermabrasion)

เป็นการใช้เกล็ดอัญมณีในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งติดอยู่ในชั้นผิวหนังกำพร้าให้หลุดออก โดยเกล็ดอัญมณีที่ใช้จะเป็นผลึกอลูมิเนียมออกไซด์ขนาด 100 ไมครอน แม้ว่าจะช่วยรักษาปัญหาหลุมสิวตื้นได้จริงแต่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 8-10 ครั้งจึงจะเห็นผล หรือหากคุณมีปัญหาหลุมสิวซ้ำซ้อนจนเกิดสิวอักเสบที่มีหลุมสิวลึกมาก วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผล

2. การรักษาด้วยเข็มขนาดเล็ก (Microneedling)

เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กประมาณ 0.5-2 มิลลิเมตร ในการสร้างบาดแผลบริเวณผิวหนังที่เกิดหลุมสิวเพื่อให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ ส่งผลให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นหลังการรักษา นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย รอยแตก ลดฝ้ากระ กระชับรูขุมขน ได้อีกด้วย เพียงแต่เทคนิคการรักษาแบบนี้จะต้องทำอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป โดยทำทุกๆ 4 สัปดาห์ ส่วนผลลัพธ์จะเห็นผลชัดขึ้นในช่วงหลังการรักษาไปแล้ว 6 เดือนขึ้นไป

3. การลอกผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peeling)

เป็นการรักษาโดยการทาสารเคมีลงบนหลุมสิวเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ แม้จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสหลังการรักษาแต่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมา เช่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ, มีแผลเป็น, มีผื่นแดง, ผิวแพ้ง่าย, ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ ฯลฯ ดังนั้นหากคุณต้องการรักษาด้วยวิธีนี้ก็ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

4. การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

เป็นการรักษาโดยการฉีดสาร HA (Hyaluronic Acid) เข้าไปในชั้นผิวที่เกิดหลุมสิวเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้กลับมาตื้นและเรียบเนียนเหมือนผิวหน้าส่วนอื่น แม้จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการรักษาแต่ฟิลเลอร์ก็มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6 เดือนถึง 1 ปีแล้วจึงสลายตัวเองตามกลไกของธรรมชาติ หากต้องการคงผลลัพธ์เอาไว้ก็ต้องเข้ามาฉีดซ้ำๆ ทั้งนี้ถ้าคุณดูแลผิวหน้าไม่ดีพอก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายไวและต้องเข้ารับการฉีดบ่อยขึ้น

5. Juvgen

เป็นเทคนิคการรักษาที่เน้นไปที่การฟื้นฟูผิวหนังตัวเองของคนไข้ซึ่งจะคงผลลัพธ์เอาไว้ได้อย่างถาวรว่าจะทำการรักษาเพียงครั้งเดียวก็ตาม แตกต่างจากวิธีอื่นที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เทคนิคนี้ถูกคิดค้นโดย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี สำหรับวิธีการรักษานั้นไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นัก เพียงแค่ฉีดสาร Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิวเพื่อฉีดเซลล์ผิวที่สมานตัวกันอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพออกและกระตุ้นการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลังการรักษาประมาณ 3-5 วันจะเห็นว่าผิวหนังบริเวณที่เกิดหลุมสิวถูกดันขึ้นมาแล้วปิดหลุมสิวให้กลับมาเรียบเนียนเหมือนผิวหน้าส่วนอื่น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย

JuvGenesis ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Rolling scar, Box scar, Ice-pick Scars, หลุมเล็ก, หลุมใหญ่ หรือหลุมลึกก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนและะรักษาถาวร นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง  เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ