สิวสเตียรอยด์ เกิดจากอะไร หายเองได้ไหม ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

Facebook
Twitter

แม้ว่าคุณจะดูแลผิวหน้ามาดีแค่ไหน แต่หากจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโรคหรือปัญหาสุขภาพบางประเภทก็อาจเกิดผลข้างเคียงของการรักษาตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บปวดหลังการรักษา รวมถึงเกิดสิวสเตียรอยด์ด้วย ว่าแต่สิวชนิดนี้เกิดจากอะไรได้บ้าง ป้องกันได้ไหม ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะดูแลสิวอย่างไรให้สิวหายไวขึ้น วันนี้เรามีข้อมูลมาฝากครับ

สิวสเตียรอยด์ คืออะไร

หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า สิวติดสาร เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Steroid) เป็นเวลานานเกิน 2 สัปดาห์ จริงอยู่ที่สเตียรอยด์ออกฤทธิ์การอักเสบของผิว แต่เมื่อใช้สเตียรอยด์ไปสักพักหนึ่งแล้วก็จะเกิดการอักเสบของรูขุมขนเนื่องจากสารสเตียรอยด์ไปทำลายผิวจนผิวอ่อนแอและหลั่งของเสียออกนอกเซลล์จนไปผสมกับไขมันบนผิวหนัง กลายเป็นสิวสเตียรอยด์ในที่สุด โดยสิวที่เกิดขึ้นนั้นจะเกิดบริเวณที่ใช้ยาเท่านั้น ไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย สำหรับสิวที่เกิดขึ้นจะมีทั้งสิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด มีผื่นแดงและผิวระคายเคือง มีรูขุมขนกว้าง

สิวสเตียรอยด์มีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. Steroid acne

เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ในรูปแบบยาทานหรือยาฉีดเพื่อรักษาโรคบางชนิด เช่น ยากลุ่ม Corticosteroids สำหรับรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือกดภูมิหลังปลูกถ่ายอวัยวะ, ยากลุ่ม Anabolic Steroids ใช้สำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฯลฯ โดยยาในกลุ่มนี้จะลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบบริเวณรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวง่ายขึ้น

2. Steroid rosacea

เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ในรูปแบบยาทา โดยยาประเภทนี้จะลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและก่อให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังเกิดจากการแพ้สารสเตียรอยด์ที่เกิดสิวเห่อบริเวณผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน

ลักษณะของสิวสเตียรอยด์

  • มีตุ่มหนองหรือตุ่มนูนแดง
  • มีทั้งสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวเสี้ยน สิวหัวขาว หรือสิวอักเสบ
  • สิวจะขึ้นทีละเม็ดหรือขึ้นทีละหลายๆ เม็ดพร้อมกัน
  • สิวเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ใช้ยาเท่านั้น
  • เห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจนกว่าเดิม เนื่องจากเส้นเลือดบริเวณนั้นขยายตัว
  • ผิวบอบบาง แพ้ง่ายกว่าแต่ก่อน
  • ผิวเป็นปื้นแดงๆ
  • รู้สึกคันบริเวณที่เกิดสิว
  • บางรายอาจรู้สึกเจ็บร่วมด้วย
  • สิวขึ้นบริเวณผิวหน้า ลำตัว หรือแผ่นหลัง

ผลข้างเคียงจากสิวสเตียรอยด์

คนไข้บางรายอาจมีแผลที่เกิดจากสิว เช่น รอยดำ รอยแดง หลุมสิว ได้เช่นกัน โดยแต่ละปัญหาจะใช้เวลารักษาที่แตกต่างกันไป หากเป็นรอยดำหรือรอยแดง แต่หากเป็นหลุมสิวก็ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของหลุมครับ หากหลุมไม่ลึกมากก็

สิวสเตียรอยด์ หายเองได้ไหม

ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงครับ หากเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์ อาการสิวสเตียรอยด์ไม่รุนแรงมาก เพียงแค่หยุดใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น อาการสิวก็จะค่อยๆ หายไปเอง แต่หากเป็นสิวจากการใช้ยาสเตียรอยด์ตามแพทย์สั่งนั้นคุณไม่สามารถหยุดยาได้เอง จะต้องเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เกิดจากการหยุดใช้ยา

บีบสิวสเตียรอยด์เองได้ไหม

เนื่องจากสิวสเตียรอยด์จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอและติดเชื้อง่ายกว่าปกติ หากกดเองก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้นและเกิดสิวเห่อขึ้นมาอีกมาก หากต้องการกดสิวจริงๆ ควรทำโดยแพทย์เท่านั้นครับ

สิวสเตียรอยด์ รักษานานไหม

หากผิวหน้าไม่อ่อนแอมาก คนไข้อาจปล่อยให้หายเองโดยใช้เวลานานหลายเดือน แต่หากอาการรุนแรงมากก็อาจต้องใช้วิธีรักษาทางการแพทย์เข้าช่วย ซึ่งบางรายอาจใช้เวลาเป็นปีครับ

สิวสเตียรอยด์ รักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

1. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสเตียรอยด์

การหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสเตียรอยด์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรักษาสิวสเตียรอยด์ หากเป็นการใช้ยาเฉพาะที่หรือครีมที่มีสเตียรอยด์ แพทย์มักจะแนะนำให้ลดปริมาณการใช้หรือหยุดใช้ทันที ทั้งนี้ไม่ควรลดหรือหยุดเองเด็ดขาดเพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

2. ใช้ยาที่ช่วยรักษาสิว

2.1 ยาเฉพาะที่

แบ่งเป็นครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของสาร 3 ชนิด ได้แก่ Benzoyl peroxide ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว , Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน หรือ Retinoids ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน

2..2 ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)

กรณีที่สิวสเตียรอยด์อักเสบหรือติดเชื้อ สามารถใช้ยาปฏิชีวนะในรูปแบบของครีมหรือยาทาน เช่น Doxycycline และ Minocycline แต่ถึงอย่างไรก็ตามจำเป็นต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าสิวจะหายแล้วเพื่อป้องกันอาการดื้อยา แต่ในกรณีที่ยังไม่ดีขึ้นแม้ยาจะหมดแล้วก็ไม่ควรซื้อมาใช้เองเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาเกินขนาดได้ด้วยครับ

3. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน

เราขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดผิวแห้งหรือระคายเคือง และจำเป็นต้องมีมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้โดยไม่เพิ่มความมันบนใบหน้า ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองมากขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมทาครีมกันแดดที่มี SPF เพื่อป้องกันแสงแดดที่อาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองหรือทำให้สิวเป็นมากขึ้น

4. การรักษาทางการแพทย์

  • Laser Treatment สำหรับการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์บางชนิดจะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เพียงแต่ต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผลและอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  • Microdermabrasion เป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกเพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียนและลดรอยแผลเป็นจากสิว
  • การรักษาด้วยการบำบัดแสง (Light Therapy) แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Blue Light Therapy เป็นการใช้แสงสีน้ำเงินเพื่อฆ่าแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว สามารถช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิว และ Red Light Therapy เป็นการใช้แสงสีแดงเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและลดการอักเสบ

ถ้าเป็นสิวสเตียรอยด์แล้ว ทำยังไงดี

กรณีที่คุณเป็นหลุมสิวลึกจากสเตียรอยด์แล้วก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในปัจจุบันเราสามารถรักษาหลุมสิวลึกได้ด้วย JUVGEN เทคนิคการรักษาหลุมสิวด้วยการฟื้นฟูผิวตัวเองจาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นโดย จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีด Co2 foam กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) อนุภาคเล็กลงไปในชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิวเพื่อฉีกเซลล์เก่าทิ้งและกระตุ้นการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากขึ้นมาใหม่ ช่วยเติมหลุมสิวให้เต็มได้ในทันที และหลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง นอกจากจะไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะตัวเครื่องมือถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

GentleClinic เราเป็นทีมแรกในไทยที่ใช้เครื่อง JuvGen รักษาหลุมสิวและร่องลึก โดยได้รับการเทรนโดยตรงจาก Dr.จิน (Jin Se-hun) เราพร้อมด้วยประสบการณ์และเทคนิคในการยิงหลุมที่ลึกและยากกว่าหลุมทั่วไป เช่น box scar ที่มีขอบแข็ง หลุมแผลเป็นลึกจากอีสุกอีใส ร่องพับลึกบนหน้าฝาก เป็นต้น เราจึงกล้าการันตีผลการรักษา จ่ายครั้งเดียวจบ เติมหลุมสิวจนเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGen

บทความที่น่าสนใจ

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ