แม้ว่าหลุมสิวจะเป็นปัญหาผิวหน้าที่สามารถรักษาได้แต่ก็รักษาได้เฉพาะหลุมสิวตื้นๆ หรือระดับความลึกประมาณ 3-5 มิลลิเมตรเท่านั้น หากคุณมีหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar นั้นก็อาจต้องทำใจสักหน่อยเนื่องจากหลุมสิวประเภทนี้รักษายากกว่าหลุมสิวประเภทอื่น ว่าแต่หลุมสิวประเภทนี้เกิดจากอะไร ทำไมถึงรักษาได้ยาก แล้วมีวิธีรักษาแบบไหนบ้าง มาอ่านไปด้วยกันเลยครับ
หลุมสิวลึกคืออะไร
เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่เกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบหายไปแล้ว โดยเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย P.acnes (Propionibacterium Acnes) เข้าไปทำร้ายถึงชั้นผิวลึก ส่งผลให้เนื้อเยื่อและคอลลาเจนบริเวณที่มีสิวถูกทำลายและไม่สามารถซ่อมแซมผิวบริเวณที่มีสิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีปริมาณคอลลาเจนและเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ ส่งผลให้เนื้อเยื่อหดตัวและเกิดพังผืดที่มีลักษณะคล้ายหลุมดึงรั้งผิวหนังให้ยุบลง โดยหลุมสิวประเภทนี้มีลักษณะปากหลุมที่แคบแต่มีความลึกที่มากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลึกกว่าหลุมสิวประเภทอื่น ส่วนก้นหลุมสิวจะมีลักษณะแหลมคล้ายกรวย รอยหลุมสิวเห็นขอบชัด
ส่วนประเภทของสิวที่ทำให้เกิดหลุมสิวลึกจะมีทั้งสิวหัวช้าง (Cyst) สิวอักเสบ (Pustule) และสิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (Nodule) อย่างสิวหัวช้างและสิวไต ซึ่งเป็นสิวที่ทำให้ร่างกายหลั่งเอนไซม์คอลลาจีเนส (Collagenase) มาทำลายเซลล์ผิวและคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวชั้นในเกิดการยุบตัวและเกิดเป็นพังผืดคล้ายหลุมดึงรั้งผิวเอาไว้ หลุมสิวประเภทนี้จัดว่าเป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงมากที่สุดในบรรดาหลุมสิวทั้งหมด สำหรับบริเวณที่พบหลุมสิวบ่อยที่สุดจะเป็นหน้าผากและช่วงบนของแก้ม
หลุมสิวลึก อันตรายไหม
หลุมสิวลึกก็เหมือนหลุมสิวประเภทอื่นที่ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดใดๆ ต่อร่างกาย เพียงแต่อาจมีผลต่อความมั่นใจที่ลดลงครับ
หลุมสิวลึก รักษาเองได้ไหม
ไม่ได้ครับ เนื่องจากหลุมสิวประเภทนี้มีระดับความลึกที่มากกว่าหลุมสิวแบบอื่น ซึ่งวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาตินั้นสามารถรักษาได้เฉพาะหลุมสิวที่มีความลึกไม่มากนักอย่างหลุมสิว Box Scar และหลุมสิว Rolling Scar เท่านั้น หากเป็นหลุมสิวลึกอย่าง Ice Pick Scar จะต้องรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์เท่านั้นครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: หน้าเป็นหลุม รักษาด้วยธรรมชาติได้ไหม มีวิธีที่ไวกว่านี้มั้ย
หลุมสิวลึก ทำไมรักษายาก
เนื่องจากหลุมสิวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการสมานแผลของร่างกายที่เกิดขึ้นโดยไม่สมบูรณ์เนื่องจากบริเวณที่เกิดหลุมสิวมีคอลลาเจนไม่เพียงพอที่จะสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่และเกิดการสร้างพังผืดที่มีลักษณะคล้ายหลุมสิวแทน ซึ่งหลุมสิวนี้จะยังคงอยู่ในร่างกายไปได้ตลอดชีวิต หากทำการตัดพังผืดออกแต่ไม่ได้มีปริมาณคอลลาเจนที่เพียงพอต่อการสร้างเนื่อเยื่อใหม่ขึ้นมาก็จะเกิดพังผืดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ดี ดังนั้นวิธีการรักษาหลุมสิวลึกที่ตรงจุดจะต้องเน้นไปที่การฟื้นฟูผิวหนังตัวเองเพื่อให้มีผิวหนังขึ้นมาเติมเต็มหลุมสิว
หลุมสิวลึกแก้ยังไง
1. สารเคมีลอกผิว (Chemical Peeling)
เป็นการใช้สารเคมีอย่างกรดผลไม้หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids/AHAs) หรือกรดไตรคลอโรอะเซติก (Trichloroacetic Acid/TCA) ทาบริเวณที่มีหลุมสิวเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก แม้จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ก็จริงแต่วิธีนี้อาจมีผลข้างเคียงต่อผิวหน้าหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคืองผิวหน้าง่ายจนไม่สามารถออกแดดได้ หน้าแห้ง เป็นฝ้าง่าย ผิวคล้ำจากการสะสมของยา กระดูกผุกร่อน มะเร็งผิวหนัง และอื่นๆ อีกมาก หากต้องการรักษาด้วยวิธีนี้จริงๆ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีที่สุดครับ
2. ฟิลเลอร์หลุมสิว
เป็นการเติมสารเติมเต็มอย่างสาร HA หรือไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ลงไปในหลุมสิวเพื่อให้สาร HA เติมเต็มผิวที่หายไปจากสิวอักเสบให้กลับมาเรียบเนียนเสมอกัน โดยเงื่อนไขในการฉีดฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับความลึกของหลุมสิว หากเป็นหลุมสิวที่ตื้นแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ได้ทันที แต่หากเป็นหลุมสิวลึกมากแพทย์จะเซาะพังผืดที่รั้งผิวหนังออกก่อนฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากสาร HA เป็นสารสกัดที่จะสลายไปเองภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี หากคนไข้ต้องการคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์เอาไว้ก็จะต้องกลับมาฉีดซ้ำๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ฉีดหลุมสิว ดีจริงไหม ทำไม JUVGEN ถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
3. การยิงเลเซอร์ (Laser Therapy)
เป็นการยิงคลื่นแสงเข้าไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออกและสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังขึ้นมาเติมหลุมสิว แม้จะเหมาะสำหรับปัญหาหลุมสิวทุกประเภทแต่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งผลข้างเคียงที่เกิดอาการแสบร้อน ระคายเคืองผิวหน้า เลเซอร์บางตัวอาจมีผลทำให้คนไข้ต้องนอนพักฟื้น ไม่สามารถกลับบ้านได้ทันที และที่สำคัญยังเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาที่ช้าถึงประมาณ 1-3 เดือนอีกด้วย
4. JuvGenesis
เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวจาก ดร.จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี ผู้คิดค้นวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคการฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง เทคนิคนี้แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวแบบอื่นที่เน้นการกรอผิว (Physical Stimulation) ซึ่งเป็นการรักษาหลุมสิวที่ไม่ตรงจุด ส่วน JuvGenesis จะเน้นไปที่การสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ใต้หลุมสิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูผิวหนังตัวเองและเติมเต็มริ้วรอยของแผลเป็นลึก ช่วยเติมผิวหนังที่หายไปบริเวณหลุมสิวให้กลับมาเต็มได้อย่างถาวร ด้วยการฉีดสาร CO2 Foam ที่ประกอบไปด้วย Chemical (CO2)/Biological (HA)/ Physical (Subcision) Stimulation ที่นอกจากจะกระตุ้นเซลล์ผิวแล้วยังปลอดภัยต่อร่างกายอีกด้วย ส่วนเครื่องมือที่ฉีดสารเข้าไปนั้นถูกออกแบบมาสำหรับรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงไม่ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการแม้แต่น้อย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่
บทความที่น่าสนใจ
- หน้ามันง่าย เป็นหลุมสิวง่าย ดูแลยังไงให้หน้าใสไกลสิว
- หลุมสิวเกิดจากอะไร รักษาหายเองได้ไหม ดูแลป้องกันได้ยังไงบ้าง
- ฉีดหลุมสิว ดีจริงไหม ทำไม JUVGEN ถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic
Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย JuvGenesis ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Rolling scar, Box scar, Ice-pick Scars, หลุมเล็ก, หลุมใหญ่ หรือหลุมลึกก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนและะรักษาถาวร นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand