เจ็บน้องชาย

เจ็บน้องชายบ่อย ภาวะอันตรายที่ใครหลายคนละเลย

Facebook
Twitter

หลายคนอาจมองว่าอาการเจ็บน้องชายเป็นเรื่องไกลตัว บางคนอาจเจ็บเพียงขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือบางอาจคนอาจเจ็บหรือรู้สึกแสบขัดขณะปัสสาวะบ้างเป็นบางครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วอาการเจ็บบ่อยถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย หากละเลยการดูแลน้องชาย ปล่อยทิ้งไว้นานเพราะคิดว่าอาการปวดคงจะหายไปเองในไม่กี่วัน อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพน้องได้ในอนาคต วันนี้เราจะพูดถึงสาเหตุ ผลข้างเคียง และวิธีรักษาภาวะดังกล่าวกันครับ

เจ็บน้องชายบ่อย เกิดจากอะไร

เจ็บน้องชาย

โดยทั่วไปภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อน้องชายได้รับการกระทบกระแทกอย่างรุนแรงจนเกิดอาการเจ็บ แต่หากไม่ได้อุบัติเหตุใด ๆ แต่มีอาการเจ็บขึ้นมา อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการละเลยการดูแลทำความสะอาดน้องชายหรืออาจทำความสะอาดแบบผิด ๆ เช่น ใช้น้ำจากฝักบัวฉีดใส่น้องชายอย่างเต็มแรง, ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะต่อผิวของน้องชาย, การไม่ได้รูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาด, การล้างน้องชายแรงเกินไป ฯลฯ จนทำให้เชื้อยีสต์แคนดิดาที่อยู่ตามหนังหุ้มปลายสะสมในปริมาณมากเกินไปและก่อให้เกิดการอักเสบตามมา นอกจากนี้ยังเกิดจากการป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้, การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยจนเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, การแพ้สารในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชายหรือผลิตภัณฑ์ซักเสื้อผ้า รวมถึงเกิดจากโรคผิวหนังบางชนิดที่ทำให้หนังหุ้มปลายอักเสบ เช่น โรคสะเก็ดเงิน, โรคมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

เจ็บน้องชายบ่อยบริเวณไหนบ้าง

1. ปวดบริเวณหัวน้องชาย

หากคนไข้รู้สึกปวดน้องชายไม่มากอาจมีเพียงอาการคันและผิวน้องชายแดงเล็กน้อย อาจเกิดจากน้องชายถูกดเสียดสีเป็นประจำ, ใส่กางเกงในหรือกางเกงรัดรูป, อับชื้นจากเหงื่อ จนทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือเกิดการการอักเสบแบบทั่วไป แต่หากมีแผลหรือหนองไหล บางรายอาจมีอาการปวดร้าวจากนิ่วที่ไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจเกิดจากน้องชายอักเสบจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน (ไม่สวมถุงยางอนามัย) เช่น โรคหนองในแท้ โรคเริม โรคซิฟิลิส ฯลฯ

2. ปวดอัณฑะไปถึงขาหนีบ

เกิดจากลูกอัณฑะอักเสบอันเนื่องมาจากเส้นเลือดขอดบริเวณอัณฑะ หรือเส้นเลือดขอด บางรายอาจมีอาเจียน, ไส้เลื่อน, ไส้บิด, อัณฑะบิดร่วมด้วย ซึ่งต้องรักษาด้วยการทานยาแก้ปวดหรือการผ่าตัดเพื่อยับยั้งเลือดที่จะไหลเวียนไปยังหลอดเลือดขอด แต่บางรายอาจเกิดอาการปวดรุนแรงบริเวณผิวหนังระหว่างอัณฑะกับร่องก้น อาจเกิดจากภาวะต่อมลูกหมากอักเสบซึ่งต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะและยารักษาตามอาการ

3. ปวดน้องชายทั้งแท่ง

หากคนไข้รู้สึกปวด แสบขัดขณะปัสสาวะ บางรายอาจมีปัสสาวะปนเลือดร่วมด้วย เกิดจากโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะหรือน้องชายเกิดการอักเสบ หรือบางรายอาจมีเลือดออกแต่ไม่มีอาการปวดจะเกิดจากโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

4. ปวดเมื่อน้องชายแข็งตัว

หากคนไข้รู้สึกปวดขณะที่น้องชายแข็งตัวหรือขณะมีเพศสัมพันธ์ ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเร็วที่สุด แม้จะเป็นภาวะอันตรายแต่ก็สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยา ทั้งนี้คนไข้บางรายอาจมีเลือดค้างมาก ต่อให้ฉีดยาคลายกล้ามเนื้อแล้วยังไม่หายดี อาจต้องรักษาด้วยการใช้เข็มสะกิดระบายเลือดออก ทั้งนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะปลายประสาทอักเสบหรือภาวะทางจิต

อาการที่เกิดขึ้นจากการเจ็บน้องชายบ่อย

  • คันน้องชายบ่อย ๆ
  • ปัสสาวะแสบขัด
  • ปัสสาวะเป็นเลือดร่วม
  • ปวดน้องชายเมื่อแข็งตัว หรือขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ปวดบริเวณหัวน้องชายและอัณฑะ
  • ปวดร้าวบริเวณน้องชายและขาหนีบ บางรายอาจปวดจนถึงขั้นขยับตัวไม่ได้
  • มีแผล หรือหนองไหลออกจากน้องชาย
  • ท้องเสีย ท้องผูก บางรายอาจมีอาเจียนร่วมด้วย

ผลข้างเคียงจากการเจ็บน้องชายบ่อย

  • ไส้เลื่อน
  • อัณฑะอักเสบ
  • เส้นเลือดอัณฑะขอด
  • ต่อมลูกหมากอักเสบ
  • ปลายประสาทอักเสบ
  • อวัยวะเพศอักเสบ
  • โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

เจ็บน้องชาย รักษาอย่างไร

1. ทำความสะอาดน้องชายให้ถูกวิธี

ด้วยการตีสบู่หรือผลิตภัณฑ์สำหรับล้างน้องชายลงบนมือแล้วตีให้เป็นฟอง จากนั้นถูให้ทั่วน้องชายโดยเริ่มตั้งแต่ส่วนโคนก่อนแล้วค่อยไล่ลงไปรูดหนังหุ้มปลายเข้าหาตัวเพื่อเปิดหัวองคชาตออกมาทำความสะอาด จากนั้นค่อยถูหัวองคชาตและหนังหุ้มปลายด้านนอกและด้านในอย่างเบามือ เพื่อกำจัดขี้เปียกตามหนังหุ้มปลายออก ที่สำคัญไม่ควรใช้ฝักบัวฉีดแรง ๆ ไปยังน้องชายโดยตรง เพราะอาจเกิดบาดแผลหรือเกิดการระคายเคือง ทั้งนี้แนะนำให้ราดน้ำเบา ๆ จากลำตัวไหลลงไปหาน้องชายแทน เมื่อล้างเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูซับน้องชายให้แห้งเพื่อป้องกันการอับชื้นจนเกิดปัญหาน้องชายได้ครับ

นอกจากนี้อย่าลืมเล็มขนน้องชายให้สั้นนะคะ เพราะหากมีขนน้องชายมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการอับชื้นง่ายขึ้น เพราะไม่มีพื้นที่ให้ระบายอากาศเลย ไหนจะสารคัดหลั่งอย่างน้ำปัสสาวะหรือเหงื่อไคลอีกด้วยครับ และขนที่ขึ้นมาจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและนำมาสู่ปัญหาสุขภาพน้องชายในเวลาต่อมา ทางเราแนะนำให้ตัดสั้นพอประมาณและใช้กรรไกรเล่มนั้นเล่มเดียวในการตัดขนน้องชายโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้กรรไกรเล่มนั้นไปตัดสิ่งของอื่นร่วมด้วยเพราะอาจเสี่ยงต่อการสัมผัสสิ่งสกปรกมาปนเปื้อนมากับกรรไกรจนก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทั้งนี้ขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่น้องชายที่ปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการระคายเคืองหลังการโกนจะดีต่อน้องชายมากเลยครับ

2. มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

เริ่มต้นจากการทำความสะอาดน้องชายทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์, สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์, ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยหรือมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในหนังหุ้มปลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดน้องชายจากการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

3. เลือกใส่กางเกงในที่ดีต่อสุขภาพน้องชาย

ใส่กางเกงที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่คับแน่นจนเกินไปจนเหงื่อไหลลงไปหาน้องชายเยอะเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้น้องชายเกิดการระคายเคืองและอักเสบตามมา

4. ขลิบรักษาความสะอาด

หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อนว่าหนังหุ้มปลายจะต้องเปิดออกเองโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดน้องชายแต่อย่างใด และคิดว่าหนังหุ้มปลายไม่เปิดนั้นเป็นเรื่องปกติ จนละเลยการทำความสะอาดหัวองคชาตที่อยู่ภายในหนังหุ้มปลายเลยสักครั้ง หรืออย่างบางคนอาจกำลังประสบปัญหารูดหนังหุ้มปลายออกมาไม่ได้ พยายามรูดเท่าไหร่ก็รู้สึกเจ็บทุกครั้ง ก็จะต้องรีบรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายตีบโดยด่วน สำหรับใครที่ทายารักษาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็จะต้องรักษาด้วยการขลิบไร้เลือด เป็นวิธีการผ่าตัดเอาหนังหุ้มปลายออกด้วยเครื่องขลิบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Staple Circumcision) ที่มีความแม่นยำสูง สามารถตัดหนังหุ้มปลายออกและเย็บแผลด้วยกลัดอลูมิเนียมภายใน 10 – 15 นาที เพียงแค่คลิกเดียว ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ แผลจึงแห้งไว หายเร็วภายใน 1 – 2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลแผลของคนไข้)

บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด

บทความที่น่าสนใจ

ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี

และเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90%  จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน

โปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ