คันน้องชาย

คันน้องชายบ่อย ๆ อันตรายมั้ย ดูแลอย่างไรให้ถูกวิธี

Facebook
Twitter

แม้ว่าอาการคันน้องชายจะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่หากคันบ่อยเกินไปจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่ผู้ชายหลายคนละเลย วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุ อาการ ผลข้างเคียง รวมถึงวิธีดูแลความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูกวิธีกัน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวครับ

คันน้องชาย

คันน้องชายบ่อย ๆ เกิดจากอะไร

อาการดังกล่าวเป็นอาการคันบริเวณทั่วอวัยวะเพศเพียงเล็กน้อย หรืออาจคันอยู่บ่อยครั้ง โดยทั่วไปอาจเกิดจากการดูแลทำความสะอาดไม่ดีหรือเกิดจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกางเกง/กางเกงชั้นในที่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุที่สามารถแก้ไขได้ แต่หากอาการคันยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • โรคสังคัง (Tinea Cruris) เกิดจากเชื้อราในกลุ่มเดอมาโทไฟต์ (Dermatophyte) ส่งผลให้เกิดผื่นแดงบริเวณอวัยวะเพศโดยเฉพาะบริเวณขาหนีบและรอบทวารหนัก คันในร่มผ้า มีหนองและเกิดการอักเสบ
  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) แม้จะไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดแต่แพทย์สันนิษฐานว่ามาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในส่วนเม็ดเลือดขาวบกพร่อง ส่งผลให้ปวดแสบปวดร้อนบริเวณน้องชาย น้องชายมีสีแดงเป็นรอยขุยสีขาวและผิวแห้งจนแตกเป็นเลือด
  • โรคปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ (Balanitis) เกิดจากการอักเสบของผิวหนังหุ้มปลาย (prepuce) และอวัยวะเพศส่วนปลาย (glands) ที่มาจากการติดเชื้อจากการหมักหมมสิ่งตกค้างที่ปลายอวัยวะเพศ มักพบในเด็กผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ส่วนใหญ่เกิดในเด็กที่ผิวหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศยังไม่เปิด
  • โรคไลเคนสเกลโรซัส (Lichen Sclerosus) เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดตุ่มนูนแบนสีม่วงคล้ำบริเวณอวัยวะเพศและคันบริเวณที่มีผื่นขึ้น

นอกจากนี้ยังเกิดจากพฤติกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การโกนขนบริเวณอวัยวะเพศ, การสวมใส่กางเกงชั้นในที่รัดเกินไปจนไม่มีช่องระบายอากาศ, สวมเสื้อผ้าเปียกชื้น, แพ้สารส่วนผสมในถุงยางอนามัย, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ภาวะความเครียดสะสม, ปัสสาวะตกค้างบริเวณหนังหุ้มปลาย เป็นต้น

อาการคันน้องชาย มาพร้อมอะไรบ้าง

  • อาการระคายเคือง หรือแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ
  • แสบขัดขณะปัสสาวะหรือขณะหลั่งน้ำอสุจิ
  • เป็นผื่นหรือมีก้อนบริเวณอวัยวะเพศ
  • มีเลือดหรือหนองไหลบริเวณอวัยวะเพศ
  • อวัยวะเพศเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดง
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • ป่วยง่าย มีไข้

คันน้องชาย ทำอย่างไร

1. ทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธี

สำหรับการทำความสะอาดน้องชายที่ถูกต้อง เริ่มจากการตีสบู่หรือผลิตภัณฑ์ล้างจุดซ่อนเร้นใส่มือแล้วตีเป็นฟอง จากนั้นถูเบา ๆ ให้ทั่วอวัยวะเพศแล้วค่อยรูดหนังหุ้มปลายออกเพื่อล้างหัวองคชาต แล้วล้างออกด้วยการราดน้ำสะอาดไหลผ่านหน้าท้อง ค่อย ๆ ให้น้ำไหลลงไปยังน้องชาย ทั้งนี้ไม่ควรฉีดน้ำแรง ๆ ไปยังน้องชายโดยตรง เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ เมื่อล้างสะอาดเรียบร้อยแล้ว ใช้ผ้าขนหนูซับน้องชายให้แห้ง ที่สำคัญไม่ควรล้างทำความสะอาดน้องชายบ่อยเกิน 2 ครั้งต่อวัน เพราะอาจระคายเคืองได้ง่าย

ส่วนในกรณีที่ปัสสาวะเสร็จแล้ว ควรล้างน้องชายให้ทั่วด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะหนังหุ้มปลายที่อาจมีน้ำปัสสาวะตกค้าง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและก่อให้เกิดภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบจนไม่สามารถเปิดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดได้อีกต่อไป

2. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชาย

รู้หรือไม่ว่าสบู่สำหรับทำความสะอาดร่างกายโดยทั่วไปมักมีค่า pH ที่เป็นด่างและมีส่วนผสมของน้ำหอมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อน้องชายง่าย ดังนั้นควรเลือกสบู่สูตรอ่อนหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชายโดยเฉพาะจะปลอดภัยต่อน้องชายมากกว่าสบู่ทั่วไปครับ

3. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าทั่วไปจะมีส่วนผสมของสารฟอกขาว, สารขจัดคราบสกปรก, สารปรับผ้านุ่ม, น้ำหอม และอื่น ๆ อีกมากที่อาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองง่าย หากพบอาการคันร่วมกับผื่น แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้น้ำยาซักผ้าธรรมชาติแทนจะดีกว่าครับ หรือแม้ว่าคุณจะไม่ได้แพ้สารใด ๆ ในน้ำยาซักผ้า แต่หากคุณทำความสะอาดเสื้อผ้าไม่สะอาดพอหรือปล่อยให้ผ้าอับชื้น นอกจากจะส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้เสื้อผ้าของคุณแล้ว ยังเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังของคุณได้ด้วย โดยเฉพาะบริเวณน้องชายซึ่งเป็นจุดที่มีผิวหนังบอบบางเป็นพิเศษ

4. มีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธี

ในกรณีที่คุณไม่ได้วางแผนที่จะมีลูก แนะนำให้สวมถุงยางอนามัยจะดีที่สุดครับ นอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากถึง 98% แล้ว ยังช่วยป้องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการคันได้อีกด้วยครับ

5. ปรึกษาแพทย์

กรณีที่คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตตาม 4 วิธีแรกไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาคันน้องชายอยู่ แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดครับ เพราะอาการคันอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือมาจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ

6. ขลิบหนังหุ้มปลายออก

การขลิบหนังหุ้มปลายเป็นการผ่าตัดรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายตีบที่อาจมีมาตั้งแต่เกิดหรือหนังหุ้มปลายตีบที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ สำหรับการขลิบในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ การขลิบด้วยมีด, เลเซอร์ และการขลิบไร้เลือด แต่การขลิบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การขลิบไร้เลือด เนื่องจากวิธีนี้จะใช้เครื่องมือขลิบไร้เลือดอัตโนมัติแบบสวมครอบ (round stapler) โดยตัวเครื่องจะมีความแม่นยำสูง สามารถผ่าตัดให้แผลสวย เรียบเนียน และเย็บแผลด้วยกลัดอลูมิเนียมได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อย จึงช่วยลดปริมาณการสูญเสียเลือดได้ดีกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม ส่งผลให้แผลแห้งไว หายเร็วภายใน 1 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลแผล) ส่วนกลัดอลูมิเนียมที่ใช้เย็บแผลจะหลุดไปเองภายใน 1 สัปดาห์ คนไข้จึงไม่ต้องเสียเวลามาตัดไหมด้วยครับ และที่สำคัญตัวเครื่องชนิดนี้จัดเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ระดับสองที่ใช้เสร็จแล้วต้องทิ้งทันที ไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำ จึงต้องผ่านการควบคุมคุณภาพอย่างสูงเพื่อให้ใช้ผลลัพธ์การรักษาเป็นไปแผนการรักษา เนื่องจากการขลิบควรจะต้องทำเพียงครั้งเดียวในชีวิต

อ่านเพิ่มเติม: การขลิบคืออะไร ทำไมต้องขลิบ การขลิบไร้เลือด ขลิบในคลิกเดียว Round Stapler Circumcision

ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี

และเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90%  จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน

โปรแกรม OXYLAB  (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบไร้เลือดผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก  Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

  • เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
  • Line: https://bit.ly/Gentle4Men
  • Facebook: Gentle Clinic
  • Instagram: gentleclinic_thailand

บทความที่น่าสนใจ

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ