กินอะไรหน้าใส ไม่โทรม ห่างไกลสิว ด้วยอาหารบำรุงผิวเหล่านี้

Facebook
Twitter

ไม่ว่าใครก็อยากกินของอร่อยกันทั้งนั้น แต่หากกินแล้วหน้าโทรม เป็นสิวง่าย คุณก็คงรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เพราะสิวที่โผล่ขึ้นมาอาจกลายเป็นจุดเด่นที่อาจทำให้คนอื่นหันสนใจและอาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่นักเวลาพบปะผู้คน นอกจากนี้อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย ว่าแต่กินอะไรหน้าใส ไม่โทรม และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลมาฝากครับ

เลือกทานอาหารไม่ดี ทำให้เป็นสิวได้ จริงไหม

ในส่วนนี้ก็ต้องบอกตามตรงเลยว่า จริงครับ เพราะอาหารบางประเภทโดยเฉพาะขนมและของหวานที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงและกระตุ้นให้เกิดสิวเห่อขึ้นตามมาได้ เนื่องจากค่าอินซูลินในเลือดที่สูงจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมันบนใบหน้าของเรามากยิ่งขึ้น เมื่อมีปริมาณไขมันบนใบหน้ามากเกินไปก็จะเข้าไปอุดตันรูขุมขนและกลายเป็นสิวอักเสบตามมา

ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะไปกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวแห้ง และเมื่อผิวแห้งแล้วร่างกายจะกระตุ้นการผลิตไขมันเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้ามากยิ่งขึ้น ส่วนยีสต์ที่ใช้ในการหมักเบียร์ก็กระตุ้นให้เกิดสิวเชื้อราบริเวณตามรูขุมขนบนใบหน้าได้เช่นกัน และแอลกอฮอล์ในเบียร์นั้นหากก่อให้เกิดการเสียสมดุลในลำไส้จนกลายเป็นภาวะผนังลำไส้อักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เชื้อโรคจากลำไส้เข้าไปยังกระแสเลือดและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดภูมิแพ้ผิวหนังที่เป็นสาเหตุของสิวได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากงดอาหารทั้ง 2 ประเภทนี้ได้ก็จะลดโอกาสเกิดสิวให้น้อยลงได้ด้วยครับ

5 อาหารบำรุงผิวหน้ าที่ควรทาน เพื่อใบหน้าที่สดใส ไกลสิว

1. น้ำเปล่า

แม้ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกๆ คนทำกันอยู่แล้ว แต่อาจหลายคนอาจดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยหรือมากเกินไป ไม่ตรงตามความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำบ่อยแล้วยังมีผลทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมาบนใบหน้ามากยิ่งขึ้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว และปริมาณน้ำมันที่มากเกินไปนี้เองจะเข้าไปอุดตันรูขุมขนและกลายเป็นสิวอักเสบตามมา ทางที่ดีควรดื่มน้ำวันละประมาณ 2-3 ลิตร เพื่อเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายเรื่อยๆ ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำเป็นเวลานาน นอกจากนี้หากคุณดื่มน้ำทุกเวลาตามตารางการดื่มน้ำ ก็จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรียออกจากผิวไปพร้อมกับการขับปัสสาวะ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

2. ไขมันดีจากปลา

สำหรับปลาที่มีไขมันดีที่วางขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นปลาแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า และปลาช่อน ที่นอกจากจะมีดัชนีน้ำตาลที่ต่ำแล้ว ยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่นอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแล้ว ยังลดการอักเสบจากสิวได้อีกด้วย และไขมันโอเมก้า 3 นี้ก็จัดเป็นไขมันดีที่มีคุณสมบัติลดไขมันเลวหรือคอเลสเตอรอลในร่างกายให้ลดลง จึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโรคอ้วนที่จะกระตุ้นให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนและฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติและทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ที่สำคัญกรดไขมัน EPA และ DHA ที่พบในปลาจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารพรอสตาแกลดิน (Prostaglandins) เพื่อรักษาสมดุลของฮอร์โมนแอนโดรเจนได้อีกด้วย จึงช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้มากขึ้น

3. ผักใบเขียว

เส้นใยอาหารในผักใบเขียวมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับอินซูลินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงช่วยลดโอกาสเกิดสิวจากฮอร์โมนไฮโดรเจนได้เป็นอย่างดี ส่วนคลอโรฟิลล์ในผักอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของผิวที่อาจก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร อีกทั้งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้แก่ผิว และลดความเสียหายจากรังสี UV ที่อาจทำให้ผิวแห้งกร้าน

นอกจากจะช่วยในเรื่องของผิวแล้ว เส้นใยอาหารในผักใบเขียวยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเลสเตอรอล เร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ เมื่อร่างกายเผาผลาญมากขึ้นจะทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ในร่างกายถูกนำมาใช้ นั่นหมายความว่าการรับประทานผักใบเขียวเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะอ้วนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้ามันและเกิดสิวง่ายขึ้นนั่นเองครับ

4. โยเกิร์ต

หลายคนอาจจะรู้จักโยเกิร์ตในฐานะของที่มาร์คหน้า ไม่ว่าจะเป็นสูตรโยเกิร์ต + น้ำผึ้งมะนาว, โยเกิร์ต + ขมิ้น หรือโยเกิร์ต + อะโวคาโดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถทานโยเกิร์ตเพื่อลดสิวได้ด้วยนะครับ เนื่องจากโยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่ช่วยลดการอักเสบของสิว และที่สำคัญภายในลำไส้ของเรามีทั้งแบคทีเรียชนิดดีและไม่ดี การรับประทานโยเกิร์ตเข้าไปจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยให้ลำไส้ขับแบคทีเรียไม่ดีออกมา ซึ่งแบคทีเรียชนิดไม่ดีนี้เองจะปล่อยของเสียออกมาและมีผลทำให้ผิวพรรณของเรามีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงพอ นอกจากจะเป็นสิวง่ายแล้ว ยังก่อให้เกิดอาการแพ้หรือเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายกว่าผู้ที่ขับถ่ายเป็นประจำอีกด้วย ดังนั้นหากคุณอยากมีสุขภาพดีก็ควรรับประทานโยเกิร์ตเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายด้วยนะครับ

5. ชาเขียวร้อน

ชาเขียวร้อนอุดมไปด้วยสารโพลิฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งและลดโอกาสเกิดสิว อีกทั้งมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของผิว เมื่อผิวแข็งแรงแล้วก็มีโอกาสเกิดสิวได้น้อยลงอีกด้วย เพียงแต่การดื่มชาเขียวร้อนนั้นจะต้องดื่มจากใบชาแท้ๆ ไม่ใช่ชาเขียวแบบขวดที่เติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสหวาน เพราะถ้าดื่มชาเขียวหวานๆ เข้าไปก็ยิ่งทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากขึ้น แทนที่จะลดสิวกลับกลายเป็นเพิ่มสิวเห่อขึ้นมาบนใบหน้าได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นก่อนรับประทานชาเขียวร้อนก็ควรดูปริมาณน้ำตาลของชาเขียวให้ดีก่อนนะครับ

สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่าคุณจะรับประทานอาหารทั้ง 5 ประเภทที่เราได้นำเสนอไปข้างต้นแล้ว แต่อย่างไรก็ดีสิวก็อาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจนทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น, มลภาวะจากนอกบ้านที่ทำให้ผิวหน้าสกปรกและเกิดสิวง่ายขึ้น หรือแม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ก็อาจกระตุ้นให้เกิดสิวเห่อขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ได้ไม่นาน นั่นหมายความว่าคุณจะต้องศึกษาและดูแลผิวหน้าให้ถูกวิธี ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมีปัญหาสิวอักเสบที่พัฒนากลายมาเป็นหลุมสิวลึกที่ยากต่อการรักษาในระยะยาวอีกด้วยครับ

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาหลุมสิวลึก รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีธรรมชาติหรือรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ก็ตาม นั่นหมายความว่าการรักษาของคุณอาจไม่ตอบโจทย์ จะดีกว่าไหมหากคุณได้รับการรักษาที่ตรงจุดด้วยเทคนิคฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเองอย่าง JUVGEN โดย ดร.จิน (Dr. Jin Se-hun) ผ่านการฉีด Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิวเพื่อฉีกเซลล์เก่าทิ้งแล้วกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยเติมหลุมสิวให้กลับมาเติมทันทีหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว นอกจากจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวรแล้ว ยังสามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวตื้นหรือลึกแค่ไหนก็ตาม ช่วยให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเรียบเนียนอีกครั้งตามที่ต้องการ 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าของคนยุคใหม่

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิว JuvGenesis จาก Dr.จิน (Jin Se-hun) ที่กล้าการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาทำซ้ำ และที่สำคัญตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาสำหรับรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ จึงรักษาปัญหาได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ปลอดภัยต่อทุกสีผิว (ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงเหมือนเลเซอร์) ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องแปะยาชาเพราะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนวิธีอื่นๆ อีกด้วย

JuvGenesis ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้นอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Rolling scar, Box scar, Ice-pick Scars, หลุมเล็ก, หลุมใหญ่ หรือหลุมลึกก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนและะรักษาถาวร นอกจากเทคนิคการรักษาและเครื่องมือคุณภาพสูงแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ของมากประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง  เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGenesis

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ