แม้ว่าปัญหาหัวเถิกจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพร่างกาย แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียเส้นผมไปอย่างถาวร อีกทั้งลดความมั่นใจในตัวเองให้แก่คนไข้ด้วยครับ ว่าแต่ภาวะดังกล่าวเกิดจากอะไร มีวิธีสังเกต ยับยั้งอาการ วิธีรักษา รวมถึงวิธีดูแลอย่างไรให้เส้นผมแข็งแรง วันนี้ Gentle Clinic จะมาตอบทุกข้อสงสัยในส่วนนี้กันครับ
หัวเถิกคืออะไร
เป็นลักษณะแนวไรผมที่ขึ้นไปข้างบนมากกว่าเกิน 11 เซนติเมตร (1 ผ่ามือ) หรืออาจมากกว่าช่วงวัยที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วจะมีผมบางบริเวณด้านหน้าของศีรษะและเว้าเข้าไป แต่บางคนอาจบางเป็นรูปตัวเอ็ม (M) บางคนอาจล้านทั่วทั้งบริเวณด้านหน้าก็ได้เช่นกัน ส่งผลให้บริเวณหน้าผากดูกว้าง แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจลดความมั่นใจให้ใครหลายคนได้ไม่น้อยเลยครับ โดยภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม, ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การมัดผมตึงตลอดเวลา ระคายเคืองสารที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าอาการหัวเถิกจะสามารถชะลออาการและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่หากปล่อยให้ผมร่วงเป็นเวลานานจนกินวงกว้างและหัวล้านเกือบทั้งศีรษะแล้ว อาจทำให้รากผมฝ่อและไม่สามารถฟื้นฟูผมได้อีก ทำได้เพียงชะลอไม่ให้หัวล้านทั้งศีรษะเพียงเท่านั้น
ลักษณะของหัวเถิก
1. หัวเถิกรูปตัว M (Widow’s Peak)
เป็นภาวะที่มีเส้นผมบริเวณด้านข้างของหน้าผากร่นขึ้นไปมากกว่าปกติ แต่ผมด้านหน้ากลับไม่ได้ร่นขึ้นตามไปด้วย ภาวะดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญ 2 อย่าง ได้แก่ ลักษณะทางพันธุกรรมและโรคหัวล้านทางพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ซึ่งมีความแตกต่างกันตรงที่หัวเถิกรูปตัว M จากโรคหัวล้านพันธุกรรมในเพศชาย ผู้ป่วยจะมีผมร่วง ผมบางร่วมด้วย ส่วนหัวเถิกรูปตัว M จากลักษณะทางพันธุกรรมจะมีไม่ผมร่วงตามมา
2. แนวไรผมร่น (Receding hairline)
เป็นภาวะที่แนวไรผมเถิกขึ้นไปยังทุกส่วนของศีรษะ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านข้างของ มีความรุนแรงมากกว่าหัวเถิกรูปตัว M หากไม่รีบรักษาอาจพัฒนาเป็นหัวล้านกลางศีรษะได้ในระยะยาว
สาเหตุที่ทำให้หัวเถิก
- พันธุกรรมจากคนในครอบครัว
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เพิ่มมากขึ้น หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงหลังการคลอดบุตร ทำให้รากผมอ่อนแอลง
- ละเลยการทำความสะอาดเส้นผมเป็นเวลานาน หรือทำความสะอาดเส้นผมผิดวิธี
- ใช้สารเคมีหรือความร้อนกับเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น ใช้ยาย้อมผมบ่อย
- รวบผม มัดผม หรือถักเปียตึงเกินไป
- มีเชื้อราบนหนังศีรษะมากเกินไป
- ผลข้างเคียงจากรับประทานยาคุมกำเนิด
- การสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอลฮอล์เป็นประจำ
- ภาวะความเครียดสะสมจนคนไข้ไม่สามารถจัดการความเครียดได้
- นอนหลับพักผ่อนน้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมงเป็นเวลานาน
- ป่วยเป็นโรคที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคตับ/ไตเรื้อรัง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ
ใครบ้างที่เสี่ยงหัวเถิก
- ผู้ที่มีผมบางและมีผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน
- ผู้ที่มีผมหนาและมีผมร่วงมากกว่า 150 เส้นต่อวัน
- ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีภาวะหัวเถิก
จะรู้ได้ไงว่าหัวเถิก
- วัดจากความกว้าง หากคุณจากระหว่างคิ้วไปจนถึงแนวไรผมแล้วเกิน 11 เซนติเมตร แสดงว่าคุณมีภาวะหัวเถิก
- วัดจากฝ่ามือ หากวางมือลงบนหน้าผากในแนวนอนโดยที่นิ้วก้อยอยู่ตรงคิ้ว หากพบว่านิ้งโป้งเลยไรผมขึ้นไป แสดงว่าคุณมีภาวะหัวเถิก
ผลข้างเคียงจากหัวเถิก
- โรคดึงผม (Trichotillomania)
- โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
- โรคผมร่วงทั้งศีรษะ (Telogen Effluvium)
- โรคกลากเชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis)
- หัวล้านจากหัวล้านพันธุกรรมในเพศชาย (Male Pattern Baldness)
หัวเถิกรักษายังไง
1. ยารักษาผมร่วง
สำหรับยารักษาผมร่วงที่วางจำหน่ายในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่ ยาไฟแนสเตอรายด์ (Finasteride) จะออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมน DHT จึงเหมาะสำหรับผู้ชายที่ผมร่วงเพราะฮอร์โมนเพศ ส่วนยาไมนอกซิดิวล์ (Minoxidil) จะออกฤทธิ์ขยายเส้นเลือดเพื่อกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม มีทั้งชนิดเม็ดทาและชนิดทา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมเถิกจากหลายสาเหตุ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ผลข้างเคียงรุนแรงกว่ายาไฟแนสเตอรายด์ จึงต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา
2. FUE Follicular Hair Extraction
เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไร้รอยแผล โดยคุณหมอจะเจาะเอาเซลล์รากผมออกมาปลูก โดยรูที่เจาะจะมีขนาดเล็กเท่ากอผม (น้อยกว่า 1.0 mm) โดยใช้ด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง ซึ่งจะช่วยล้อมกอผมออกจากหนังศีรษะทีละเส้นโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ข้อดีของวิธีนี้คือคนไข้จะไม่มีแผลเป็นหลังการผ่าตัดอย่างแน่นอน มีเพียงรอยเจาะขนาดเท่ารูขุมขนเท่านั้น, ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านได้ทันที, แผลหายเร็ว, ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษา อีกทั้งลดโอกาสเกิดการอักเสบติดเชื้อบริเวณที่ทำการปลูกผมได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียคือกอผมบริเวณนั้นจะบางลงตามปริมาณที่เจาะออกมา จึงจำกัดจำนวนกอกราฟต่อพื้นที่และได้กอกราฟน้อยกว่า 30% (จำนวนกอกราฟสูงสุดไม่เกิน 2,500 – 3,000)
อ่านเพิ่มเติม: ปลูกผมถาวร ด้วยเทคนิคเฉพาะทาง
3. Growth Factor Cell Therapy
เป็นเทคโนโลยี Hemoderivertive โดยอาศัยการสกัด Mesenchymal stem cells จากเลือดของตัวเอง เป็นเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับทดแทนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายที่เสื่อมสภาพและช่วยในการซ่อมแซมความเสื่อมระดับเซลล์ ( Regenerative Medicine ) โดยมีกลไกทางชีวภาพร่วมกันระหว่างเกล็ดเลือด, เม็ดเลือดขาว, สารที่สร้างและหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน และสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดที่ยังไม่มีหน้าที่ของเซลล์ที่สามารถแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงได้ ข้อดีของวิธีนี้จะช่วยให้เกิดการหลั่ง Growth Factor ได้มากกว่าและยาวนานกว่า PRP นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการรักษา เพราะไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีที่รักษาเสร็จ อีกทั้งปลอดภัยต่อตัวคนไข้เองเพราะการปลูกผมด้วยสเต็มเซลล์นั้น จะใช้เซลล์รากผมของตัวเอง อีกทั้งยังรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ ส่วนผลลัพธจะเริ่มเห็นในช่วง 2 – 3 เดือนหลังการรักษา และเห็นผลชัดในช่วง 12 – 18 เดือนครับ
อ่านเพิ่มเติม: ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านยิ่งเครียดก็ยิ่งร่วง ยิ่งร่วงก็ยิ่งเครียด
ป้องกันหัวเถิกได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ทำความสะอาดเส้นผมเป็นประจำอย่างน้อย 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเน้นไปที่การนวดศีรษะเพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยบนหนังศีรษะ
- ทานอาหารบำรุงรากผมให้แข็งแรง เช่น ไข่ ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มันหวาน ถั่ว รวมถึงผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ
- ปรับเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยด่วน เพราะสิ่งเหล่านี้มีฤทธิ์ทำลายความแข็งแรงของรากผมและทำให้หัวเถิกง่ายขึ้น
- หมั่นสังเกตเส้นผมของตัวเองบ่อย ๆ หากผมร่วงเกิน 100 – 150 เส้นต่อวัน ให้รีบพบแพทย์เฉพาะทางโดยเร็วที่สุดเพื่อหาทางรักษาตั้งแต่เนิน ๆ
บทความที่น่าสนใจ
- รวมปัญหาศีรษะที่คุณควรรู้ ก่อนที่หัวล้านจะถามหา
- ผมร่วงผิดปกติ สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่คุณไม่ควรละเลย
- แนะนำวิธีดูแลเส้นผมอย่างไรให้กลับมาผมสวย ดูเป็นธรรมชาติ
รักษาผมร่วงที่ไหนดี
สำหรับใครที่มีปัญหาศีรษะ ผมร่วง ศีรษะล้าน ที่ Gentle Clinic เรามีนวัตกรรม VEGF Stemcell ที่นำเลือดของคนไข้ในแต่ละคนมาสกัด Platelet หรือ PRP (Platlet-rich plasma) และนำมาผ่านกระบวนการ Cellysis อีกทีเพื่อให้ปลดปล่อย VEGF และ Stemcell ปริมาณสูงแล้วไปฉีดกลับให้คนไข้ ข้อดีของ VEGF Stemcell จะช่วยซ่อมแซมรากผม ช่วยกระตุ้นการสร้างระบบหลอดเลือดฝอยขึ้นใหม่ในรากผม หลังการรักษาแล้วคนไข้จะรู้สึกได้เลยว่าผมร่วงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมสำหรับรักษา ด้วยเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไร้แผลโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลเป็นและไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งระยะเวลาการหายของแผลเร็ว ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ
นอกจากนี้เรายังมีมีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ด้วยออกซิเจนเข้มข้น 100% ใต้บรรยากาศแรงดันสูงเสมือนอยู่ใต้น้ำลึก ควบคู่กับการเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน จาก 20 เป็น 100% ทำให้ออกซิเจนละลายในพลาสม่าได้มากขึ้นเป็น 10 เท่า ร่างกายจึงส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้เซลล์ทุกเซลล์ตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปฏิกิริยาการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของอวัยวะในร่างกาย, ลดการอักเสบของข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ จากการเล่นกีฬาและออฟฟิศซินโดรม, กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคจาก ROS (reactive oxygen spicies) ที่มากขึ้น, กระตุ้นสมองและระบบประสาท เพิ่มหน่วยความจำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย คลายเครียด, ลดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand