เจาะลึกสาเหตุและวิธีรับมือกับ “สิวเครียด” อย่างถูกวิธี

Facebook
Twitter

คุณเคยสังเกตไหมว่า เวลาที่คุณตกอยู่ในสภาวะที่เครียดจัด มักมีสิวเห่อขึ้นมามากกว่าปกติ แม้จะเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดสิว แต่กลับมีผลเสียต่อสุขภาพผิวมากมาย หากคุณประสบภาวะความเครียดสะสมแต่ก็ไม่อยากมีสิวเห่อขึ้นมา หรือมีสิวขึ้นมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุและวิธีรับมือที่ถูกต้องกันครับ

ความเครียด ทำให้เกิดสิวเครียดได้อย่างไร

1. การผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าสู่สภาวะเครียด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมาจากต่อมหมวกไต โดยฮอร์โมนคอร์ติซอลจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตให้ผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) เพิ่มขึ้น ทำให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นการผลิตน้ำมัน (Sebum) จากต่อมไขมันในผิวหนังออกมามากขึ้น นอกจากนี้ฮอร์โมนคอร์ติซอลยังไปลดการผลิตสารเซราไมด์ (Ceramides), กรดไขมัน (Fatty Acids) และสาร NMFs (Natural Moisturizing Factors) ในชั้นผิวหนัง ซึ่งสารทั้ง 3 ชนิดนี้มีส่วนช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เมื่อเกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ส่งผลให้การสูญเสียน้ำจากผิว หรือ TEWL (Transepidermal Water Loss) เพิ่มขึ้น ผิวจึงสูญเสียน้ำง่ายและแห้งกร้าน ทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันมาเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวจนเกิดการอุดตันของรูขุมขนและเกิดสิว

2. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

โดยธรรมชาติแล้วระบบภูมิคุ้มกันมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเชื้อแบคทีเรีย การอักเสบ และการฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะเชื้อ Cutibacterium acnes (P. acnes) ที่อาศัยอยู่ตามรูขุมขน แต่หากคุณมีภาวะเครียดสะสม จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากขึ้นและลดประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อ P. acnes ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและเป็นสิวง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดภาวะระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติและเพิ่มสารอักเสบอย่างไซโตไคน์ (Cytokines) และฮิสตามีน (Histamine) ทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากการอักเสบช้าลง ทำให้สิวหายช้ากว่าปกติ

3. นอนน้อยลง

แม้ว่าระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะลดลงในช่วงกลางคืน เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อน แต่หากคุรยังคงเครียดมาตลอดทั้งวัน อาจทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงและกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ไม่สามารถเข้าสู่ภาวะผ่อนคลายได้ อีกทั้งยังกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) ที่กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันเลือดสูงขึ้น ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจนร่างกายไม่สามารถเข้าสู่โหมดพักผ่อน (Parasympathetic Mode)

นอกจากนี้ฮอร์โมนคอร์ติซอลยังเข้าไปขัดขวางการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) จนร่างกายไม่สามารถเข้าสู่ภาวะหลับลึกได้ง่าย ต่อให้หลับได้ 7-8 ชั่วโมง แต่ก็รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ดี หากปล่อยให้เกิดความเครียดเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายคุ้นชินกับการหลั่งคอร์ติซอลตอนกลางคืน ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับเรื้อรังแม้จะหายเครียดแล้วก็ตาม และอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมานอกเหนือจากสิวเครียด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกอ่อนเพลียตอนกลางวัน, ความจำสั้น, ไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงาน, อารมณ์แปรปรวนง่าย เป็นต้น

4. เกิดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิวง่ายขึ้น

หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าพอเวลาเครียดมากๆ ก็เผลอทำพฤติกรรมบางอย่างที่เสี่ยงต่อการเกิดสิวง่ายขึ้น เช่น

  • เผลอใช้มือจับหน้าหรือแกะสิวบ่อยๆ ด้วยมือของเราที่ไม่สะอาดและวิธีการบีบสิวที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
  • รับประทานอาหารที่กระตุ้นสิวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเราเครียดมากๆ จะรู้สึกว่าร่างกายต้องการน้ำตาลมากกว่าช่วงเวลาอื่น ส่งผลให้คุณรับประทานอาหารเหล่านี้มากขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินในร่างกายสูงขึ้นจนไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนและทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น
  • ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนมากเกินไป คงมีอีกหลายคนที่เวลาเครียดแล้วต้องดื่มเครื่องดื่มแก้เครียดสักหน่อย แต่หารู้ไม่ว่ากาแฟหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอลมากขึ้นและกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันเยอะขึ้น
  • สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ 2 หลายคนอาจมองว่า 2 สิ่งนี้จะช่วยคลายเครียดได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามบุหรี่มีผลทำให้หลอดเลือดตีบลงและลดการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังผิวหนัง ทำให้ผิวอักเสบและเกิดสิวง่าย ส่วนแอลกอฮอล์มีสารที่กระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกทางปัสสาวะมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดน้ำ ร่างกายจึงต้องผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาสมดุลและก่อให้เกิดสิวตามมา

สิวเครียด ขึ้นตรงไหนบ้าง

สิวเครียดส่วนใหญ่มักขึ้นบริเวณ T-Zone ได้แก่ หน้าผาก, จมูก และคาง ซึ่งเป็นจุดที่มีการผลิตน้ำมันและมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นของใบหน้า จึงมีโอกาสที่จะเกิดสิวเครียดได้ง่าย เพียงแต่สิวประเภทนี้อาจเกิดขึ้นบริเวณอื่นอย่างกราม ข้างใบหู แผ่นหลัง หน้าอก เป็นต้น

สิวเครียด อันตรายไหม

แม้ว่าสิวเครียดจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจส่งผลเสียต่อผิวพรรณและลดความมั่นใจในตัวเอง หากไม่รีบรักษาสิวเครียดอย่างตรงจุด อาจก่อให้เกิดผลเสียอื่นๆ ตามมาอีกมาก เช่น สิวอักเสบรุนแรงที่รักษายากและใช้เวลานานกว่าจะหาย มีรอยดำ รอยแดง และหลุมสิวทิ้งไว้บนใบหน้า แม้จะรักษาสิวหายแล้วก็ตาม ยิ่งถ้าใครมีปัญหาหลุมสิวลึกที่เกิดจากสิวเครียด ก็อาจเครียดหนักกว่าเดิม เพราะหลุมสิวประเภทนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการทาครีมรักษาหลุมสิว จำเป็นเข้ารับการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์เท่านั้น และหลายๆ วิธีจะต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลานานกว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: หลุมสิวหายเองได้ไหม ถ้าเกิดขึ้นแล้ว รับมืออย่างไรดี

สิวเครียด หายเองได้ไหม

สิวเครียดสามารถหายเองได้หากคุณสามารถจัดการกับความเครียดได้ ไม่ให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากเกินไป สำหรับวิธีจัดการความเครียดมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือดูหนังเรื่องโปรด ทำความสะอาดบ้าน ปลูกต้นไม้ วาดรูป อ่านหนังสือ หรือออกไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ หรือแม้กระทั่งการหันมาดูแลตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หรือออกกำลังกาย ล้วนแต่สร้างความสุขเล็กๆ ให้แก่คุณได้เช่นกัน

รับมือกับสิวเครียดอย่างไรดี

1. ลดความเครียด

การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ถือเป็นการรักษาสิวเครียดได้ถึงต้นเหตุอย่างแท้จริง สำหรับคำแนะนำในการลดความเครียดมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมที่ชอบหรือสนใจ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเครียด, หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไปที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดมากขึ้น, ออกกำลังกายแก้เครียด เช่น เดินเร็ว โยคะ ว่ายน้ำ ฯลฯ

2. ดูแลผิวให้ถูกวิธี

เริ่มต้นด้วยการล้างหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสม เช่น BHA, Salicylic Acid, Niacinamide หรือ Tea Tree Oil วันละ 2 ครั้ง, บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง, ทาครีมกันแดดทุกวันโดยเน้นสูตรบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อป้องกันผิวจากการอักเสบและรอยดำจากสิว, งดการสัมผัสผิวหน้าด้วยมือเปล่า หากจำเป็นต้องจับจริงๆ ก็ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจับเสมอ, งดการบีบสิวที่อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้เกิดสิวง่ายกว่าเดิม

3. ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว

สำหรับยารักษาสิวเครียดจะมีทั้งแบบทาภายนอก เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide), กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid), Niacinamide (ไนอะซินาไมด์) และยารักษาภายใน ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เช่น คลินดามัยซิน (Clindamycin), เตตราไซคลิน (Tetracycline), หรือโดซิไซคลิน (Doxycycline) ยาปรับฮอร์โมน (Oral Contraceptives) เพียงแต่การใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์รักษาสิวเท่านั้น เนื่องจากการใช้ยาเกินขนาดอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาได้ด้วย

รักษาสิวเครียดหายแล้ว แต่ยังมีหลุมสิว รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด

โปรแกรม ScarSurgery หรือ ศัลกรรมเสริมเนื้อใต้หลุมสิวถาวรด้วยเทคโนโลยี Juvgen จาก Gentle Clinic ที่ถูกคิดค้นด้วย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีด Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้แผลเป็น หลุมสิว หรือริ้วรอยร่องลึก โดยแพทย์จะฉีดสารเข้าไปทีละนิด ๆ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อปิดหลุมสิวในทันที แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง

นอกจากนี้ตัวเครื่องจูวีเจนถูกออกแบบสำหรับรักษาปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ คนไข้จึงไม่ต้องฉีดยาชาบรรเทาอาการเพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใดๆ ทั้งระหว่างและหลังการรักษาแล้ว และที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาอีกด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN ดียังไง ทำไมถึงเติมเต็มหลุมสิวลึกถาวร ภายในครั้งเดียว

บทความที่น่าสนใจ

ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic

Gentle Clinic เราเป็นทีมแรกในไทยที่ใช้เครื่อง JuvGen รักษาหลุมสิวและร่องลึก โดยได้รับการเทรนโดยตรงจาก Dr.จิน (Jin Se-hun) เราพร้อมด้วยประสบการณ์และเทคนิคในการยิงหลุมที่ลึกและยากกว่าหลุมทั่วไป เช่น box scar ที่มีขอบแข็ง หลุมแผลเป็นลึกจากอีสุกอีใส ร่องพับลึกบนหน้าฝาก เป็นต้น เราจึงกล้าการันตีผลการรักษา จ่ายครั้งเดียวจบ เติมหลุมสิวจนเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGen

แชร์บทความนี้

Facebook
Twitter

พร้อมยินดีให้คำปรึกษา

เจนเทิล คลีนิก เปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น.

บทความที่น่าสนใจ