แม้ว่าอาการเจ็บปวดน้อยบริเวณน้องชายเพียงเล็กน้อย อาจเป็นเรื่องที่ใครหลายคนมองว่าเป็นนาน ๆ ที จนละเลยสัญญาณเตือนบางอย่างที่ร่างกายกำลังบอกเราอยู่ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นนะ หากไม่รีบดูแลอาจเป็นอันตรายกับน้องชายได้ โดยเฉพาะอาการเจ็บหัวอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใครหลายคนเคยเจอและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับอาการดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและนำมาสู่การดูแลสุขภาพน้องชายให้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ
อาการเจ็บหัวอวัยวะเพศเป็นยังไง
เป็นอาการเจ็บปวด แสบ คัน หรือมีรอยแดงบริเวณส่วนหัวขององคชาต หากอาการไม่รุนแรงอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ นอกจากนี้อาการเจ็บตรงหัวน้องชายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีหนองไหล มีแผล ส่วนมากอาการปวดบริเวณหัวน้องชายมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยหรือการมีเพศสัมพันธ์โดยการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ นอกจากนี้หากพบอาการปวดอัณฑะลากไปจนถึงขาหนีบด้วย อาจเป็นสัญญาณเตือนของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือนิ่วในไตด้วยเช่นกัน
สาเหตุของการเจ็บหัวอวัยวะเพศ
- การดูแลความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือทำความสะอาดแบบผิดวิธี โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะหนังหุ้มปลายตีบ ไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดหัวองคชาตได้ จนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่มาจากเหงื่อไคล น้ำปัสสาวะตกค้าง หรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อคุณมีอายุเพิ่มขึ้น จะทำให้ผิวหนังบริเวณน้องชายยืดหยุ่นน้อยลง หนังหุ้มปลายจึงไม่สามารถเปิดได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน
- หัวองคชาตเกิดการระคายเคืองบ่อย เนื่องจากการสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย ยกตัวอย่างเช่น กางเกงชั้นในแบบแน่น, การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับผิวของน้องชาย, สารตกค้างในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า, อาการแพ้จากสารเคลือบถุงยางอนามัย, การสัมผัสอวัยวะเพศมากเกินไป เป็นต้น
- ติดเชื้อแคนดิดา (Candida) แม้ว่าจะเป็นเชื้อที่อยู่บริเวณปลายอวัยวะเพศชายในปริมาณน้อยก็ตาม แต่หากปล่อยให้เชื้อชนิดนี้สะสมอยู่ตามปลายอวัยวะเพศโดยที่ไม่ทำความสะอาดน้องชายให้หมดจด อาจเกิดการหมักหมมจนกลายเป็นการระคายเคืองและอักเสบบริเวณปลายอวัยวะเพศตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำปัสสาวะของผู้ป่วยโรคนี้จะมีปริมาณน้ำตาลสูง ส่งผลให้เชื้อแคนดิดาเจริญเติบโตได้ดีและติดเชื้อที่น้องชายง่ายขึ้น
- ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคไลเคน พลานัส (Lichen planus) เป็นต้น
อยากหายต้องทำยังไง
- เริ่มจากการทำความสะอาดน้องชายอย่างถูกวิธี โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องชายโดยเฉพาะ เนื่องจากน้องชายเป็นจุดซ่อนเร้นที่เปราะบางต่อสัมผัส หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์แรง อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังบริเวณนั้น ๆ และที่สำคัญไม่ควรราดน้ำแรง ๆ ใส่น้องชาย เพราะอาจทำให้เจ็บได้ง่าย ทางที่ดีควรราดน้ำผ่านตัว ให้น้ำไหลร่างกายลงไปยังน้องชาย ซึ่งจะช่วยป้องกันการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้อย่าลืมเช็ดน้องชายให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพื่อป้องกันการอับชื้นของน้องชาย (ทำความสะอาดอวัยวะเพศชายอย่างไรให้ถูกวิธี วันนี้เรามีคำตอบ)
- รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด การปล่อยเอาไว้เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หายเองนั้น ถือว่าถูกครึ่งไม่ถูกครั้งนะครับ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าอาการเจ็บหัวน้องชายอาจเกิดจากการทำความสะอาดไม่ดี หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นร่วมอื่น เช่น ติดเชื้อ หรือแม้แต่โรคประจำตัวก็ตาม ทางที่ดีควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหลังจากมีอาการ เพื่อให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยและป้องกันโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวกับน้องชายในอนาคต
- เลือกสรรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เกี่ยวข้องกับน้องชายให้มากขึ้น ในปัจจุบันมีแบรนด์ต่าง ๆ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยถนอมสุขภาพน้องชายของเรามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้นโดยตรง ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรอ่อน หรือแม้แต่ถุงยางอนามัยที่มีวางจำหน่ายหลากรส หลายรูปแบบ เพื่อช่วยลดโอกาสระคายเคืองน้องชายของเรามากขึ้น ทั้งนี้แนะนำให้ศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้องชายทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อสุขภาพที่ดีของน้อยชายในระยะยาว
- การขลิบช่วยได้ ในกรณีที่คุณไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายออกได้จนสุด หรือมีปัญหาหนังหุ้มปลายตีบจนปัสสาวะลำบาก ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างเต็มอรรถรส เนื่องจากหัวองคชาตไม่ได้สัมผัสหรือถูกทำความสะอาดโดยตรง การขลิบสามารถจัดการปัญหาตรงนี้ได้อย่างอยู่หมัด เนื่องจากการขลิบเป็นการผ่าตัดเอาหนังหุ้มปลายออก ซึ่งจะช่วยให้คนไข้ทำความสะอาดหัวองคชาตได้ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะ เทคนิคขลิบไร้เลือด ซึ่งเป็นการรักษาที่พัฒนามาจากการขลิบแบบเก่า ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยหลังการรักษา เนื่องจากวิธีนี้จะตัดและเย็บแผลในเวลาอันสั้น ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อย เสียเลือดน้อย แผลแห้งไว หายเร็วขึ้น แถมยังไม่ต้องเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษาอีกด้วย (การขลิบคืออะไร ทำไมต้องขลิบ การขลิบไร้เลือด ขลิบในคลิกเดียว Round Stapler Circumcision)
บทความที่น่าสนใจ
- หัวไม่เปิด มีเพศสัมพันธ์ได้มั้ย ทำไมต้องรักษาด้วยการขลิบไร้เลือด
- ภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ป้องกันได้ด้วยการขลิบไร้เลือด
- จัดการขี้เปียกที่คอยกวนใจ ด้วยการขลิบไร้เลือด
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
และเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน
โปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand