สิวซ้ำซากเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวหน้าที่ใครหลายคนกำลังประสบพบเจอ นอกจากจะลดความมั่นใจเวลาพบปะผู้คนแล้ว ยิ่งถ้าคุณดูแลผิวหน้าไม่ดีพออาการดังกล่าวก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบกับอาการนี้อยู่ ก็อาจจะอยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองซ้ำๆ ต้องเริ่มดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี วันนี้ Gentle Clinic มีข้อมูลดีๆ มาฝากครับ
สิวซ้ำซาก เกิดจากอะไร
1. ฮอร์โมน
ฮอร์โมนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสิวซ้ำซาก เนื่องจากฮอร์โมนจะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันในผิวหนัง หากฮอร์โมนบางชนิดถูกผลิตออกมามากเกินไปก็อาจมีผลทำให้ต่อมไขมันทำงานผิดปกติและผลิตน้ำมัน (Sebum) บนใบหน้ามากเกินไป ซึ่งน้ำมันนี้จะเข้าไปอุดตันรูขุมขนและกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวในที่สุด สำหรับฮอร์โมนที่มีผลต่อการเกิดสิวซ้ำซาก ได้แก่ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) อย่างเทสโทสเตอโรน (Testosterone) และฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) โดยฮอร์โมนเหล่านี้จะถูกผลิตขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ ได้แก่ วัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ รวมถึงช่วงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือนอีกด้วย
2. ความเครียดสะสม
เมื่อร่างกายเผชิญกับภาวะความเครียด ก็จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาในระดับที่สูงขึ้น โดยคอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อความเครียด มีผลต่อการทำงานทั้งระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบในร่างกาย หากร่างกายหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้ออกมามากเกินไป ก็จะกระตุ้นการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในผิวหนัง ซึ่งน้ำมันชนิดนี้จะไปอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้
นอกจากนี้ความเครียดยังไปกระตุ้นการอักเสบบริเวณผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและอักเสบง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใครมีผิวอักเสบอยู่แล้ว ภาวะความเครียดจะกระตุ้นให้เป็นสิวลุกลามได้ง่ายขึ้น อีกทั้งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติจนบางครั้งอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังบางประเภทที่นอกเหนือจากสิว เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน และที่สำคัญความเครียดยังทำให้เรานอนหลับยากขึ้น ไม่ตรงตามความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ระบบการแซมและฟื้นฟูผิวหนังระหว่างการนอนนั้นลดลง เป็นเหตุทำให้ผิวหนังอ่อนแอและเกิดสิวบ่อยขึ้น
3. การทำความสะอาดผิวที่ไม่ถูกต้อง
แม้ว่าคุณจะทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 2 ครั้งก็ตาม แต่หากคุณทำผิดวิธีก็อาจมีผลทำให้เกิดสิวซ้ำซากได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าบ่อยเกินไป ทำให้ผิวหน้าแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า, การไม่ล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนอาจทำให้เครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือมลภาวะต่างๆ เข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนและเกิดสิวได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว การใช้ผ้าขนหนูหรืออุปกรณ์เช็ดหน้าที่ไม่สะอาดอีกด้วยครับ
4. รูขุมขนอุดตัน
เป็นภาวะที่รูขุมขนถูกปิดกั้นจากสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมัน มลภาวะต่างๆ ส่งผลให้เหงื่อและน้ำมันจากต่อมไขมันถูกปิดกั้นและตกค้างอยู่ในรูขุมขนจนพัฒนาการเป็นสิวประเภทต่างๆ เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวอักเสบ โดยมีสาเหตุมาจากร่างกายผลิตน้ำมันมากเกินไป มีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วแต่ไม่หลุดลอกออกไปตามธรรมชาติ รวมถึงมลภาวะนอกบ้านที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้าของเรา
5. การรับประทานอาหารที่กระตุ้นสิว
แม้ว่าการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่จะเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำ แต่ยังมีอีกหลายคนที่นิยมรับประทานอาหารบางประเภทเพียงเพราะความชอบเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าอาหารบางประเภทสามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้ ดังนี้
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นอาหารที่ออกฤทธิ์เพิ่มระดับอินซูลินในเลือด ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันในผิวหนังและกระตุ้นการอักเสบในร่างกายจนสิวเกิดง่ายขึ้น สำหรับอาหารที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ น้ำอัดลม ขนมหวาน ช็อกโกแลต
- อาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว เป็นอาหารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ได้แก่ ฟาสต์ฟู้ด, ขนมอบที่มีไขมันทรานส์, เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง
- อาหารที่มีดัชนี GI (Glycemic Index) สูง เป็นอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะกระตุ้นการผลิตอินซูลินและฮอร์โมนแอนโดรเจนที่จะผลิตน้ำมันในผิวหนังมากขึ้น ได้แก่ ข้าวขาว, ขนมปังขาว, พาสต้า
- ช็อกโกแลต จากงานศึกษาบางงานพบว่า ช็อกโกแลตอาจมีส่วนกระตุ้นการเกิดสิว โดยเฉพาะช็อกโกแลตที่มีน้ำตาลสูงหรือส่วนผสมของนมมากมาย เช่น ช็อกโกแลตนม หรือช็อกโกแลตที่มีน้ำตาลสูง
- อาหารที่มีโซเดียมสูง มีผลทำให้ผิวแห้งและเกิดการผลิตน้ำมันมากเกินไปเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น ขนมคบเคี้ยว อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป
6. พันธุกรรม
ต่อมไขมันในผิวหนังของแต่ละบุคคลจะผลิตน้ำมันในปริมาณที่แตกต่างกัน หากพันธุกรรมของคุณมีส่วนทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันมากขึ้น ก็จะทำให้ผิวมันง่ายขึ้นและมีโอกาสเกิดสิวซ้ำซากได้มากกว่าคนทั่วไป
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงขนาดของรูขุมขนที่ใหญ่เกินไป ทำให้สิ่งต่างๆ อุดตันง่ายขึ้น, ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นหรือช่วงตั้งครรภ์, ความสามารถต่อการตอบสนองต่อการอักเสบอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบภายในรูขุมขนง่าย, การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ, การผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมบูรณ์ รวมถึงมีความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อการเกิดโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสิวอักเสบรุนแรง หรือโรคสะเก็ดเงินที่สามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้
7. สัมผัสใบหน้าบ่อยเกินไป
มือของเรามีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเป็นจำนวนมาก จากการสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ ในระหว่างวัน หากนำมือไปสัมผัสกับใบหน้า ก็จะถ่ายทอดแบคทีเรียไปยังผิวหน้าและเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน นอกจากนี้การสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ ก่อให้เกิดการระคายเคืองโดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกดหรือเสียดสีเป็นเวลานาน
8. ปัญหาสุขภาพภายใน
ปัญหาสุขภาพภายในมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายและการผลิตฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ (Gut Health) เช่น แบคทีเรียชนิดไม่ดีอยู่ในลำไส้มากเกินไปจนกลายเป็นปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เช่น ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำหรือสูง (Hypothyroidism หรือ Hyperthyroidism) อาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหนังและสิวง่ายขึ้น
ไม่อยากเกิดสิวซ้ำซาก ดูแลผิวหน้าด้วยวิธีไหนได้บ้าง
1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี
- ล้างหน้า 2 ครั้งต่อวัน ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ เช่น เจลล้างหน้าสำหรับผิวมันหรือผิวผสม เพื่อขจัดสิ่งสกปรก, น้ำมัน และเครื่องสำอางที่สะสมในระหว่างวัน
- ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นล้างหน้า เพื่อไม่ให้สิ่งตกค้างในรูขุมขน
- ไม่ล้างหน้ามากเกินไป เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นบนผิวหน้าที่ทำให้ผิวแห้งและผลิตน้ำมันมากขึ้น
2. ผลัดเซลล์ผิว (Exfoliate)
โดยใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวแบบสครับหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวสูตรอ่อนโยน เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและป้องกันรูขุมขนอุดตัน แต่ทั้งนี้ไม่ควรผลัดผิวบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคือง ผิวแห้ง เราขอแนะนำให้ทำประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอครับ
3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, มอยส์เจอไรเซอร์, และเครื่องสำอางนั้น เราขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) แม้ว่าผิวของคุณจะมัน แต่การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ก็ยังสำคัญเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในผิว ทั้งนี้ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยควบคุมความมันเพื่อลดโอกาสเกิดสิวซ้ำซาก
ส่วนครีมกันแดดเราขอแนะนำสูตรที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและควรใช้ครีมกันแดดที่ระบุว่า Non-comedogenic เพื่อป้องกันการอุดตันรูขุมขนและเกิดสิวตามมา
4. งดการสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะการใช้มือจับใบหน้าอาจทำให้สิ่งสกปรกจับมือเข้าสู่ผิวหน้าและรูขุมขน แต่หากต้องการสัมผัสผิวหน้าจริงๆ เราขอแนะนำให้ล้างมือเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อโรคและสิ่งสกปรก หรืออาจใช้ผ้าคลุมเพื่อปิดหน้าและลดการสัมผัสโดยตรง
5. รับประทานอาหารบำรุงผิว
สำหรับอาหารบำรุงผิวที่เราขอแนะนำจะเป็นปลาไขมันสูง (Omega-3 Fatty Acids) อย่างปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน ที่ช่วยลดการอักเสบในผิวหนัง, ปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผักใบเขียว (Antioxidants) เช่น ผักโขม, คะน้า, บร็อคโคลี ที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเต่งตึง ผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง เช่น ส้ม, ฝรั่ง, สตรอเบอร์รี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับยิ่งขึ้น โปรไบโอติกส์ (Probiotics) เช่น โยเกิร์ต, กิมจิ, เทมเป้ ที่ช่วยลดการอักเสบและปัญหาผิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เป็นต้น
สิวซ้ำซาก หลุมสิวเยอะ รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด
หากคุณเกินสิวซ้ำซากและมีหลุมสิวตามมาจำนวนมาก พยายามรักษาด้วยตัวเองแล้วก็ไม่หายสักที เทคนิคฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเองอย่าง JUVGEN จาก Gentle Clinic คือคำตอบ!! จูวีเจนถูกคิดค้นด้วย ดร.จิน หรือนายแพทย์ จินเซฮุน (Dr. Jin Se-hun) ศัลยแพทย์ชื่อดังจากเกาหลี ผ่านการฉีด Co2 foam ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อนุภาคเล็กเข้าไปยังชั้นหนังแท้ใต้แผลเป็น หลุมสิว หรือริ้วรอยร่องลึก โดยแพทย์จะฉีดสารเข้าไปทีละนิด ๆ เพื่อฉีกเซลล์ทิ้งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อปิดหลุมสิวในทันที แต่หลังจากการรักษาประมาณ 30-60 วัน ตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อคอลลาเจนจำนวนมากบริเวณหลุมสิว ส่งผลให้มีการเติมเต็มเนื้อเยื่ออย่างถาวร คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกลับมารักษาซ้ำเป็นรอบที่สอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JUVGEN ดียังไง ทำไมถึงเติมเต็มหลุมสิวลึกถาวร ภายในครั้งเดียว
ทำ Juvgen ที่ไหนดี ทำไมต้อง Gentle Clinic
GentleClinic เราเป็นทีมแรกในไทยที่ใช้เครื่อง JuvGen รักษาหลุมสิวและร่องลึก โดยได้รับการเทรนโดยตรงจาก Dr.จิน (Jin Se-hun) เราพร้อมด้วยประสบการณ์และเทคนิคในการยิงหลุมที่ลึกและยากกว่าหลุมทั่วไป เช่น box scar ที่มีขอบแข็ง หลุมแผลเป็นลึกจากอีสุกอีใส ร่องพับลึกบนหน้าฝาก เป็นต้น เราจึงกล้าการันตีผลการรักษา จ่ายครั้งเดียวจบ เติมหลุมสิวจนเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม JuvGen
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://page.line.me/gentleclinic
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand