เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเต็มหัว หัวของน้องชายก็จะสามารถรูดหนังออกมาทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่มีปัญหารูดออกมาไม่ได้ หัวยังไม่เปิดสักที หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพน้องชายตามมาในอนาคต วันนี้ Gentle Clinic จะมาพูดถึงสาเหตุและวิธีรักษาหัวน้องชายให้สามารถรูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดได้เหมือนคนอื่นกันครับ
สาเหตุที่ทำให้หัวยังไม่เปิด
โดยทั่วไปแล้วหนังหุ้มปลายของผู้ชายจะเริ่มถอยร่นตั้งแต่อายุ 1 – 2 ขวบ และสามารถเปิดหนังหุ้มปลายออกได้จนหมดเมื่ออายุ 17 ปี (คิดเป็นร้อยละ 90 ของผู้ชายทั้งหมด) แต่หากผ่านช่วงอายุนั้นมาแล้วแต่หนังหุ้มปลายก็ยังไม่เปิดสักทีอาจมีสาเหตุมาจากภาวะหนังหุ้มปลายตีบแต่กำเนิด หรือป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีผลทำให้หนังหุ้มปลายตีบอย่างโรคหนองในและโรคหูดหงอนไก่ นอกจากนี้ภาวะหนังหุ้มปลายตีบยังเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย หากเราทำความสะอาดน้องชายอย่างผิดวิธี ทั้งการทำความสะอาดที่รุนแรงจนเกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังหุ้มปลาย และการทำความสะอาดน้องชายไม่ทั่วถึง ไม่รูดหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดหัวองคชาตเป็นเวลานาน ส่งผลให้สารคัดหลั่งอย่างน้ำปัสสาวะ น้ำอสุจิ หรือเหงื่อไคลไหลตกค้างอยู่ในหนังหุ้มปลายกลายเป็นแหล่งอาหารและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเชื้อแคนดิดา (Candida albicans) ที่อาศัยอยู่ในหนังหุ้มปลายของเรา แม้ว่าร่างกายของเราจะมีเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่น (Normal Flora) ทำหน้าที่ปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายก็ตาม แต่เมื่อเชื้อแคนดิดามีมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดจากกการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน อย่างเช่นไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือมีคู่นอนมากกว่า 1 คน จนติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้หัวไม่เปิด
หัวยังไม่เปิดสักที อันตรายมั้ย
อันตรายครับ เพราะเมื่อเราไม่สามารถหนังหุ้มปลายออกมาทำความสะอาดหัวองคชาตได้ ก็จะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแคนดิดาที่ก่อให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากจะติดเชื้อเองแล้วยังสามารถแพร่กระจายไปยังคู่นอนของคุณได้อีกด้วย นอกจากนี้หากปล่อยไว้นานเกินไป อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและนำมาสู่การสูญเสียน้องชายในอนาคตได้อีกด้วยครับ
หัวยังไม่เปิดแก้ได้ไหม รักษาอย่างไรบ้าง
1. ทายารักษาหนังหุ้มปลายตีบ
คุณหมอจะจ่ายยาทาสเตียรอยด์อย่างยาเบต้าเมทาโซนชนิดทา (Bethamethasone) วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 6 – 12 สัปดาห์ หรือทาครีมไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) ความเข้มข้น 0.1 – 0.2% วันละ 2 – 3 ครั้ง ตามคำแนะนำของคุณหมอ แต่ทั้งนี้หากเกิดอาการแพ้ยาอย่างเช่น หายใจติดขัด ไอเป็นเลือด ปวดศีรษะรุนแรง มีเสียงแว่วในหูบ่อย ๆ อาจเกิดจากความดันโลหิตสูงหรือตับอ่อนอักเสบ ให้รีบพบคุณหมอทันที นอกจากนี้หากใช้ยาอย่างต่อเนื่องมาจนถึง 2 สัปดาห์แต่อาการไม่ดีขึ้นก็ควรรีบพบคุณหมอเช่นกันครับ เนื่องจากการใช้ยาเหล่านี้นานเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังบริเวณน้องชายนั่นเองครับ
2. ขลิบไร้เลือด
เป็นวิธีการรักษาปัญหาหนังหุ้มปลายตีบตันอย่างถาวรด้วยการใช้เครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ผ่าตัดหนังหุ้มปลายออกและเย็บแผลทันทีด้วยกลัดอลูมิเนียม ด้วยความที่เย็บแผลทันทีจึงช่วยให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อยและป้องกันการสูญเสียเลือดขณะผ่าตัดได้มากเลยทีเดียว ช่วยให้คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ สามารถกลับบ้านได้ทันทีที่ผ่าตัดเสร็จ นอกจากจะขลิบเสร็จภายใน 10 – 15 นาที แตกต่างจากการขลิบแบบดั้งเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลามาหาคุณหมอซ้ำเนื่องจากเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติมีความแม่นยำสูง ไม่ต้องมานั่งเก็บรายละเอียดแผลขลิบซ้ำรอบสอง ส่วนตัวกลัดอลูมิเนียมที่ใช้เย็บแผลแทนไหมนั้นจะหลุดออกเองภายใน 1 สัปดาห์ หากคนไข้ดูแผลขลิบตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ก็ยิ่งจะช่วยให้แผลหายไวยิ่งขึ้นด้วยครับ
แม้ว่าการขลิบไร้เลือดจะช่วยกำจัดหนังหุ้มปลายที่อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคจากสารคัดหลั่งได้ในระยะยาว แต่อย่าลืมนะครับว่าการดูแลแผลขลิบหลังการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะถ้าคุณดูแลแผลขลิบไม่ดี ละเลยการทำความสะอาดแผลเป็นประจำ ปล่อยให้แผลโดนน้ำ ไม่ยอมเช็ดแผลให้แห้งจนแผลอับชื้น ก็อาจนำมาสู่การติดเชื้อและแผลอักเสบตามมา นอกจากจะสร้างความเจ็บปวดต่อน้องชายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียน้องชายอย่างถาวรได้อีกด้วย และอีกอย่างที่คนไข้หลายคนมองข้ามนั่นคืออาการเจ็บปวดหลังขลิบไร้เลือด แม้ว่าการขลิบไร้เลือดจะมีความแม่นยำสูง ตัดหนังหุ้มปลายได้อย่างตรงจุด แต่ด้วยความที่หนังหุ้มปลายถูกตัดออก ย่อมสร้างความเจ็บปวดให้แก่น้องชายอยู่แล้ว จะดีกว่าไหมที่หลังขลิบแล้วคนไข้สามารถพักฟื้นน้องชายด้วยโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง จาก Gentle clinic ที่ช่วยลดการอักเสบของแผลด้วยการเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ส่งผลให้อาการอักเสบลดลง แผลหายไวขึ้นกว่าเดิม และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ใครหลายคนเข้ารับบริการขลิบไร้เลือดจากเรา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : บริการขลิบ ขลิบไร้เลือด ขลิบคลิกเดียว แผลเรียบสวย ไร้เลือด
บทความที่น่าสนใจ
- ปวดน้องชายบ่อยอันตรายมั้ย ป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นกับเรา
- มีตุ่มที่หนังหุ้มปลาย หายเองได้ไหม รักษาอย่างไรให้หายขาด
- เจ็บน้องชายบ่อย ภาวะอันตรายที่ใครหลายคนละเลย
ขลิบไร้เลือด ที่ไหนดี
แม้ว่าจะมีคลินิกขลิบไร้เลือดมากมาย แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Gentle Clinic ยืนหนึ่งในด้านสุขภาพทางเพศคุณผู้ชายและการขลิบ สามารถขลิบได้ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะเรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยลดการอักเสบของแผล ไร้ปวดได้ในทันที และไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน
โปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) หรืออุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างประเทศ เพื่อช่วยเร่งสมานแผลเรื้อรัง แผลเบาหวาน หรือแม้แต่แผลในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่เรานำมาใช้ ที่ GentleClinic เราดูแลให้ครบทั้งก่อนและหลังขลิบ ไม่เจ็บตอนทำ ไม่ปวดหลังทำ แล้วก็ไม่ต้องพักฟื้นครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand