ขลิบรอบสองเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจอยู่ไม่น้อย เมื่อพบว่าแผลจากการขลิบครั้งแรกไม่หายดีตามที่คาดหวังไว้ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ความจริงแล้ว การขลิบซ้ำไม่ใช่เรื่องของโชคไม่ดี หรือเป็นเพราะแพทย์ขาดทักษะ แต่มักเกิดจากการดูแลแผลที่ไม่เหมาะสม การขาดความรู้ในการรักษาความสะอาด หรือการมองข้ามคำแนะนำจากแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถป้องกันได้ หากเรามีความเข้าใจและปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้อง และในบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับสาเหตุแท้จริง พร้อมทั้งเผยเทคนิคการดูแลแผลแบบมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการขลิบครั้งแรกจะเป็นครั้งเดียวและสุดท้ายในชีวิต
ขลิบรอบสอง คืออะไร?
เป็นการทำหัตถการขลิบอีกครั้งหลังจากขลิบครั้งแรกไปแล้วสักพักหนึ่ง เนื่องจากแผลเดิมอาจสมานตัวได้ไม่ดี หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จนต้องกลับมาขลิบใหม่อีกครั้ง จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ภาวะแทรกซ้อนจากการขลิบเกิดขึ้นได้ 1-15% ของผู้ป่วยทั้งหมด ส่วนหนึ่งอาจต้องผ่าตัดแก้ไข แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเลี่ยงได้หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง แม้จะไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด เพราะบางครั้งการขลิบครั้งแรกอาจยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครบถ้วน หรือมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้แผลเกิดปัญหา แต่การขลิบรอบที่สองอาจเกิดผลข้างเคียงที่คนไข้จะต้องระวังมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการแผลหายช้ากว่าครั้งแรก เสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น เกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ง่ายขึ้น อาจรู้สึกเจ็บปวดหรือมีอาการบวมมากกว่าเดิม เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาชาหรือยาระงับความรู้สึกมากกว่าเดิม รวมถึงความกังวลและความเครียดทางจิตใจที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
ขลิบรอบสองเกิดจากอะไร
- ดูแลแผลหลังขลิบครั้งแรกไม่ถูกวิธี เช่น ไม่รักษาความสะอาดหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- แผลติดเชื้อหลังผ่าตัด ทำให้แผลสมานช้าและเกิดปัญหาจนต้องกลับมาขลิบซ้ำ
- ระบบไหลเวียนเลือดบริเวณแผลไม่ดี ทำให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวช้า
- เกิดพังผืดหรือแผลเป็นหนา (คีลอยด์) ส่งผลให้แผลไม่เรียบเนียน
- ภาวะสุขภาพของคนไข้ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ที่ส่งผลต่อการสมานแผล
- การใช้แรงหรือมีกิจกรรมที่ทำให้แผลฉีกขาดในช่วงพักฟื้น เช่น ทำความสะอาดแรงเกินไป มีกิจกรรมทางเพศรุนแรง
- ปัจจัยส่วนตัว เช่น ความเครียด หรือโภชนาการที่ไม่ดี ส่งผลต่อการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
- ประสบการณ์ของแพทย์ไม่ชำนาญพอ ทำให้การขลิบครั้งแรกไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ทำไมการดูแลแผลขลิบครั้งแรกถึงสำคัญมาก
การดูแลแผลขลิบในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ไม่ใช่แค่เรื่องของการรักษาความสะอาดเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อแผลขลิบของเราในระยะยาวอีกด้วยนะครับ เนื่องจากช่วงเวลานี้เซลล์ผิวหนังและเนื้อเยื่อจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมตัวเอง หากคนไข้ดูแลแผลขลิบด้วยวิธีที่เหมาะสม แผลจะหายแบบ “Primary Healing” คือแผลหายเรียบเนียน ไม่เป็นแผลเป็นนูนขึ้นมา แต่หากมีการติดเชื้อ การอักเสบ หรือดูแลแผลไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดการหายแบบ “Secondary Healing” ที่นอกจากจะหายช้าแล้ว ยังเกิดแผลเป็นนูน หรืออาจมีปัญหาต่อการใช้งานทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเกิดภาวะแทรกซ้อนในช่วงแรก เช่น แผลฉีกขาด เกิดการติดเชื้อในระดับรุนแรง หรือระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปยังการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ที่ทำให้รูปร่างและการทำงานไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และอาจต้องผ่าตัดซ้ำในอนาคต ดังนั้นการใส่ใจดูแลในช่วงเวลานี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดต่อสุขภาพน้องชายในระยะยาวครับ
ดูแลแผลขลิบครั้งแรกอย่างไรให้ถูกวิธี
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสแผล เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ใช้น้ำเกลือหรือสบู่ฆ่าเชื้อสูตรอ่อนโยนในการล้างแผลวันละ 1-2 ครั้ง (หรือตามแพทย์แนะนำ)
- ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดที่ไม่เป็นขุยซับแผลให้แห้ง หลีกเลี่ยงการใช้สำลีเพราะอาจมีขุยติดที่แผล
- หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์หรือยาทาแผลแรงๆ ที่อาจระคายเคืองเนื้อเยื่อจนทำให้แผลอักเสบ
- หลังทำความสะอาด ให้ใช้ผ้าก๊อซสะอาดปิดแผลและเปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่เป็นประจำทุกวัน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลเปียกน้ำ ทั้งจากการอาบน้ำหรือเหงื่อสะสม ควรซับแผลให้แห้งเสมอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: แผลขลิบกี่วันหาย อยากให้แผลหายไว ต้องทำยังไงบ้าง
สัญญาณเตือนว่าคุณอาจต้องขลิบรอบสอง
- แผลหลังขลิบครั้งแรกไม่สมานตัว แผลเปิดนานเกิน 2 สัปดาห์
- มีอาการบวม แดง หรืออักเสบรุนแรงบริเวณแผล
- ปวดแผลมากผิดปกติ ไม่ดีขึ้นตามเวลาที่ควรจะเป็น
- มีหนอง หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติจากแผล
- แผลเป็นนูนหรือมีเนื้อเยื่อเกิน (คีลอยด์) ที่ทำให้แผลไม่สวยงามหรือรู้สึกเจ็บ
- ปัสสาวะติดขัดหรือดูผิดปกติหลังจากขลิบ
- มีเลือดออกบ่อยๆ บริเวณแผลที่ขลิบ
- แผลตึงจนไปขัดขวางการเคลื่อนไหวหรือการทำกิจกรรมประจำวัน
ขลิบรอบสอง เตรียมตัวอย่างไร?
1. เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพและปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจากขลิบครั้งแรกอย่างละเอียด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยากลุ่มที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
- งดอาหารและน้ำตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนวันผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้แผลฟื้นตัวดีขึ้น
- เตรียมชุดผ้าสะอาดและกางเกงในที่ใส่สบายหลังการผ่าตัด
- เตรียมพื้นที่พักฟื้นในบ้านที่สะดวกและปลอดภัย เช่น เตียงนุ่มๆ สิ่งของที่จำเป็นอยู่ใกล้มือ
- วางแผนเรื่องการเดินทางและการพักผ่อนหลังผ่าตัด เพื่อให้มีเวลาพักฟื้นอย่างเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือการออกกำลังกายก่อนผ่าตัด เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดกับร่างกาย
2. เตรียมตัวหลังผ่าตัด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการล้างแผลและเปลี่ยนผ้าปิดแผล
- งดกิจกรรมหนักและการออกกำลังกายอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้แผลฉีกขาด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศจนกว่าแผลจะหายสนิทหรือแพทย์อนุญาต
- รับประทานยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน หากยาหมดแล้วควรพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาใช้เองเด็ดขาด
- รักษาความสะอาดบริเวณแผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- ใส่กางเกงในที่หลวมและระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยให้แผลแห้ง ฟื้นตัวไว
- พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อ เช่น ไก่ ปลา ผักโขม บร็อคโคลี่ ส้ม มะนาว กีวี
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามผลหลังผ่าตัดตามกำหนด
- หากพบความผิดปกติเพียงเล็กน้อย เช่น แผลบวม แดง ร้อน หรือมีหนอง ให้รีบพบแพทย์ทันที
คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้แผลหายไว
- ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือทำความสะอาดแผล
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือสัมผัสแผลโดยไม่จำเป็น เพื่อลดโอกาสติดเชื้อจากการระคายเคืองหรืออักเสบ
- ดื่มน้ำวันละประมาณ 12-13 แก้วน้ำ (3.7 ลิตร) เพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อทำงานเต็มประสิทธิภาพ
- งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะบุหรี่มีสารพิษและแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับน้ำในร่างกายที่มีผลทำให้แผลหายช้าลง
ท้ายที่สุดแล้วการขลิบรอบสองอาจฟังดูน่ากังวล แต่หากคุณจำเป็นต้องเข้ารับการขลิบจริงๆ เราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลของคลินิกและแพทย์ที่ทำการขลิบให้ละเอียดว่ามีประสบการณ์กี่ปี มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีรีวิวเคสแก้แผลขลิบให้เห็นเยอะไหม ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกลับมาขลิบซ้ำเป็นรอบที่สามนั่นเองครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: แผลขลิบไม่สวย แก้ได้ ด้วยเทคนิคเฉพาะจาก Gentle Clinic
บทความที่น่าสนใจ
- หลังขลิบไร้เลือด ใช้งานได้เลยไหม ดูแลยังไงไม่ให้มาหาหมอซ้ำ
- เล็มขนน้องชายแต่น้องชายยังมีกลิ่น อาจเกิดจากโรคที่คุณไม่รู้มาก่อน
- รวมทุกปัญหาน้องชายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อการดูแลน้องชายอย่างถูกวิธี
ขลิบรอบสอง ทำไมต้องขลิบ HBO จาก Gentle Clinic

ที่ Gentle Clinic เรามีโปรแกรม OXYLAB (HBO Hyperbaric Oxygen Therapy) เป็นอุโมงค์ออกซิเจนแรงดันสูง ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน และ Growth Factor ในเนื้อเยื่อให้สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพของการต้านการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดการอักเสบ ปวดบวม ฟกช้ำของกล้ามเนื้อ จึงไร้อาการปวดในทันทีและไร้อาการบวมอักเสบในวันต่อมา อีกทั้งช่วยเร่งสมานแผล ให้แผลแห้งไวภายใน 3 วัน ลดการติดเชื้อได้มากกว่า 90% จึงไม่ต้องพักฟื้นอย่างแท้จริง ไม่ต้องทำแผลเองที่บ้าน โดยบริการนี้คนไข้จะได้รับทันทีที่ขลิบไร้เลือดเสร็จ ซึ่งจะช่วยบบรเทาอาการปวดที่จะเกิดขึ้นหลังการขลิบได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่กำลังมองหา คลินิกขลิบปลายผู้ใหญ่ มากประสบการณ์ การันตีด้วยจำนวนเคสสำเร็จและรีวิวความประทับใจจากลูกค้าจำนวนมาก เรา Gentle Clinic คือคำตอบ เพราะเราเป็นคลินิกเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่นำเอาเครื่องขลิบแบบอัตโนมัติแบบสวมครอบ (Round Stapler) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้ในการรักษา ทำให้ใช้เวลาขลิบและเย็บแผลเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังการรักษาได้มากกว่าการขลิบแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง สามารถวิเคราะห์และรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถรับแก้เคสขลิบแผลไม่สวยงามจากการขลิบที่อื่น คลินิกของเราพร้อมให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 15 สาขา มีช่องทางการติดต่อให้ผู้ที่สนใจทั้ง 4 ช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
- เบอร์โทรศัพท์: 099-245-7555
- Line: https://bit.ly/Gentle4Men
- Facebook: Gentle Clinic
- Instagram: gentleclinic_thailand
รีวิวขลิบไร้เลือดจาก Gentle Clinic
ดูรีวิวเต็ม ๆ ได้ที่ ลิงก์นี้


















